อั้ม จัดหนัก แฉ เก๋ รุ่งนภา โกหก 9 ข้อ


"อั้ม-โน้ต" ถ่ายกับเพื่อนๆ ในวันเกิดเหตุ

"อั้ม" ทะลักจุดแตก ออกโรงร่ายยาวเป็นชุด จับผิด "เก๋ รุ่งนภา" โกหก 9 ข้อ ยันไม่ได้ฉุดแขนเก๋ แต่ยอมรับว่าโมโหและข้องใจก็เลยต้องเดินเข้าไปถามว่า รู้จักกับโน้ตหรือเปล่า ทำไมต้องมาลูบหลังกันด้วย ด้าน "เกษ" หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า เก๋สุดแสบตามองเพื่อนแต่มือลูบหลังแฟนอั้มล้านเปอร์เซ็นต์ และไม่มีการกล่าวคำทักทายเหมือนที่ให้สัมภาษณ์
      
       หลังจากที่ "เก๋รุ่งนภา พงศ์ทิพย์สุคนธ์” หรือ "ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์" ออกมาให้สัมภาษณ์กับบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ตอบโต้ "อั้ม พัชาภา ไชยเชื้อ" ซูเปอร์สตาร์คนดัง กรณีที่มีข่าวว่าเก๋ ไปลูบไล้หลัง "โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์" แฟนหนุ่มของอั้ม โดยเจ้าตัวปฏิเสธเรียบว่า ไม่เคยไปลูบไล้โน้ตแต่เป็นการแตะหลังเพื่อทักทายเฉยๆ ซ้ำยังบอกว่า โน้ตเคยเป็นแฟนเก่าของเพื่อนคงไม่มีทางไปเอาแฟนเก่าเพื่อน พร้อมกับแฉว่าอั้มพูดจาไม่สุภาพ เหน็บแบบเจ็บๆ ว่า บางทีดาราที่ดูพูดตรงๆ แต่จริงๆ ก็เสแสร้ง พอเจอเข้าแบบนี้ทำเอาอั้มถึงกับเครียดเลยทีเดียว ยืนยันว่า สิ่งที่เก๋พูดไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับร่ายยาวจับผิด 9 ข้อที่ไม่เป็นความจริงโดยอั้มได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวชนิดหมดไส้หมดพุงว่า...
      
       "พออ่านข่าวของเขาแล้วอั้มต้องบอกเลยนะคะว่า อั้มต้องยอมรับในความชาญฉลาดในการสัมภาษณ์ของเขา คือเขาป้องกันตัวเองไว้ทุกด้าน อั้มอยากบอกว่า อั้มไม่สามารถทำให้คนทั้งประเทศเชื่อได้ แต่อยากจะบอกว่าสิ่งที่เขาพูดมาไม่เป็นความจริงทั้งหมดเลยค่ะ ที่อั้มอ่านบทสัมภาษณ์ในเวปของผู้จัดการอั้มระบุเป็นข้อๆ ได้เลย คือข้อ 1.เขาไม่ได้กล่าวทักทายเสมือนคนรู้จักกันเลย ข้อ 2.ไม่มีคำว่าขอโทษ ที่เขาพูดว่า ขอโทษนะคะเมื่อกี้ได้ยินแล้วนะคะว่าเก๋กับโน้ตรู้จักกันจะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีก เหตุการณ์วันนั้นไม่มีคำพูดนี้นะคะ ข้อ 3. ไม่มีการฉุดแขนเขา อั้มไม่ได้ฉุดแขนเขานอกจากสะกิดแล้วถาม ข้อ 4. เขาไม่ได้แตะหลังโน้ตแล้วพูดคำว่า เฮ้ย..หวัดดี อันนี้ไม่ใช่ แต่เขาลูบหลังตามความกว้างของแผ่นหลัง"
      
