คนบางคนขาดความมั่นใจในตัวเองว่า เสน่ห์หรือบุคลิกภาพของเราจะสามารถพิชิตใจคนที่เราหมายตาหรือหลงรักอยู่ได้ ทำให้หลายคนคิดเครื่องมือช่วยขึ้นมา เรา จึงได้ยินคำว่าน้ำมันพราย เสน่ห์ยาแฝดทำให้เกิดปัญหาติดตามอีกหลายอย่าง และเห็นได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์กันบ่อยๆ หลายคนเชื่อถือเอาจริงๆ จังๆ ว่าน้ำมันพรายและเสน่ห์ยาแฝดสามารถช่วยให้เรามีเสน่ห์ขึ้นจริงตามชื่อ
เจ้าคุณพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว ท่านไม่เห็นด้วยและอธิบายว่า คำว่าเสน่ห์นั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านแสดงหลักธรรมไว้ว่า มีวิธีที่ทำให้เกิดได้สี่อย่าง เรียกว่า หลักธรรมที่เป็นเครื่องคล้องใจ หรือผูกใจให้รักสี่ประการ
๑ ชอบช่วยหรือชอบให้ ท่านเรียกว่า ทาน
๒ พูดจาอ่อนหวาน ไพเราะจริงใจ ท่านเรียกว่า ปิยวาจา
๓ ทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย ท่านเรียกว่า สมานัตตา
๔ ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นเสมอ ท่านเรียกว่า อัตถจริยา เรียกรวมว่า สังคหวัตถุ ๔
ทำได้สี่อย่างนี้ถือว่าเป็นเลิศ ทำให้คนรักคนชอบได้เสมอไป เพราะล้วนเป็นหลักธรรมชาติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอย่อมเป็นที่เบื่อหน่ายเอือมระอา หรือเป็นที่เกลียดชังของคนที่ถูกขอ คนที่ถูกขอแล้วไม่ให้ก็ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนขอ เป็นตัวอย่างเพียงข้อเดียว เพราะฉะนั้นมีหลักธรรมเป็นเสน่ห์ ดีกว่ามีน้ำมันพรายเป็นเสน่ห์ เพราะน้ำมันพรายก็คือน้ำเลือดน้ำหนองของคน ไม่สามารถจะทำให้เกิดอะไรกับคนที่มีจิตใจเข้มแข็งดีงามได้ อย่าว่าแต่หลงรักเลย อีกอย่างหนึ่งการทำ ให้ผู้อื่นอยู่ในการลุ่มหลง ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามถือเป็นบาปทั้งนั้นตามคติพุทธ คนที่เรียกตนเองว่าเกจิอาจารย์และมีการกระทำทางไสยศาสตร์ก็บาป คนที่ไปจ้างเกจิอาจารย์ก็บาป
น้ำมันพรายหรือเสน่ห์ยาแฝด จะมาสู้อะไรกับความมั่นใจในตัวเอง ความเป็นมนุษย์ของเรา และชีวิตที่มีหลักธรรมไม่ว่าศาสนาใด
โดย มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.)