"โจอี้" อรวิภา  กนกนทีสวัสดิ์
 

สาวสระบุรี "น้องโจอี้" น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นักศึกษาปี 3 ม.ธรรมศาสตร์ คว้ามงกุฎนางสาวไทยปี 2552 พร้อมกวาดรางวัลพิเศษพ่วงท้ายไปอีก 4 รางวัลรวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ตุลาคม ที่โรงละครอักษรา คิงส์เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ถนนรางน้ำ กรุงเทพฯ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2552 รอบตัดสินขึ้น เพื่อเฟ้นหาสาวงามเพียงหนึ่งเดียวที่เหมาะสมจะรับตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 45 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ทอแสงงามแห่งจิตใจ" เป็นตัวแทนของหญิงไทยในฐานะ "นางสาวไทย" และ "ทูตวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว" ของประเทศ

จากนั้นจึงมีการประกาศผลรางวัลพิเศษ ได้แก่ รางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน หมายเลข 3 ขวัญใจประชาชน ได้แก่ หมายเลข 14 น.ส.ปวริศา วสุธาสวัสดิ์ นางงามผิวสวย ได้แก่ หมายเลข 12 น.ส.กานต์พิชชา พิชยศ หรือ "น้ำผึ้ง" มิสเฮลท์ตี้ ได้แก่ หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ มิสธิ้ง โพสซิทีฟ ได้แก่หมายเลข 15 น.ส.นิษฐกานต์ สาธร มิสบอร์ดี้ เพอร์เฟค ได้แก่ หมายเลข 10  น.ส.กนกลดา บุตรพิมพา นางงามบุคลิกภาพ ได้แก่หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางงามมิตรภาพ ได้แก่หมายเลข 16 น.ส.กฤตยา วงศ์สุริทนร์ มิสอินเทลลิเจ้นท์ ได้แก่หมายเลข 2  น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ และมิสปริ้นซ์ ได้แก่หมายเลข 3  น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์

ต่อด้วยการประกาศผล 3 คนสุดท้าย ซึ่งได้แก่ หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หมายเลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐ และหมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น ทั้งหมดสวมใส่ชุดราตรียาวผ้าฝ้ายทอมือ ลาย "รักไม่รู้โรย" จากร้านจิตรลดา ซึ่งได้รับการออกแบบและตัดเย็บโดยสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ในโอกาสครบรอบ 60 ปี พระบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และการตอบคำถามในรอบสุดท้ายซึ่งเป็นคำถามเดียวกันทั้ง 3 คน ที่ว่าหากได้รับตำแหน่งนางสาวไทยแล้วมีโอกาสเสนอความคิดเห็นต่อนายกรัฐมนตรี โดยจะมีจิตวิทยาโน้มน้าวใจอย่างไร เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนแนวคิดด้านการพัฒนาสังคมของเธอ

          สำหรับนางสาวไทยคนล่าสุด น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หรือ "น้องโจอี้" เป็นชาวสระบุรี อายุ 20 ปี กำลังศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ความสามารถพิเศษร้องเพลง เชียร์ลีดเดอร์ และ ตีสคอวร์ช พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยหลังรับมงกุฎว่า ดีใจและเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ จะใช้ความรู้ ความสามารถด้านสังคมสงเคราะห์ที่เรียนมาปฏิบัติหน้าที่นางสาวไทยเพื่อช่วยเหลือสังคมให้มากที่สุด สิ่งแรกที่จะทำคือใช้ความเป็นกุลสตรีเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้มากที่สุด 

 ปล.เจ้าของกระทู้รู้สึกชื่นชมและเห็นด้วยกับความเหมาะสมของนางสาวไทยปีนี้ซึ่งเธอเหมาะกับทุกๆรางวัลที่เธอได้มาจริงๆและชอบแนวคิดของเธอในการตอบคำถามและสิ่งที่สำคัญคือ เธอได้บอกว่าเธอจะใช้ ความเป็นกุลสตรีเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณืของหญิงไทยและเป็นสิ่งที่คนไทยควรที่จะช่วยกันเผยแพร่และเก็บสะสมมันไว้เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นไทยตลอดไป

ปล.เวทีนางงามปีนี้เวทีนี้ถูกใจที่สุดและ  อิอิ!!


****เข้ามาชมแล้วก็ช่วยเม้นกันด้วยเน้อ อิอิ จะได้ให้โลกรู้ว่าเมืองไทยมีดี****