       "วันนั้นโน้ตนั่งอยู่หัวโต๊ะเขาเดินมาถึงเขาไม่ได้ทักทายอะไร ไม่ได้พูดว่าเฮ้ย...หวัดดีนะ แล้วเขาก็ลูบจากด้านซ้ายไปขวา ข้อ 5. คือเราไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อนอย่างที่เขาพูดว่า เพื่อนในกลุ่มบอกเขาว่า เราทะเลาะกันมาก่อนก็เลยของขึ้น จริงๆ คือเราไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ เรามาเที่ยวที่ร้านพี่ชายของโน้ตไม่มีการทะเลาะกันค่ะ ข้อ 6. อั้มไม่ได้หึงเขาเลย อั้มไม่มีความจำเป็นจะต้องไปหึงเขา อั้มอ่านข่าวแล้วก็จดมาเป็นข้อๆ เลย คืออั้มกำลังงงกับสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่เขาพูดมันมีมูลจริง แต่คำพูดที่เขาให้สัมภาษณ์เขาไม่ได้พูดแบบนั้นในวันนั้น ข้อ 7. คือไม่มีคนในโต๊ะดึงแขนเขาให้ออกมาพูดนอกร้าน"
      
       "มีน้องคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันเขาก็เห็นเหตุการณ์ และเขาก็เป็นคนพูดกับเก๋ว่า ขอโทษนะพอเหอะแล้วไปซะ เขาก็นิ่งอึ้งๆ แล้วเขาก็เดินออกไป ไม่มีที่แบบเพื่อนมาลากออกไปหรือพูดว่าใจเย็นๆ แล้วดึงออกไปนอกร้าน เขาเดินออกไปเอง แต่หลังจากนั้นใครเดินออกไปนอกร้านหรือเปล่าอั้มไม่รู้ แต่ในระหว่างที่เกิดเรื่องไปจนถึงประมาณ 10 - 15 นาทีไม่มีใครเดินตามเขาออกไปหรือลากเขาออกไปไม่มีค่ะ"
      
       "ข้อ 8. คือโน้ตไม่ได้กลัวอั้มอย่างที่เขาบอกว่า ผู้ชายก็กลัวผู้หญิง โน้ตเขาไม่ได้กลัวค่ะ เขาบอกอั้มแล้วว่า เขารู้จักแต่ไม่ถึงกับสนิทถึงขนาดต้องมาลูบกันได้ แล้วโน้ตเองก็ยังตกใจว่าเฮ้ย...ทำไมเขากล้ามาลูบ อั้มก็ถามโน้ตว่า โน้ตสนิทกับเขาหรือเปล่าเขามาลูบขนาดนี้เลยหรอ โน้ตก็บอกไม่เลยไม่ได้สนิท เหตุการณ์ 8 ข้อนี่คือเรื่องจริง ส่วนเรื่องที่เขาเหน็บแนมอั้มเรื่องอื่น อั้มไม่สามารถจะแก้ได้ อยากเหน็บแนมอั้มก็เหน็บแนมไปเถอะ แต่ 8 ข้อที่เขาพูดมันไม่ใช่เลย ไม่ใช่แม้แต่นิดเดียว"
      
       "เรื่องของเรื่องก็คือ วันนั้นอั้มนั่งอยู่ในร้านและนั่งหันหลังให้ประตูทางเดินเข้า อั้มนั่งติดกับน้องผู้ชายคนหนึ่งและโน้ตนั่งหัวโต๊ะ แล้วฝั่งตรงข้ามอั้มมีน้องผู้หญิงสองคน อีกคนเป็นน้องที่เขารู้จักด้วย เขาก็เดินผ่านไปข้างหลังโน้ตและก็มีการลูบจากซ้ายไปขวาไม่มีการกล่าวคำทักทายนะคะ และก็เดินไปฝั่งตรงข้ามอั้มซึ่งมีผู้หญิงสองคนนั่ง แล้วเขาก็คุยทักทายเพื่อนเขา อั้มกับโน้ตก็อ้าปากค้าง น้องอีกคนที่เห็นก็อ้าปากค้าง แล้วอั้มหันไปถามโน้ตที่นั่งอยู่ขวามือของอั้มว่า โน้ตรู้จักกับเขาหรือเปล่า รู้จักขนาดที่เขาต้องมาลูบแบบนั้นเลยหรอ โน้ตก็บอกว่า รู้จักแต่ไม่ได้สนิทเลย อั้มถามโน้ตด้วยอารมณ์ที่แบบธรรมดาไม่ได้ทะเลาะกันเลย อั้มก็อยากรู้ว่ามันยังไง อั้มก็เลยเดินไปถามเขาแต่อั้มไม่ได้ฉุดแขนเขาเลย อั้มสะกิดที่ไหล่แต่ไม่ได้ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ไม่มีการด่า วันนั้นเขาใส่เกาะอกสีขาวใส่กระโปรงบานๆ อั้มก็สะกิดที่ไหล่ของเขา นี่รู้จักกันหรอ ทำไมถึงมาลูบอย่างนั้น"
      
