แนวชายฝั่งของ Costa Brava อันสวยงาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน El Bulli
El Bulli ตั้งอยู่ที่ประเทศสเปน ถูกจัดให้เป็นร้านอาหารที่มีลูกค้าจากทั่วโลก โดยเฉพาะนักกินที่ชอบล่าร้านติดดาวของมิเชอลินหมายตาให้เป็นร้านหนึ่งที่ต้องหาโอกาสไปกินให้จงได้
ทางเข้าร้านEl Bulli
เนื่องเพราะร้านนี้ได้รับการโหวตว่าเป็นร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปี 2008 ( รางวัล The Best Restaurant in the World จัดอันดับโดย Restaurant magazine ) ขณะที่ปี 2007 ก็ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของ El Bulli กลายเป็นจุดสนใจของนักกินจากประเทศต่างๆ ขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะ นักกินจากที่อื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน นอกเหนือไปจากนักกินจากประเทศต่างๆ ในยุโรป ที่ส่วนใหญ่มักรู้จักร้านนี้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ลูกค้าในกลุ่มละติน อย่าง ฝรั่งเศส อิตาเลียน โปรตุเกส หรือ สแปนิช แต่ที่ยังไม่ได้มาลิ้มรสก็เพราะปัญหาในเรื่องของการสำรองที่นั่ง
มุมสวย ๆ ภายในร้านที่สามารถมองเห็นความงดงามของทะเล
การบริหารของร้านนี้นับว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ เนื่องเพราะ ร้าน El Bulli จะเปิดให้บริการเพียงปีละ 6 เดือนเท่านั้น คือระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน และพอถึงเดือนตุลาคมจะเปิดรับสำรองที่นั่งของลูกค้าที่จะมากินในปีหน้า เรียกว่าต้องจองกันข้ามปีทีเดียว
ดังนั้นในช่วง 6 เดือนที่เปิดให้บริการนั้น จะรับลูกค้าเพียง 8,000 คนเท่านั้น ไม่มากหรือน้อยกว่านี้ ทั้งๆ ที่เมื่อเปิดให้จองที่นั้นมีคนเข้าคิวจองถึง 2 ล้านคนในช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน หมายถึงว่าในแต่ละวัน ทางร้านสามารถให้บริการลูกค้าได้ประมาณวันละไม่เกิน 50 คนเท่านั้น มีเรื่องเล่าว่าขนาดซุปเปอร์สตาร์ดังของฮอลลีวู้ดเดินเข้ามากินโดยไม่ได้จองยังต้องเดินผิดหวังกลับไปเลย
ส่วนราคาอาหารของร้าน El Bulli นั้นจัดว่าสูงทีเดียว เพราะเฉลี่ยแล้วคนหนึ่งจะต้องจ่ายค่าลิ้มลองอาหารในร้านนี้ 250 ยูโรหรือประมาณคนละ 12,500 บาท
ความจริง ร้าน El Bulli ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบการจัดอันดับครั้งแรกเมื่อปี 2002 และต่อมาในปี 2006 2007 และล่าสุดคือปี 2008 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ยังครอง 3 ดาวอันเป็นมาตรฐานสูงสุดของ “มิเชอลิน” มาโดยตลอด ส่งให้ชื่อของร้านนี้กลายเป็นที่หมายปองของนักชิมระดับลิ้นทองที่จะต้องมาชิมให้ได้
อาหารหน้าตาสวย ๆ 1
ปัจจุบันมีเชฟ Ferran Adria เป็นพ่อครัวใหญ่ผู้ดูแลกำกับการปรุงอาหารทุกจานด้วยตนเอง โดยมีทีมพ่อครัวซึ่งเป็นลูกมืออีก 42 คน และที่นี่ ยังเป็นร้านอาหารที่ผู้อยู่ในวิชาชีพนี้ทั้งผู้ที่เพิ่งจบวิชาการครัวและพ่อครัวอาชีพ ส่งจดหมายแนะนำตัว เพื่อสมัครเข้าฝึกงานโดยยินยอมไม่รับค่าจ้างใดๆ อีกปีละ 400 คน ซึ่งทุกคนที่มาฝึกงานล้วนต้องการที่จะได้เรียนรู้นำประสบการณ์จากร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ไว้อ้างถึงในการสมัครงานตามร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆ อันจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตนได้มากยิ่งขึ้น เท่ากับเป็นประกาศนียบัตรสำคัญในวิชาชีพทีเดียว
อาหารหน้าตาสวย ๆ 2
ร้านอาหาร El Bulli เริ่มต้นในปี 1961 โดยชาวเยอรมัน Dr.Hans Schilling และภรรยา เป็นผู้มาพบที่สวยแปลงนี้ในประเทศสเปน และด้วยทัศนียภาพที่โดดเด่นของที่แปลงนี้ ที่ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาคู่นี้ถึงกับอดใจไว้มิได้ เพราะสามารถมองเห็นอ่าว Cala MonJoi เมือง Roses ซึ่งอยู่ในแนวชายฝั่งของ Costa Brava ในแคว้น Catalonia ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกใกล้ชายแดนฝรั่งเศส อันเป็นทิวทัศน์ที่สุดจะงดงามแก่ผู้ที่ได้เห็น และทั้งคู่ตัดสินใจที่จะสร้างเป็นร้านอาหารเล็กๆ เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้มีโอกาสชื่นชมความงามของธรรมชาติตรงจุดนี้ และตั้งชื่อร้านว่า El Bulli ซึ่งมาจากชื่อของสุนัขบลูด็อกที่เขาเลี้ยงไว้ โดยใช้เวลาก่อสร้างและเตรียมงานถึง 3 ปี ด้วยการก่อสร้างทีละเล็กละน้อย ด้วยมิได้เร่งรีบ และเปิดให้บริการในปี 1964
เชฟ Ferran Adria และทีมงานที่ช่วยกันรังสรรค์อาหารอร่อย
การทำงานของทีมเชฟภายในห้องครัว
ร้านนี้เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงเป็นลำดับจนได้รับดาวดวงแรกของมิเชอลินในปี 1976 เท่ากับใช้เวลาถึง 12 ปี และในยุคแรกร้านอาหารแห่งนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Jean-Louis Neichel พ่อครัวชาวฝรั่งเศสผู้สร้างชื่อเสียงให้กับ El Bulli เป็นคนแรก ต่อมาเชฟ Ferran Adria ได้เข้ามาร่วมงานในปี 1984 และ 3 ปีต่อจากนั้น เขาก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้รับผิดชอบครัวของร้านแต่เพียงผู้เดียว และดาวดวงที่สองจากมิชเชอลินก็มอบให้ในปี 1990 ตามด้วยดาวดวงที่สามในปี1997
เกียรติยศที่ร้าน El Bulli ได้รับนอกเหนือไปจากร้านอาหาร 3 ดาวของมิชเชลิน ร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปี 2002 2006-7และ 2008 แล้ว ยังได้รับการยกย่องให้เป็น “ร้านที่มีจิตนาการในการตกแต่งอาหารชั้นสูงได้ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งพิภพ” อีกด้วย นับว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของเชฟ และผู้เป็นเจ้าของ ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจมานานนับสิบปี