ในปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์มีการค้นพบสัตว์แปลกหลากหลายชนิด ซึ่งทางเว็บไซต์ nationalgeographic.com ซึ่งโด่งดังในเรื่องสารคดี โดยทั้งหมดได้รับการคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ชนิดที่เป็น สัตว์แปลกที่สุดแห่งปี 2010 ประกอบด้วย
1. ปลิงที-เร็กซ์(T. Rex Leech)
ความโดดเด่นของมันก็คือ เป็นปลิงดูดเลือดที่มีขนาดยาวถึง 7 ซม.มีฟันขนาดใหญ่คล้ายกับไดโนเสาร์ โดยนักวิทยาศาสตร์ พบว่ามันใช้ฟันขนาดใหญ่เจาะเปิดรู บนร่างของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพื่อดูดเลือดเป็นอาหาร อาศัยอยู่ในแถบป่าอะเมซอน
โดยก่อนหน้านี้พบว่ามันไปอยู่ใน “รูจมูก” ของเด็กสาวชาวเปรูคนหนึ่ง ทำให้นักวิจัยนำไปตรวจสอบ จนกระทั่งทราบว่าเป็นปลิงดูดเลือดยักษ์ จนได้ฉายาว่า “ไทแรนนอบเดลลาเร็กซ์” (Tyrannobdella rex) หรือปลิงจอมทรราชย์ นอกจากนี้ยังมีอวัยวะเพศที่สั้นกว่าปลิงทั่วไปถึง 10 เท่า ความแปลกของมันจึงถูกยกไว้เป็นหนึ่งใน 10 สัตว์แปลกแห่งปี
2. ปลาหมึกยักษ์สีม่วง(New Purple Octopus)
หนึ่งใน 11 สัตว์น้ำสายพันธ์ใหม่ที่มีการค้นพบ ซึ่งนักวิจัยได้ทำการสำรวจทะเลน้ำลึกนอกชายฝั่ง มหาสมุทรแอตแลนติกของแคนาดา โดยใช้ยาน”โรพอส” (ROPOS)ในการสำรวจนานถึง 20 วัน ซึ่งหนึ่งในสัตว์ที่พบก็คือ เจ้าปลาหมึกยักษ์สีม่วงตัวนี้
3. ค้างคาวโยดา (Yoda Bat)
ดูเผินๆแล้วนี่คงจะเป็นค้างคาวผลไม้ทั่วๆไป และยังไม่มีการยอมรับว่ามันเป็นสัตว์สายพันธ์ใหม่ แต่นักวิทยาศาสตร์ในปาปัว นิวกินีพบว่า มันมีจมูกเป็นหลอด โดยมันมีความสำคัญต่อระบบนิเวศแถบป่าฝนเขตร้อน
จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็ได้รับการยอมรับว่ามันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่พบใหม่ทั้ง 200 ชนิด ที่ปาปัวนิวกินี และถูกยกให้เป็นหนึ่งในสัตว์แปลก 10 อันดับแห่งปี
4. ทากนินจา (Ninja Slug)
ด้วยความยาวของหางที่ยาวกว่าส่วนหัวถึง 3 เท่า เจ้าทากตัวนี้จึงได้รับขนานนามว่า ทากนินจา เป็นสัตว์สายพันธ์ใหม่ที่พบในแถบภูเขาสูงของเกาะบอร์เนียวตอนบนของประเทศมาเลเซียเท่านั้น ซึ่งการสืบพันธ์ของมัน จะมีการยิงศรรักที่เกิดจากสารแคลเซียมคาร์บอเนตในร่างของมัน เคลือบฮอร์โมน เป็นอาวุธในการผสมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
5. ลิงจมูกบี้ (Sneezing Snub-Nosed Monkey)
เจ้าลิงจมูกบี้ตัวนี้ถูกพบในแถบคะฉิ่นของประเทศพม่า จุดเด่นของมันคือ มีเคราสีขาว ตัวเล็ก ปลายหูรวมทั้งหางของมันค่อนข้างยาว นอกจากนี้สายฝน ยังทำให้มันสามารถจามได้เหมือนมนุษย์
เหตุนี้เองทำให้มันมักใช้เวลาในวันฝนตกด้วยการซุกหัวอยู่ในเข่าของตัวเองตลอด การค้นพบดังกล่าวไม่เคยพบในพม่ามาก่อน เพราะมันเคยถูกพบในจีนและเวียดนาม คาดว่าการที่ถูกนายพรานล่าตัวทำให้มันใกล้สูญพันธ์ุ
6. ปลาดุกกินไม้ (Wood-Eating Catfish)
ความแปลกประหลาดของเจ้าปลาดุกตัวนี้คือนิสัยการกินของมัน ที่มันจะมักกินต้นไม้ที่โค่นลงไปในแม่น้ำซานตาอานา ในประเทศเปรู เป็นอาหาร โดยมีฟันที่เป็นเอกลักษณ์ ขูดเอาสารอินทรีย์จากต้นไม้ใต้น้ำ
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การย่อยอาหารที่แปลกกว่าปลาทั่วไปน่าจะเพราะ พวกมันต้องมีจุลินทรีย์ที่ช่วยพวกมันย่อยไม้ ทำให้ย่อยอาหารได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง พบมากในป่าฝนของอเมซอน ในทวีปอเมริกาใต้
7. คางคกซิมป์สัน (The Simpsons Toad)
คางคกซิมป์สัน หรือคางคกจมูกงุ้ม ความยาว2นิ้วตัวนี้พบ ที่ประเทศโคลอมเบีย ทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มันมีตัวยาวแหลม จมูกงุ้ม ทำให้เขานึกถึงมิสเตอร์เบิร์นส์ ในการ์ตูนทีวียอดฮิตเรื่องครอบครัวซิมป์สันของสหรัฐฯ จนได้รับการขนานนามว่า “คางคกซิมป์สัน” นอกจากนี้มันยังมีรูปแบบการเจริญพันธ์ุที่แปลก ต่างจากกบหรือคางคกทั่วไป คือ ไม่มีช่วงการเติบโตที่เป็นลูกอ๊อด แต่พวกมันจะฟักออกจากไข่กลายเป็นตัวได้เลย
8. กิ้งก่าโคลนนิ่ง (Self-Cloning Lizard)
ชาวเวียดนามนิยมรับประทานกิ้งก่าประเภทนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ต่างฉงนกับวิธีการสืบพันธ์ของมัน คือ กิ้งก่าตัวเมียที่สามารถผสมพันธ์ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งกิ้งก่าตัวผู้ และลูกที่เกิดออกมาจะมีลักษณะเหมือนแม่ทุกประการ จึงถูกตั้งชื่อว่า “กิ้งก่าโคลนนิ่ง”ความโดดเด่นของมันจึงถูกจัดอันดับให้เป็น1ใน10สัตว์แปลกแห่งปี
9. ปลาหมึกหนอน (Squid Worm)
นักวิทยาศาสตร์ได้มีการสำรวจใต้ทะเลนอกชายฝั่ง ฟิลิปปินส์ โดยใช้หุ่นยนต์สำรวจใต้ทะเล โดยในตอนแรกที่พบเจ้าปลาหมึกหนอน นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่า มันคือหนอน หรือปลาหมึกกันแน่ เพราะลำตัวที่ยาว 9 ซม.เหมือนกับหนอน แต่ส่วนหัวมีหนวดทั้ง 8 เส้น คอยทำหน้าที่ช่วยหายใจและหาอาหารคล้ายปลาหมึก แต่ในที่สุดก็ทราบว่าเป็นสัตว์สายพันธ์ใหม่ที่เรียกว่า หนอนปลาหมึกแห่งซามา
10. ปลาตีนสีชมพู (Pink Handfish)
ความโดดเด่นของปลาตีนสีชมพู ก็คือ มันสามารถใช้ครีบในการเดินและเคลื่อนไหวบนพื้นทะเล มีความยาว 10 เซนติเมตร มักพบที่เมืองโฮบาร์ต บนเกาะทัสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ไม่มีใครพบสีชมพูมาก่อน