       ตอนที่ไปถาม "เก๋" ถามเพราะอยากรู้หรือว่าโมโห
       "อยากรู้....แต่ถามว่าโมโหไหม อั้มยอมรับว่าโมโห แต่อั้มไม่ได้ขึ้นเสียงกับเขานะ เสียงอั้มราบเรียบแต่ไม่มีคำพูดคะขากับเขาแน่นอน ซึ่งคำพูดไม่คะขาอาจจะเป็นคำพูดไม่สุภาพสำหรับเขาหรือเปล่าไม่ทราบ คือลูบน่ะ.....อั้มอยากให้แจงชัดๆ เลยนะคะ การทักทายมันมีหลายแบบ จะทักทายกันแบบว่า เฮ้ย...หวัดดีจับไม้จับมือทักทายเหมือนคนรู้จักกัน ไม่ใช่ว่าเดินลูบหลังเขาไปแบบนั้นมันไม่ใช่ แล้วอั้มคบกับโน้ตไม่ได้ปิดบัง เราเปิดเผยว่าเราคบกัน แต่อั้มเชื่อได้เลยว่า เขาทำแบบนั้นเพราะเขาไม่เห็นอั้ม ถ้าเขาเห็นอั้มเขาคงไม่ทำแบบนั้น"
      
       "เอ้าต่อ....พออั้มสะกิดเขาถามว่า รู้จักกับโน้ตหรอ เขาบอกก็รู้จักกันค่ะ อ้อและก็ขอเพิ่มข้อ 9. ด้วยค่ะ ที่เขาพูดว่า มึงไม่รู้จักกูหรอ เขาไม่ได้พูดอย่างนั้นเขาไม่ได้พูดกูมึง แต่ที่เขาให้สัมภาษณ์แบบนั้นเพราะเขาต้องการสร้างความสนิทสนมหรือเปล่าเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ พอเขาบอกว่ารู้จักค่ะ เขาก็หันไปถามโน้ตว่า โน้ตไม่รู้จักเก๋หรอ โน้ตก็บอกว่า รู้จักแต่ว่าไม่ขนาดนี้ อั้มก็เลยถามเขาว่า แล้วทำไมต้องลูบหลังเขาด้วย เป็นอะไรมากเปล่า อั้มถามอย่างนี้ อั้มก็บอกตรงๆ ว่าอั้มถามอย่างนี้ ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ อั้มพูดนิ่งๆ แต่ไม่มีคะขากับเขานะคะ อั้มไม่มีการฉุดแขนเขาและอั้มก็เดินกลับมาที่โต๊ะ"
      
