ฆาตกรรมรำลึก ทริลเลอร์เลือดสาด!

 

          ไม่บ่อยนักที่จะมีหนังไทยสไตล์ฆาตกรต่อเนื่องออกมาให้ชมกัน และยิ่งเป็นผลงานของผู้กำกับที่เชื่อมือได้อย่าง ก้องเกียรติ โขมศิริ (ลองของ, ไชยา) ก็ยิ่งทำให้ เฉือน ดูน่าสนใจเป็นทวีคูณ นอกจากการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ เป้-อารักษ์ และเรื่องราวสุดเข้มข้น ระทึกขวัญ แล้ว เฉือน ยังมาพร้อมกับ จุดหักมุม สุดเซอร์ไพรส์ ที่อาจจะทำให้คุณถึงกับหงายหลังตกเก้าอี้เลยทีเดียว! หนังฆาตกรรมรำลึกเรื่องนี้จะ ดิบ โหด เลือดท่วมจอ ขนาดไหน? อยากรู้ไปดูกันเลย...

คุณรู้หรือเปล่าว่า...

- นี่คือหนังลำดับที่ 3 ของ ผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ โขมศิริ เจ้าของผลงานสยองขวัญอย่าง ลองของ และหนังดราม่าแอ็กชั่น ไชยา นอกจากนี้เขายังผ่านการเขียนบทหนังมาแล้วมากมายไล่ไปตั้งแต่ เปนชู้กับผี, องค์บาก, ขุนศึก, ขุนแผน, บางระจัน และ 7 ประจัญบาน

- สำหรับ เฉือน ถือเป็นการรวมงานกันครั้งที่สองของ โขม - ก้องเกียรติ และวิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง (ผู้กำกับ ฟ้าทะลายโจร, หมานคร, เปนชู้กับผี) ก่อนหน้านี้ โขม - ก้องเกียรติ เคยเขียนบทหนัง เปนชู้กับผี ให้ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง และคราวนี้ทั้งคู่ก็สลับหน้าที่กัน โดยเป็นทาง วิศิษฐ์ ที่มาเขียนบทให้ โขม - ก้องเกียรติ กำกับบ้าง

- ผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ กับ นก - ฉัตรชัย เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันที่โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย และเป็นเพราะ นก ฉัตรชัย ชื่นชอบหนังเรื่อง ไชยา ของ โขม - ก้องเกียรติ มาก เลยตัดสินใจที่จะมาร่วมงานด้วยทันที

- ด้วยเหตุที่อ่านบทแล้วโดนแบบสุดๆ ทำให้พระเอกฮอตแห่งยุคอย่าง เป้-อารักษ์ ยอมตัดผมเพื่อหนังเรื่อง เฉือน โดยเฉพาะ โดย เป้ ต้องมารับบทนักโทษคนคุกในเรื่อง 

       

 

     

ฆาตกรต่อเนื่อง เฉือน ไม่ไว้หน้า!

          ผลงานลำดับที่ 3 ของผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ โขมศิริ (ลองของ, ไชยา) ที่คราวนี้เขาเปลี่ยนแนวหันมาทำหนังทริลเลอร์ดูบ้าง ซึ่ง เฉือน ก็ไม่ใช่หนังทริลเลอร์เขย่าขวัญธรรมดาๆ แต่จะเป็นหนังทริลเลอร์ที่ว่าด้วยเรื่องของ ฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทยสักเท่าไหร่ 
          เฉือน มีจุดเด่น จุดดี ตรงไหน? ที่ทำให้คุณต้องยอมควักกระเป๋าสตางค์เข้าไปดูในโรงหนัง คำตอบอยู่ด้านล่างนี้แล้ว...

หนังที่ดีต้องมาจากบทที่ดี

          ปกติ โขม - ก้องเกียรติ มักจะเขียนบทเองกำกับเองอยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่จะทำหนังจากบทที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนเขียน ผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ ก็ยิ่งต้องเน้นเรื่องบทเป็นพิเศษ โดยเขามีความเชื่อว่า ต่อให้โปรดักชั่น อลังการงานสร้าง หรือ เทคนิค สุดยอดขนาดไหน ถ้าเกิดบทไม่ได้ หนังก็ออกมาห่วยอยู่ดี และสำหรับ เฉือน เรื่องนี้ ก็ได้ผู้กำกับระดับคุณภาพอย่าง วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง (ฟ้าทะลายโจร, หมานคร, เปนชู้กับผี) มาช่วยเขียนบทให้ ซึ่งการันตีฝีมือได้อย่างแน่นอน

ผู้กำกับมือต้อง “ถึง”

          เฉือน คือหนังทริลเลอร์เนื้อหาสุดเข้มข้นที่ว่าด้วยเรื่องฆาตกรต่อเนื่อง ดังนั้น นอกจากบทที่ต้องแน่นปึ้กแล้ว ตัวผู้กำกับเองก็ต้องมือ "ถึง" ด้วย ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถคุมโทนและจังหวะของหนังให้ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่งได้ ซึ่งผู้กำกับ โขม – ก้องเกียรติ ได้พิสูจน์มาแล้วว่า เขาเอาคนดูอยู่หมัดจากผลงานก่อนหน้านี้อย่าง ลองของ และ ไชยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนังเรื่อง ไชยา ที่ถึงแม้จะได้สตางค์ไม่มาก แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม

หนังไทยเรื่องแรกๆ ที่พูดถึงฆาตกรต่อเนื่อง

          ลองนึกๆ ดู นอกเหนือจาก ซีอุย แล้ว ไม่ค่อยมีหนังไทยที่เล่าเรื่องของ ฆาตกรต่อเนื่อง เลย เพราะฉะนั้น คงจะไม่ผิด หากบอกว่า เฉือน คือ หนังไทยเรื่องแรกๆ ที่พูดถึงฆาตกรต่อเนื่อง แต่ในที่นี้จะเป็นฆาตกรต่อเนื่องแบบไทยๆ ซึ่งมีเหตุจูงใจในการลงมือสังหารเหยื่อ ที่คนดูหนังบ้านเราเข้าถึงและเข้าใจได้

ตีแผ่ด้านมืดของมนุษย์

          เหมือนกับหนังทุกเรื่องที่ผ่านมาที่ผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ มักจะหยิบเอา ด้านมืดของมนุษย์ มาพูดถึง และในหนังเรื่อง เฉือน ก็เช่นกัน ด้านมืดของมนุษย์ในแง่มุมซึ่งเป็นที่รับรู้กันในสังคม ถูกเอามาตีแผ่อย่างตรงไปตรงมาในหนังเรื่องนี้ เมื่อบวกกับภาพที่ค่อนข้างดิบ โหด เลือดสาดเต็มจอ! เข้าไปด้วย ก็เลยทำให้ เฉือน ถูกจัดให้อยู่ในเรต 18+

การพลิบบทบาทครั้งสำคัญของ เป้ อารักษ์

          ในเรื่อง เป้ รับบทเป็นไท นักฆ่ามือดีซึ่งเป็นสายตำรวจ ที่ต้องออกตามล่าฆาตกรจอมเฉือน (อยากรู้ว่าเฉือนอะไรต้องไปดูกันเอง) นี่คือบทที่จะทำให้คุณลืมภาพเดิมๆ ของพระเอกมาดเซอร์อย่าง เป้ - อารักษ์ ไปเลย อย่างน้อยๆ ใน เฉือน คุณจะได้เห็น เป้ เชือดเป้าสังหารอย่างเลือดเย็น และมีฉากเลิฟซีนสุดเร้าร้อนให้ดูเป็นของแถมด้วย

          ที่สำคัญก็คือ นี่คือบทที่เป้ - อารักษ์อ่านแล้ว ถึงขนาดยอมตัดผมสั้น เพื่อร่วมงานในหนังเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น คุณจะได้เห็นอะไรที่คาดไม่ถึงจากบทบาทนี้ของเขาแน่นอน!

ทำไมถึงต้องดู

          ไล่ไปตั้งแต่งานกำกับของโขม - ก้องเกียรติ ที่รับประกันความเข้มข้น ดิบ สะใจ ซึ่ง เฉือน คือหนังที่ถึงพร้อมทั้งความเป็นทริลเลอร์และดราม่า บวกกับฝีมือการเขียนบทที่เชื่อมือได้ของ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ไปจนถึง การได้เห็นนักแสดงระดับแม่เหล็กอย่าง เป้-อารักษ์ ในบทบาทที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อ่อ...บอกใบ้ให้นิดนึงว่า "จุดหักมุม" ของหนังเรื่องนี้ จะทำให้คุณถึงกับ อึ้ง รับประทาน เลยทีเดียว จะจริงหรือเปล่า? ต้องไปลองพิสูจน์กันเองในโรงหนัง...

คุณว่าใครคือ...ฆาตกร?

