ปัจจุบันเอกกี้มีอาชีพหลักคือเป็นดีเจอารมณ์ดีให้กับคลื่นกรีนเวฟ 106.5 พิธีกรรายการ The Star/Five iive/คนมันๆ รวมถึงรับงานแสดง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะหลังๆ นี้ ลักษณะท่าทาง ตลอดจนการพูดการจาของเขานั้นดูจะเปลี่ยนไป มีความสดใส ร่างเริง รื่นฤดี เยอะขึ้นทีเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เขาเป็นสมาชิกหนุ่มคนหนึ่งของวงยูเอชที
“ออกอาการอะไร (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ยอมรับขนาดนั้น เป็นคนสนุกสนานร่าเริง ก็ทำไป ก็ดูๆ กันไป ไม่จำเป็นต้องมาออกจากปากเรา เราก็เรื่อยเปื่อย ก็เป็นงานของเรา แต่ก็มาทางนี้ เราก็สนุกสนาน หลั่นล้า คือไม่เปิด ไม่ปิด เป็นคนตลกมากกว่า”
ว่ากันว่าคนเรากว่าจะค้นพบว่าตัวเองก็ต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสิน ซึ่งเขาคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น…”ตั้งแต่ The star4 มั้ง คือโมเม้นท์ตรงนั้นเราเป็นอย่างนั้น โมเม้นท์ตรงนี้เราเป็นอย่างนี้ แล้วมันค่อยๆ พัฒนา ค่อยๆ ปรับตัวเข้ามา โดยที่เราไม่ได้ฝืนมันไง ถ้าบางอย่างมันฝืนมันก็ไม่ใช่ ถูกเปล่า เราไม่ได้อยู่ดีๆ แล้วเปิดตู้มเลย”
คนรอบข้างแปลกใจไหม? ไม่นะ เพราะเราแบบค่อยๆ มา เราไม่ได้อยู่ดีๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือ พลิกหน้าเลยแล้วกลายเป็น คือค่อยๆมา แล้วทุกคนซึมซับไปเลย แล้วมันรับเราได้ เอกคิดว่าอย่างนี้นะ ด้วยอารมณ์ที่เราขำๆ สนุกสนานไปด้วย มันก็เลยกลายเป็น ตลกดีว่ะ”
เขาคนนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชีวิตมีรอยแผลเป็นอันเกิดจากความรักที่ไม่สมหวัง…”ก็เหมือนคนทั่วไปแหละ ที่บอกว่าทุ่มเทความรักมากมายแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ผ่านมา 6-7 ปีแล้ว…ยากมั้ยกว่าจะผ่าน ยากช่วงระยะนึง แค่หนักช่วงระยะนึง”
“ไม่ทำร้ายตัวเองไม่มีทางเพราะว่านึกถึงพ่อแม่ตลอด กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงเราได้มันยากมาก เรื่องอะไรต้องทำร้ายตัวเองให้พ่อแม่เสียใจใช่ไหม โอเคเราก็ใช้เวลาพักฟื้นนิดนึง อยู่กับเพื่อนอยู่กับตัวเอง แล้วก็คิดว่าเราจะป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนหรือ? เพื่ออะไร? ในเมื่อคนๆ นั้นก็ไม่ได้ใส่ใจเรา ไปมีความสุข ก็แค่นั้นก็จบ แล้วมันก็ผ่านไปเอง คือถึงจุดที่ลืมได้ก็ลืมไปเองนะ”
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่มีแฟนอีกเลย…มันไม่เข็ดนะ แต่มันไม่เจอ คือเราเป็นคนที่แบบว่าถ้าไม่รักก็ไม่ยุ่ง แค่กิ๊กหรือแค่คุยกัน ก็แค่นั้น ไม่ได้เอาตัวเข้าไปผูกพันหรือว่ามีความรู้สึกไม่อยากเจอ
ตอนนี้ไม่ได้คิดเรื่องคู่เลย แต่ก่อนคิด คิดถึงเรื่องแต่งงาน ถ้าเรารักใครเราก็ไม่แคร์ แต่งงานได้ แต่ขอให้มั่นใจ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยคิดแล้ว เพราะเราต้องทำงาน งานเราเยอะ เรามีหน้าที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ เพราะอายุท่านก็เยอะแล้ว เราอยากให้เวลาท่านเต็มที่ ดูแลท่านให้เต็มที่
ใช่หรือไม่ว่าความสุขของชีวิตนั้นบางครั้งก็หาไกลเกินเอื้อม หากอยู่แค่ที่ว่าเราค้นพบตัวตนและเป็นอย่างที่มันควรเป็นหรือยังเท่านั้นเอง…
ข่าวโดย : ผู้จัดการออนไลน์