       "แล้วมีน้องที่นั่งฝั่งตรงข้ามอั้มพูดกับเขาว่า ขอโทษนะหยุดเถอะแล้วก็ไปซะ เขาก็อึ้งเขาก็เดินไป ส่วนอั้มพอจบตอนนั้นก็ไม่ได้โกรธอะไรแล้วหายโกรธแล้วทุกอย่างก็เป็นปกติ แล้วพอตกดึกก็เห็นเขาจูงมือแฟนเขามาที่โต๊ะมาคุยกับเพื่อนเขาคงจะประมาณว่า ฉันมากับแฟนนะไม่ได้มีอะไรนะ เราก็รู้ว่าเขาไม่มีอะไรหรอก เพราะโน้ตเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร และโน้ตก็ทำท่าตกใจที่โดนลูบหลัง แล้วที่เขาพูดว่า เก๋ก็งงว่าทำไมคนรู้จักกันทำไมจะจับหลังกันไม่ได้ป้ายก็ไม่ได้มีติดไว้หนิ อั้มอยากจะบอกว่า นี่ชีวิตจริงนะคะต้องติดป้ายไว้ด้วยหรอ มีคนติดป้ายไว้ด้วยหรอคะ ถ้าไม่ติดป้ายแล้วยังไงน้องจะเข้ามาลูบไล้อะไรก็ได้หรอคะ ก็อยากจะบอกตรงนี้ว่า เขาไม่ควรจะทำแบบนี้ ต่อให้ติดป้ายหรือไม่ติดป้ายก็ไม่ควรทำแบบนี้ น้องเขาเป็นผู้หญิงมันดูไม่ดีเลย ตัวอั้มเป็นคนที่แรงแต่อั้มไม่เคยทำแบบนี้"
      
       "และอั้มก็ไม่รู้ว่านะว่าเขามีวิธีพูดอะไรยังไง แต่เขาฉลาดในการพูดมาก อั้มเรียนประชาสัมพันธ์มาแต่อั้มไม่สามารถจะเขียนข้อความได้ขนาดนี้เลย ไม่สามารถจะมาสร้างอะไรได้แบบนี้ อั้มจะพูดตามแบบที่อั้มเห็นวันนั้นและสิ่งที่อั้มได้พูดวันนั้น ย้ำอีกทีเลยว่า อั้มไปสะกิดเขาและพูดว่า รู้จักกันด้วยหรอ ทำไมต้องมาลูบแบบนี้ด้วย เป็นอะไรมากหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่อั้มพูดกับเขา และเขาก็พูดคำว่า รู้จักค่ะ นี่คือพูดกับอั้ม และก็พูดอีกคำหนึ่งกับโน้ตว่า โน้ตไม่รู้จักเก๋หรอ แค่นั้นเองไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์ในข่าวเลย"
      
       ส่วนเรื่องที่ "อั้ม" บอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ "เก๋" ยืนยันว่าเหตุการณ์พึ่งเกิดขึ้นนั้น อั้มบอกว่า.....
       "มีนักข่าวมาสัมภาษณ์อั้มเมื่องานที่เปิดตัวสินค้าอย่างหนึ่ง เมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมา ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ นักข่าวก็พูดกับอั้มว่า พี่อั้มอย่าไปพูดอะไรเยอะ ให้บอกว่าเรื่องมันผ่านมานานแล้ว พอเขาสัมภาษณ์ อั้มก็พูดไปตามนั้น พอเขาถามมีปัญหากับไฮโซคนหนึ่งหรือเปล่า อั้มก็บอกว่า อั้มไม่ได้ทะเลาะกับไฮโซคนไหนเลย นักข่าวก็บอกเขาเป็นดาราด้วยไง อั้มก็เลยอ๋อ...ถ้าเป็นดาราคนนี้เขาเคยเล่นละครมานานแล้วและก็ผันตัวเองไปเป็นเซเลปฯ อั้มก็ไม่รู้ว่า เป็นเพราะคำพูดนี้ถึงทำให้เขาโกรธอั้มจนทำให้มาพูดอย่างนี้หรือเปล่า"
      
       "ตอนนี้อั้มมีข่าวเกี่ยวกับผู้หญิงผู้ชายเยอะมาก ทำให้เขาจับประเด็นตรงนี้หรือเปล่าว่า อั้มกับโน้ตกำลังมีปัญหากันอยู่ คือมันไม่ใช่ค่ะ มันไม่ใช่เลย อ่านแล้วอั้มรู้สึกว่า เฮ้ย...สามารถ....กันได้ขนาดนี้เชียวหรอ อั้มเครียดนะคะ อย่างที่บอกว่า อั้มไม่สามารถทำให้คนเข้าใจอั้มได้ทั้งหมด แต่อั้มเป็นห่วงน้องๆ ที่อยู่ในเวปของอั้มว่าเขาจะคิดยังไง แต่อั้มก็มีการคุยกับน้องๆ แล้วว่า ขอให้เชื่อในคำพูดของอั้มว่าอั้มพูดความจริง อั้มไม่ได้บิดเบือนแม้แต่นิดเดียว ที่อั้มให้สัมภาษณ์ในวันนี้ อั้มต้องแจกแจงเป็นข้อๆ เพราะอะไร เพราะอั้มเป็นคนขี้หลงขี้ลืม อั้มต้องเปิดเวปดูว่า เขาให้สัมภาษณ์ว่ายังไงบ้าง และก็ไล่มาเป็นข้อๆ"
      
