10 เรื่องจริง เกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้น
ผมเป็นคนนึงที่ติดละครจีนเรื่อง "เปาบุ้นจิ้น" เรื่องราวของขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ได้รับการยกย่องเป็นเทพแห่งความยุติธรรม
เปาบุ้นจิ้นเป็นละครที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นเก่าหรือเอามาทำใหม่ เมื่อเอามาฉายอีกทีไร ก็มีคนดูอยู่อย่างเหนียวแน่นทุกที
มาดูกันว่า "10 เรื่องจริงเกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้น" มีอะไบ้าง
1.
เปาบุ้นจิ้น เป็นเรื่องราวการสืบสวนคดีการฆาตกรรม โดยเนื้อเรื่องอาจไม่ได้ซับซ้อนเหมือนโคนันหรือคินดะอิจิ (เป็นเด็กหนุ่มสองคนที่ผมไม่มีวันให้เข้าบ้านเด็ดขาด ไม่รู้ว่าเป็นนักสืบหรือว่าตัวซวย มันไปที่ไหนมีฆาตกรรมในห้องปิดตายที่นั่น ทู้กกกที) และอาจจะไม่ได้เป็นการสืบสวนคดีที่ทันสมัยแบบ CSI (เท่าที่ดูมา ยังไม่เคยเห็นท่านกงซุนตรวจพิสูจน์ DNA) แต่ละคดีไม่ซับซ้อนนัก มีบ้างบางคดีที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่พอผ่านไปซัก 4 - 5 ตอน ก็จะมีหลักฐานมาจับตัวคนร้ายได้อย่างง่ายดายเสมอ
2.
พระจันทร์เสี้ยวบนหน้าผากเปาบุ้นจิ้น เป็น "พระจันทร์ข้างขึ้น" สาเหตุที่ต้องเป็นรูป "พระจันทร์เสี้ยว" ก็เพราะว่าถ้าเป็นรูป "สายฟ้า" จะไปซ้ำกับ "แฮรี่ พอตเตอร์" ซึ่งอาจเกิดปัญหาคือ เวลาที่โวลเดอมอล์โกรธ เปาบุ้นจิ้นอาจปวดหัวระหว่างการสืบสวนคดี จนท่านกงซุนต้องมาฝังเข็มให้
3.
"หวังเฉา" ต้องทำงานร่วมกับ "หม่าฮั่น" ส่วน "จางหลง" ต้องไปกับ "เจาหู่" เสมอ ไม่เคยได้ยินท่านเปาเรียกว่า "หวังเฉา เจาหู่" หรือ "หม่าฮั่น จางหลง" แต่อย่างใด คาดว่าคงทำงานไม่เข้าขากัน
4.
ตอนท่านเปาสั่ง "เบิกตัวผู้ต้องหา" ลูกน้องต้องรับพร้อมกันว่า "เว.............วู" ผมเคยถามแม่ที่มีเชื้อสายจีนเหมือนกันว่า "ม้า 'เว...วู' แปลว่าอะไร" แม่ตอบว่า "ไม่รู้"
ในบางครั้งผู้ต้องสงสัยทำอะไรที่ล่วงเกินท่านเปา ท่านเปาจะตะคอกด้วยเสียงอันดังว่า "บังอาจ" พร้อมกับตีกรับ พวกลูกน้องก็จะโกรธแค้นไปด้วย ต้องรับว่า "เว.................วู" เช่นกัน
5.
จั่นเจา แมวหลวงแห่งราชสำนัก สามารถปราบจอมยุทธ์ทุกคนในยุทธภพ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครมาจากไหน ฝึกวรยุทธ์มานานกี่สิบปี ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาหมู่ จั่นเจาก็รับไหว นับว่าเก่งกาจจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ
6.
ถ้าเปาบุ้นจิ้นถอดหมวกลาออกคนนึง ลูกน้องอีก 6 คนจะถอดหมวกลาออกตาม ศาลไคฟงจะเงียบเหงาไปในพริบตา
7.
ถ้าผมเป็นฮ่องเต้ ผมคงเฟว เพราะช่วงนี้ท่านเปาเล่นประหารคนในราชสำนักเกือบทุกตอนเลย ไทเฮา ฮองเฮา ราชบุตรเขย เครือญาติ ขุนนางน้อยใหญ่ แกประหารเรียบ
8.
เวลาจะสอบจอหงวน ต้องเริ่มท่องหนังสือที่บ้านในชนบทก่อน โดยการท่องหนังสือนั้น ต้องใช้มือซ้ายถือหนังสือ มือขวาไพร่หลังและที่สำคัญต้องโคลงหัวไปด้วย ไม่งั้นความรู้จะไม่ละลายเข้าสมอง ส่วนการสอบคงไม่ซีเรียสมาก เพราะแค่ท่องกลอนได้ก็ไปสอบจอหงวนเป็นขุนนางได้แล้ว ไม่ต้องเรียนวิชาอื่น
9.
ตามสถิติ บัณฑิตร้อยละ 80 พอสอบได้เป็นจอหงวนแล้วมักจะหลงอำนาจจนลืมบ้านเก่า ทำให้พ่อแม่ลูกเมีย ต้องมาตีกลองร้องทุกข์รบกวนท่านเปาอยู่บ่อยๆ
10.
กงกง (ขันทีในวัง) จริงๆแล้วเสียงแกแต๋วแตกขนาดนั้นจริงๆเหรอ??
ภาพนี้เอาฮา ผงซักฟอก"เปาบุ้นจิ้น"