แก๊งกะเทย ทำงานเป็นทีมขโมยโน้ตบุ๊ก

เจ้าของร้านขายยาทีเอ็น เลขที่ 99/27 ถนนรัชดาภิเษก ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายเข้าไปฉกเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก Acer 5500 series ที่อยู่ภายในร้าน ทั้งที่ยังเสียบปลั๊กอยู่ออกไปจากร้าน

โดยแก๊งดังกล่าวมากันทั้งหมดหลายคน ลักษณะคล้ายชายตุ้งติ้ง ทำงานกันเป็นทีม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถูกกล้องวงจรปิดภายในร้านจับภาพไว้ได้ทั้งหมด

ก่อนเกิดเหตุ คือ คืนวันที่ 16 ก.พ.เวลาประมาณ 21.15 น.ในขณะนั้น มีผู้ชายและเพื่อนหญิง เดินเข้ามาในร้าน เพื่อถามซื้อยากับเภสัชกรที่อยู่ประจำร้าน และเป็นเวลาเดียวกับที่ตนได้กลับเข้ามายังร้านพอดี และเมื่อทราบชื่อยาที่ชายหญิง 2 คนดังกล่าวต้องการ จึงบอกไปว่าไม่มี ชายหญิงทั้ง 2 คน จึงออกไปจากร้าน จากนั้นจึงได้ปิดร้านตามปกติ

ต่อมาในวันรุ่งขึ้น (17 ก.พ.) เวลาประมาณ 21.11 น.มีชายลักษณะตุ้งติ้ง ตัดผมสั้น ใส่เสื้อขาว ซึ่งจำได้ว่า เป็นชายคนที่เข้ามาสอบถามหาตัวยาเมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เดินเข้ามาในร้านพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยมาสอบถามหายาตัวเดิม จึงได้บอกไป ว่า ยาตัวที่ต้องการไม่มี แต่ชายตุ้งติ้งคนดังกล่าวยังคงชวนคุยเรื่องยาต่อ

ในขณะที่เพื่อนของพวกเขาอีก 2 คน เดินออกไปนอกร้าน และกลับเข้ามาพร้อมกับเพื่อนที่ใส่ชุดขาวอีกคน รวมในขณะนั้นมีแก๊งคนร้ายรายนี้อยู่ในร้านถึง 4 คน

“คนที่ยืนอยู่ที่หน้าร้าน คอยถามโน่นถามนี่ ในขณะที่ชายใส่เสื้อขาวผมยาว ได้ถามหายาอีกตัว ผมก็หันหลังไปหยิบยา จังหวะนี้เองเมื่อมาดูในกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าเขาฉกโน้ตบุ๊กไปแล้ว จากนั้นเขาก็ถามหาตัวยาอีกตัว ผมก็เดินไปหยิบ จึงรู้ว่าโน้ตบุ๊กหายไปแล้ว ในขณะที่ผมเดินไปหยิบยา พวกเขาทั้งหมดก็พากันออกจากร้านไปหมดแล้ว”

เมื่อมาดูในกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ชายผมสั้น กับพวกสามคน เดินเข้ามาในร้าน โดยผู้ชายผมสั้นเป็นผู้สอบถามเรื่องยา ส่วนผู้ชายเสื้อขาวผมยาว เข้ามาคุยด้วยแล้วพยายามใช้มือขวาถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ ขณะที่อีก 2 คนคอยสอบถามโน่นนี่อยู่หน้าร้าน และผู้ชายเสื้อขาวลอบหยิบโน้ตบุ๊กส่งให้ผู้ชายเสื้อลาย แล้วทั้งหมดก็รีบออกไปจากร้าน

“หลังเกิดเหตุ ผมได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง พร้อมทั้งนำภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดไปให้ด้วย เพื่อให้ตำรวจตามจับคนร้าย ซึ่งจริงๆ แล้ว แค่โน้ตบุ๊กถูกขโมยอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มาคิดดูว่า แก๊งนี้น่าจะเป็นภัยต่อสังคม เพราะมีการทำงานกันเป็นทีมอย่างมีระบบ เหมือนแก๊งมิจฉาชีพมืออาชีพ ทั้งที่พวกเหล่านี้หน้าตายังเยาว์วัยด้วยซ้ำ”