       "ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ คนรู้จักกันมันทักทายตบบ่ากันได้ จับไม้จับมือกันได้ อันนี้มันไม่อะไร แต่อันนี้อั้มรู้สึกว่า มาลูบอย่างนั้นเพื่ออะไรหรอ อั้มก็อยากจะพูดถึงความรู้สึกในวันนั้นที่อั้มได้รับรู้ด้วยตัวเอง และอั้มก็ไม่คิดว่าเขาจะโกรธขนาดนี้ด้วย แต่อย่างว่าสิ่งที่อั้มพูดตอนนั้นอาจจะทำให้เขารู้สึกเสียหน้าต่อหน้าเพื่อนหรือเปล่า อั้มไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงเขาถึงพูดให้สัมภาษณ์ขนาดนี้ สิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์มันทำให้อั้มเสีย แต่ถ้าอั้มต้องไปเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก อั้มก็คงต้องถามเพราะอั้มไม่รู้เขาต้องการอะไร อั้มไม่รู้ว่าการถามของอั้มจะทำให้เขาไม่พอใจได้ขนาดนี้ ถ้าอั้มไปกระชากแขนเขาแล้วบอกว่า เฮ้ย..ทำไมเธอทำแบบนี้ก็ว่าไปอย่าง อั้มก็ถามของอั้มตรงๆ"
      
       ด้าน "โน้ต" ยืนยันว่า ไม่ได้สนิทสนมกับ "เก๋" ถึงขั้นพูดกูมึง หรือเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเก๋เหมือนที่เก๋ให้สัมภาษณ์
      
       "จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิง ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรซักเท่าไหร่ แต่พอผมได้เข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์ของฝั่งโน้นมันมีเรื่องบิดเบือนไปเยอะ ก็ต้องมาอธิบายให้ฟัง วันนั้นผมไปที่ร้านของพี่ชาย(น็อต วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์) ผมนั่งอยู่หัวโต๊ะ เราก็นั่งคุยกันปกติไม่มีการทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ ผมนั่งอยู่ก็เห็นแล้วว่าเก๋เขากำลังจะเดินเข้ามา ผมก็ไม่ได้อะไรก็นั่งของผมเฉยๆ แต่ตอนที่เขาเดินผ่านผมไป ผมรู้สึกว่ามันมีมือมาลูบที่หลังผม และก็เห็นคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะมองมาที่ผมและก็ทำหน้าตกใจ ผมก็คิดในใจงานเข้าอีกแล้ว ผมก็มองไปที่อั้ม อั้มเขาก็ถามว่า รู้จักกันหรือเปล่า สนิทกันขนาดนี้เลยหรอ ผมก็บอกไปว่า ไม่สนิทกันเลย"
      
       "เก๋" ให้สัมภาษณ์ว่า แตะหลังและบอกว่า "เฮ้ย..หวัดดี"
       "ไม่มีการกล่าวคำทักทายแน่นอนครับ คือผมกับเขาไม่ได้สนิทกัน และผมก็ไม่เคยเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเขา กลุ่มเพื่อนๆ ของผมก็ไม่ได้รู้จักเขา แต่ถามว่ารู้จักกันไหม ก็พอรู้จักกันบ้างแต่ไม่สนิทครับ เราเคยเจอกันนานมากๆ แล้ว จนผมจำไม่ได้ว่าไปรู้จักเขาที่ไหน คือแบบเคยรู้สึกไหม เวลาเราเจอคนที่รู้จักแต่ไม่สนิทแล้วจะมีความรู้สึกแบบ จะทักดีหรือไม่ทักดี ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ทักดีกว่าก็นั่งเฉยๆ"
      