ไท - นักฆ่ามืออาชีพที่ต้องโทษอยู่ในคุก เขามีอดีตฝังใจกับเรื่องราวในวัยเด็กและมันก็กลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน เขามาตลอด 20 ปี ในที่สุดฝันร้ายก็หวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมยัดใส่กระเป๋าแดง ซึ่งไท มั่นใจว่าเขารู้จักฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ดี 

หมวดชิน - นักสืบคดีอาชญากรรมของกรมตำรวจ ผู้มีฝีมือและประสบการณ์ทำงานมานาน มุ่งเน้นเป้าหมายโดยไม่แคร์ว่าวิธีที่ใช้จะถูกต้องหรือไม่

จ่าแหลม - มือขวาของหมวดชิน อารมณ์ดี ขี้เล่น แต่พร้อมทำทุกอย่างตามคำสั่งของหมวดชิน โดยไม่สนใจว่าอะไรคือความถูกต้อง

น้อย - ภรรยาสุดที่รักของไท เธอเฝ้าคอยให้ ไทออกมาจากคุกเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเสียที แต่เธอก็ต้องมาตกเป็นตัวประกันในงานที่ไทต้องออกตามล่าฆาตกรปริศนา         

 

     

เฉือน...เพื่อน กูรักมึงว่ะ!

(หมายเหตุ : บทวิจารณ์ชิ้นนี้ เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วนของเรื่อง)

          พูดถึงหนังทริลเลอร์แนวฆาตกรต่อเนื่องแล้ว ก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่คนทำหนังบ้านเราไม่ค่อยนิยมสร้างออกมาเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว ทุนสร้างของหนังประเภทนี้ก็ไม่ได้มากมายอะไร แถมหนังสไตล์ระทึกขวัญ ฆาตกรโรคจิต อะไรเทือกๆ นี้ ก็ได้รับความสนใจจากคอหนังบ้านเราพอสมควรเลยทีเดียว หากวัดจากความนิยมของหนังฮอลลีวู้ดที่หลายๆ คนชื่นชอบกันไม่ว่าจะเป็น The Silence of the Lambs, Hannibal, Psycho, Seven, Halloween ฯลฯ

          และแล้วก็เป็นผู้กำกับ โขม - ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่ลุกขึ้นมาทำหนังแนวทางที่ว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้เครดิตมาไม่น้อยจากหนังสยองขวัญอย่าง ลองของ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังดราม่าแอ็คชั่นเรื่องเยี่ยมอย่าง ไชยา โดยคราวนี้เขาผนึกกำลังร่วมกับผู้กำกับฝีมือฉมังอีกคนก็คือ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง (ฟ้าทะลายโจร, หมานคร, เปนชู้กับผี) ที่มาเป็นผู้เขียนบท เฉือน ซึ่งน่าจะเป็นหนังไทยที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรต่อเนื่องเรื่องแรกๆ เลยก็ว่าได้

          เฉือน เล่าเรื่องของ ไท (เป้-อารักษ์) อดีตมือสังหารรับจ้าง ที่เคยทำงานให้ หมวดชิน หรือที่ใครๆ เรียกกันว่าป๋า (นก-ฉัตรชัย) แม้ปัจจุบันถูก ไท จะถูกจองจำอยู่ในคุก แต่เขาก็ยังรับงานฆ่านักโทษตามใบสั่งของหมวดชิน เพื่อแลกกับหนทางที่จะพาเขาสู่อิสรภาพให้เร็วยิ่งขึ้น เวลาเดียวกันนั้นเอง ได้เกิดคดีฆาตกรรมระทึกขวัญ โดยที่เหยื่อทุกรายจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยการเฉือน เจ้าโลก ทิ้ง! และศพก็จะถูกยัดลงไปในกระเป๋าแดงเหมือนกันทุกราย ซึ่งคนที่ต้องมารับผิดชอบคดีฆาตกรต่อเนื่องนี้ก็คือ หมวดชิน ที่จนแล้วจนรอดก็จับตัวคนร้ายไม่ได้เสียที 
          
