"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก บุกไปเยือน มาร์กเซย์ ทำได้แค่เสมอกับเจ้าบ้านไปอย่างจืดชืด 0-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) 0 - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0
มาร์เซย์ประสบปัญหาปราศจากอองเดร ปิแอร์ ฌีญักกองหน้ารวมถึงเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แต่ทว่าบรันเดาดาวยิงอีกรายกับโลอิก เรมี่ฟิตทันเวลาลงบู๊ได้ ส่วนมาติเยอ วัลบูเอน่าซึ่งเพิ่งหายเจ็บเข่าได้นั่งอยู่ในซุ้ม
ด้านแมนฯ ยูไนเต็ดซึ่งมีผู้เล่นล้มเจ็บเยอะไม่แพ้กันทั้งไรอัน กิ๊กส์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ และอันแดร์สันจัดให้พอล สโคลส์เป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับราฟาเอล ดา ซิลวาโดยดาร์รอน กิ๊บสันกับจอห์น โอเชติดโผ 11 คนแรกแทน
เกมเริ่มต้นอย่างออกรสเมื่อทั้งสองฝ่ายเน้นบุกแบบไม่มีใครเกรง กริ่งใคร และเป็นผีแดงที่ได้เสียวก่อนในนาทีที่ 9 เมื่อสเตฟาน เอ็มเบียทำฟาวล์นานี่จนเสียลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านขวา ปีกโปรตุกีสจึงวิ่งเข้ากดเองติดบล็อกกระดอนออกมาแล้ว ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์เก็บตกจาก 23 หลาถูกสตีฟ ม็องดองด้าตะปบทัน
นับจากนั้นเจ้าบ้านก็ทำเกมบุกขึ้นหน้าได้ดีกว่า แต่กว่าจะมีโอกาสคลำเป้าต้องรอจนถึงนาทีที่ 29 จากการเติมเกมขึ้นมาโยนของกาเบรียล ไฮน์เซ่อดีตกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดที่บรันเดาได้พักอกแล้วตีลังกายิงจากหน้าเขตโทษเข้าซองเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ทำไปทำมา เกมเริ่มจืดลงไปต่างก็เจาะแนวรับของกันและกันได้ลำบาก
ถึงช่วงท้ายครึ่งแรก มาร์กเซย์เริ่มโหมหนักขึ้น แต่ยังหาโอกาสเหมาะสอยตาข่ายอาคันตุกะไม่ได้ ครบ 45 นาทีสกอร์จึงนิ่งอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง โอแอ็มตั้งหน้าตั้งตาเดินเกมรุกกันใหม่ และนาทีที่ 53 ลูโช่ กอนซาเลซก็ตักบอลจากแถวสองให้บรันเดาโขกจาก 16 หลา แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับฟาน เดอร์ ซาร์
กระทั่งนาทีที่ 70 เจ้าถิ่นก็เปลี่ยนเอดูอาร์ ซิสเซ่ออกให้เบอนัวต์ เชย์รูลงไปแทน ก่อนที่อสูรแดงจะเปลี่ยนสโคลส์ลงไปแทนกิ๊บสันในอีกสามนาทีให้หลัง
ถัดมาในนาทีที่ 78 มาร์กเซย์ส่งวัลบูเอน่าลงไปแทนเรมี่อีกราย แต่จนแล้วจนรอดทั้งคู่ก็พังประตูกันไม่สำเร็จ จบเกมจึงเจ๊ากันไปอย่างน่าเบื่อ 0-0 ก่อนไปวัดกันในนัดสองที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
มาริโอ โกเมซ สุดแสบซัดประตูชัยนาทีสุดท้ายช่วยให้ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค บุกมาคว้าชัยเหนือ อินเตอร์ มิลาน ได้ถึงถิ่น และยังเป็นการล้างแค้นการพ่ายแพ้ในนัดชิงเมื่อปีที่แล้ว ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0 - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 1
สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า (มิลาน, อิตาลี)
อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่า ปะทะ บาเยิร์น มิวนิค รองแชมป์เก่า ในเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยนัดแรกเล่นกันที่จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ซึ่งนี่คือคู่ชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เกมนั้น ดีเอโก้ มิลิโต้ ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา เหมายิงคนเดียวช่วยให้ "งูใหญ่" ชนะ "เสือใต้" 2-0
เลโอนาร์โด้ กุนซือบราซิเลียนของอินเตอร์ได้ คริสเตียน คิวู แบ็กซ้ายกลับมาลงสนาม หลังจากเขาโดนแบนในลีก ขณะที่ ลูซิโอ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ สองผู้เล่นสำคัญ หายเจ็บกลับมาลงตัวจริง ซามูเอล เอโต้ เป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ชาวดัตช์ของบาเยิร์นได้ มาริโอ โกเมซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ โธมัส คราฟท์ ผู้รักษาประตูหายเจ็บกลับมาลงตัวจริง
เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียงนาทีเดียว โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟบาเยิร์นทำฟาวล์ ซามูเอล เอโต้ ทำให้ อินเตอร์ ได้ลูกฟรีคิก เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เปิดฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษ อันเดรีย ราน็อคเคีย กองหลังเจ้าถิ่นที่เติมขึ้นมาเล่นเกมรุกซัดเท้าขวาเข้าข้างตาข่าย
นาที 12 เสือใต้ได้บอล ดานิเยล ปรานยิชทำทางให้ โธมัส มุลเลอร์ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษติดชูลิโอ เซซ่าร์ เซฟอยู่หมัด และ 8 นาทีต่อมา ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ็กขวาทีมเยือนจ่ายบอลไปให้ ลุยส์ กุสตาโว่ ยิงเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าข้างประตู
ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะลุ้นทำประตู นาที 22 เอโต้ ได้บอลจ่ายมาเข้าเท้า เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ซัดระยะเผาขนติด โธมัส คราฟท์
สองนาทีต่อมา บาเยิร์นโต้กลับเร็ว อาร์เยน ร็อบเบน โยนบอลแม่นยำจากริมเส้นฝั่งขวา มาเข้าหัว ฟร้องค์ ริเบรี่ โขกเผาขนชนคานอย่างจัง ชวดโอกาสที่เสือใต้จะได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
ทีมเยือนยังบุกได้อย่างน่ากลัว ฟิลิปป์ ลาห์ม โยนให้ มาริโอ โกเมซยิงเท้าขวาหน้าประตูข้ามคานอย่างน่าผิดหวังในนาที 28
จากนั้นบอลกลับมาที่อินเตอร์ ลูซิโอ ผ่านบอลให้ เอโต้ ซัลโวเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษไปติด โธมัส คราฟท์ ในนาทีที่ 33 และนาที 38 หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือบาเยิร์นเปลี่ยนเอา ดานิเยล ปรานยิช ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง เบรโ ลงเล่นแทน
ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 40 ฟร้องค์ ริเบรี่ได้บอลผ่านไปให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ซัลโวระยะไกลไปติด ชูลิโอ เซซ่าร์ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง นาที 47 อาร์เยน ร็อบเบน โยนบอลมาเข้าหัว โธมัส มุลเลอร์ โขกในกรอบเขตโทษเข้าข้างตาข่าย และนาทีต่อมา เจ้าถิ่นโต้กลับเร็ว เดยัน สแตนโกวิช ซัดระยะไกลไปติด โธมัส คราฟท์
และนาที 53 โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลจ่ายให้ อาร์เยน ร็อบเบนเลี้ยงบอลหนีกองหลังอินเตอร์ ก่อนซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง ทำให้บาเยิร์น ชวดได้ประตูอีกครั้ง
จนกระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 57 อินเตอร์น่าได้ประตูจากจังหวะที่ ดั๊กลาส ไมค่อน ทำชิ่งให้ เอโต้ ซัดเท้าขวาหน้าประตูไปติด คราฟท์ สกัดบอลไม่พ้นอันตราย เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ตามเข้ามาซัดเท้าขวาข้ามคาน
เสือใต้โต้กลับทันควันนาที 58 ร็อบเบน รับบอลจากมุลเลอร์ ก่อนยิงเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษข้ามคาน และห้านาทีถัดมา บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ได้จังหวะซัลโวจากนอกกรอบเขตโทษไปติด ชูลิโอ เซซ่าร์
เกมหยุดชะงัก 2 นาที เนื่องจาก อันเดรีย ราน็อคเคีย เซนเตอร์ฮาล์ฟงูใหญ่ บาดเจ็บหัวเข่าซ้าย ถูกหามลงเปล ออกจากสนาม เล่นต่อไม่ไหว และก็เป็น ฮุสซีน คาร์จา ได้ลงเล่นแทน นาที 74 และนาทีต่อมา ชูลิโอ เซซ่าร์ นายทวารเจ้าถิ่นกับ มาริโอ โกเมซ บาดเจ็บ หลังจากปะทะกัน แต่ทั้งคู่สามารถเล่นต่อไปได้
เกมทำท่าจะจบด้วยการเสมอกัน แต่แล้วนาทีสุดท้ายเป็น บาเยิร์นฯ มาได้ประตูชัย ร็อบเบนได้จังหวะยิงนอกกรอบ ชูลิโอ เซซ่าร์ ปัดออกมาแต่ไม่พ้น มาริโอ โกเมสวิ่งเข้าตามซ้ำเข้าประตู
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกมาเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ได้ถึงถิ่น โดยทั้งคู่จะพบกันอีกครั้งที่อัลลิอ๊านซ์ อารีน่า บ้านของบาเยิร์น ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดทาย นัดที่ 2 คืนวันอังคารที่ 15 มีนาคม