       "เราไม่ได้สนิทกันจนถึงขั้นใช้คำพูดมึงกู ตอนที่อั้มเดินไปถามเขา ตัวเขาเองก็หันมาถามผมว่า โน้ตไม่รู้จักเก๋หรอ ผมก็บอกรู้จักแต่ไม่สนิทกัน คือไม่สนิทกันถึงขั้นเหมือนที่เขามาทำกับผมน่ะครับ เขาไม่ได้ใช้คำพูดมึงกูกับผม แต่สิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์มันเหมือนกับว่า เขาพยายามจะสื่อออกมาว่า เขาไม่ได้คิดอะไรถึงได้พูดว่ามึงกู แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้พูดแบบนั้น และที่เขาบอกว่า ผมพูดว่ารู้จักแล้วก็มาพูดว่าไม่รู้จักก็ได้ เพราะผมกลัวอั้มนั้น จริงๆ แล้วผมให้เกียรติอั้ม ผมไม่สนิทผมก็บอกตรงๆ ว่า ไม่สนิท"
      
       "ถามว่าปกติอั้มเป็นคนขี้หึงไหม ผมว่าเขาก็หึงแบบปกติไม่ได้ทำอะไรเกินเลย คือถ้ามีคนอื่นมาลูบหลังแฟนเราก็ต้องตกใจว่าทำไมมาทำแบบนี้ แต่ผมก็เชื่อนะครับว่าเขาก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่จะมีใครอยากมาแตะเนื้อต้องตัวขนาดนั้น ตอนนี้เป็นข่าวเยอะมากผมก็ค่อนข้างเครียดครับ กับเรื่องอื่นๆ ผมก็พยายามอธิบายเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ แต่ยิ่งมีข่าวเยอะเราก็ยิ่งได้คุยกันเยอะ เหมือนเราได้ปรับความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะเราก็คบกันมานาน การที่มีอะไรเข้ามาทำให้เราได้ปรับและเข้าใจกันมากขึ้น ผมชอบเขาที่เขาเป็นคนตรงๆ ไม่มีการสร้างคาแร็คเตอร์ของตัวเองหรือเสแสร้งอะไร เขาให้สัมภาษณ์เขาก็ยอมรับว่าเขาเป็นแบบนี้ เขาพูดแบบนี้ เวลาที่ออกไปข้างนอกแล้วมีคนทำแบบนี้แล้วทำให้เขาไม่พอใจ เขาก็จะมีปฏิกิริยาแบบนี้ออกมา เบื้องหน้าเขาเป็นยังไงเบื้องหลังเขาก็เป็นอย่างนั้นไม่ต้องมาแอ๊บ"
      
       "เกษ" เบื้องหลังกองถ่าย พยานปากเอก ยัน "เก๋" ลูบหลัง "โน้ต" ล้านเปอร์เซ็นต์ !!
      
       "เกษอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นค่ะ พี่อั้มนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกษ ส่วนพี่โน้ตนั่งอยู่หัวโต๊ะ คือนั่งตรงกลางระหว่างเกษกับพี่อั้ม แล้วพี่อั้มเขาก็นั่งหันหลังให้กับประตูทางเข้า เกษเห็นเขาเดินเข้ามาแต่คิดว่าเขาคงไม่เห็นพี่อั้มเพราะพี่อั้มนั่งหันหลัง เขาก็ส่งสายตามาที่เพื่อนเขาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เกษ ในระหว่างที่เขามองเพื่อนเขา ตัวเขาก็เดินมาทางหลังพี่โน้ต และก็เอามือลูบหลังพี่โน้ต คือแบบเดินด้วยแล้วก็ลูบด้วยไปตามระยะทางที่เขาเดินไปหาเพื่อนเขา ลูบลากไปเรื่อยๆ เกษเห็นแล้วก็อึ้ง"
      