          ระหว่างนั้น หมวดชิน ก็ไปได้ข้อมูลจากจิตแพทย์ของเรือนจำมาว่า มีนักโทษรายหนึ่ง ที่อาจจะเชื่อมโยงไปถึงฆาตกรรายนี้ได้ ซึ่งนักโทษคนนั้นก็คือ ไท แต่ หมวดชิน ก็ยังไม่ปักใจเชื่อง่ายๆ จนกระทั่ง เหยื่อรายล่าสุดที่กลายเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของรัฐมนตรี งานก็เลยเข้า หมวดชิน เป็นสองเด้ง เพราะมีคำประกาศิตลงมาว่า เขาต้องลากตัวฆาตกรรายนี้มาให้ได้ภายใน 15 วัน ด้วยความมืดแปดด้าน ทำให้ หมวดชิน ยอมเสี่ยงที่ปล่อยตัว ไท ออกมาจากคุกเพื่อสืบหาฆาตกรรายนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า หากทำงานนี้สำเร็จ เขาจะได้รับอิสระ แต่ระหว่างนี้ น้อย  (เจสสิกา ภาสะพันธุ์) ภรรยาสุดที่รักของไท ก็ต้องถูกคุมเข้มจากทางตำรวจ (หรือจะบอกว่าเป็น ตัวประกัน ก็คงไม่ผิดนัก) เพื่อป้องกันไม่ให้ ไท คิดหนีไปเฉยๆ

          ด้วยตัวบทที่ค่อนข้างเข้มแข็งของ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง มีส่วนสำคัญไม่น้อยที่ทำหนัง เฉือน ดำเนินเรื่องราวไปข้างหน้าได้อย่างหนักแน่น เข้มข้น ฉับไว และชวนติดตาม ครึ่งแรกของหนัง คนดูจะได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นพร้อมๆ ไปกับการทำความรู้จักตัวละครหลักแต่ละตัว แต่แล้วในช่วงกลางเรื่อง บทก็มาพลิกอารมณ์คนดูด้วยการ พาเราย้อนกลับไปสำรวจความทรงจำอันเลือนรางในวัยเด็กของไท ซึ่งมี ความเป็นดราม่าควบคู่กันไปด้วย โดยเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนในวัยเด็กของ ไท นี่เอง ที่จะทำให้คนดูค่อยๆ รับรู้รายละเอียดไปทีละสเต็ป ทีละสเต็ป จนสุดท้ายนำไปสู่ จุดหักมุม ซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดไม่ถึง!

          นอกเหนือจากทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวไปแล้ว หนังยังแอบทิ้งประเด็นที่ลึกซึ้งเอาไว้ในตอนจบของหนัง กับประเด็นที่ว่าด้วยเรื่อง “ตัวตนที่แท้จริงของคนเรา” เคยอ่านบทสัมภาษณ์ผู้กำกับ โขม-ก้องเกียรติ จากนิตยสารหลายๆ เล่ม เขาบอกว่า ธีมหลักของหนังเรื่องนี้คือ “เราไม่ได้โตมาเป็นคนที่เราควรจะเป็น” ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวละครในเรื่อง รวมไปถึงไท ที่ ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า และที่สำคัญเขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ แต่สุดท้ายบริบทต่างๆ ทั้งโชคชะตาและสภาพแวดล้อมก็นำพาให้เขาต้องกลายเป็น มือปืน

          ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไป ธีมเดียวกันนี้ก็เคยถูกใส่เอาไว้ในหนังเรื่องก่อนอย่าง ไชยา ด้วยเช่นกัน กับเรื่องราวของเพื่อนซี้ 3 คนที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เล็กว่าจะเข้ามาเป็นนักมวยในกรุงเทพด้วยกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศคนละทาง

          ก่อนจะไปไกลกว่านี้ กลับมาพูดถึง เฉือน กันต่อดีกว่า ถึงแม้ว่าจะมีหลายๆ ส่วนที่ดูแล้วอาจจะตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง เช่น ปมสุดท้ายซึ่งทำให้ ไท (และคนดู) รู้ว่า ฆาตกรคือใคร ที่เล่นง่ายไปนิดนึง หรือ ตอนที่เฉลยตัวฆาตกรออกมาแล้ว ก็น่าสงสัยไม่ใช่น้อยว่า ฆาตกรรายนี้เก่งขนาดนั้นเชียวเหรอ? แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ด้วยตัวบทที่เข้มแข็งในระดับที่น่าพอใจ บวกกับ ความแม่นยำ และการรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในการเล่าเรื่องของผู้กำกับ ที่สามารถดำเนินเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันควบคู่กันไปได้อย่างไหลลื่น ดูสนุก น่าติดตาม ทำให้ เฉือน กลายเป็นหนังทริลเลอร์เลือดสาดผสมดราม่า ที่มีทั้งความเข้มข้น จริงจัง และถึงพร้อมด้วยความบันเทิงในคราวเดียวกัน

                                                                                                                                       โดย...ชาร์ลี ไฟน์แมน