       "และเขาก็ลูบเฉยๆ ด้วย ไม่ได้ทักทายพี่โน้ตค่ะ เขาเดินลูบไปหาเพื่อนเขา เขามายืนตรงข้างหลังเกษอยู่ใกล้ๆ กันเลย พี่อั้มก็หันไปถามพี่โน้ตว่า รู้จักกันหรอ ทำไมเขามาลูบแบบนั้น พี่โน้ตก็บอกว่า รู้จักแต่ไม่สนิท พี่อั้มก็เลยลุกขึ้นไปถามเก๋ รู้จักกับโน้ตหรอ แต่เสียงเพลงมันดังเก๋เขาคงไม่ได้ยิน พี่อั้มก็เลยสะกิดนี่ๆ รู้จักกันกับโน้ตหรอ เก๋ก็บอกว่ารู้จัก ตอนนั้นเกษก็ไม่ได้สนใจแล้ว คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่อยู่ดีๆ เก๋ก็เอาหน้ายื่นผ่านไหล่เกษฝั่งขวาเพื่อไปถามพี่โน้ตประมาณว่า จำเก๋ไม่ได้หรอ พี่โน้ตก็หันหน้ามาแบบอ๋อๆ จำได้ คือพี่โน้ตเขาทำหน้าแบบ....จะบอกยังไงล่ะ เหมือนรู้จักคนมาเป็นร้อยน่ะ แต่พอผ่านไปนานแล้วก็จำไม่ได้ อันนี้คือความคิดของเกษนะ"
      
       "จากนั้นพี่อั้มก็เดินมานั่งที่โต๊ะตามปกติ แต่เก๋เขาก็ไม่หยุดเขาก็พยายามอธิบายว่า นี่รู้จักกับโน้ตนะ เก๋ไงเก๋ พยายามทบทวน แล้วก็ยื่นหน้าผ่านเกษไป เกษก็แบบขอโทษนะ พอเถอะไปเถอะ ก็รู้สึกผิดนะที่พูดกับเขาแบบนั้น แต่แบบไม่อยากให้อะไรกัน เขาก็ไปเลย ไปของเขาคนเดียว ไม่มีใครไปส่งเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์เลย ถ้าถามเกษจริงๆ แล้วมันก็ไม่ควรนะ เขาเป็นเพื่อนกับผู้หญิงเขาก็น่าจะไปจับผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่มาลูบแฟนคนอื่น ดูแล้วมันก็ไม่น่าจะเหมาะสมซักเท่าไหร่ แล้วแบบตามองคนอื่นแต่มือลูบหลังแฟนคนอื่น เกษยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าลูบแน่นอนสุดๆ"
      
       "หลังจากนั้นเราก็พากันย้ายโต๊ะเพราะมากันเยอะแต่โต๊ะมันเล็ก แต่พอตกดึกๆ เขาก็ยังมาหาอีก คราวนี้พาผู้ชายมาบอกว่า เก๋กลับก่อนนะ เหมือนอยากจะให้รู้นะว่า จริงๆ ฉันก็มีแฟน แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลย เพื่อนเขาก็เออๆ กลับเถอะ และก็ยืนยันเลยนะว่า พี่อั้มเขาไม่ได้กระชากแขนเก๋ ถ้ากระชากจริงเก๋ก็คงกระเด็นไปแล้วแหละ และเขาก็ไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อนไปเที่ยว วันนั้นเรายังถ่ายรูปกันไว้เลย พี่โน้ตกับพี่อั้มก็ยังโอเคกันอยู่ เดี๋ยวจะเอารูปให้ดู"
      
       หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ "เกษ" ก็ได้ส่งรูปภาพที่ถ่ายในร้านในวันที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่า "อั้ม" กับ "โน้ต" ไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อน

 

ดูภาพ อั้มโน๊ตในวันที่เกิดเหตุ สถานที่เที่ยวได้ที่นี้

http://www.bbberry.net/webboard/viewthread.php?tid=2701&extra=



 

Credit: http://www.bbberry.net/webboard/viewthread.php?tid=2701&extra=
26 ก.พ. 54 เวลา 18:31 22,691 30 180
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...