5 ขั้นตอน.. ก่อนเสียตัว

 จะมีวิธีการใดที่สาวๆ วัยรุ่นที่น่ารักทั้งหลาย จะหลีกหนีมิให้ตนต้องตกเป็นเหยื่อของบุคคลดังกล่าว… มาดู 5 ขั้นตอนครับ



1. อย่าเปิดโอกาส


จากการสัมภาษณ์วัยรุ่นจำนวนมาก พบว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นโดยความตั้งใ จหรือมีการเตรียมความพร้อม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะบรรยากาศพาไป อยู่กันสองต่อสองหรือสถานที่ลับหูลับตา โดยหารู้ไม่ว่าสถานที่ดังกล่าวคือออฟฟิตของเหล่าบรรด าสมาชิกหน่วยล่าพรหมจรรย์


ถ้าเขาชักชวนไปในที่ดังกล่าว เราก็ขอเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ผู้คนชุกชุม เวลาค่ำมืดก็ต้องหลีกเลี่ยง…แผนการที่เขาได้วางไว้ ไม่สามารถลงมือได้…เพราะโอกาสไม่เอื้ออำนวย
อย่าคิดว่าผู้ชายดีๆ จะไม่เคยคิดชั่ว…สมัยผมเป็นวัยรุ่นคิดชั่วเป็นประจำ แต่ดีอยู่อย่างคือไม่เคยลงมือ… เพราะไม่มีโอกาส…เดี๋ยวนี้ผมมีโอกาสมากมาย แต่ไม่ยอมลงมือ เพราะเลิกคิดชั่วแล้ว…


จากวัยรุ่นอายุใกล้ 20 มาเติบโตจนถึงวัยเกือบ 40…จากคนที่คิดชั่วเป็นประจำ มาเป็นเลิกคิดชั่วแล้ว…การเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราเรียก ว่า "วุฒิภาวะ" (Maturity) – ส่วนหนึ่งของวุฒิภาวะคือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ความต้องการของตนหรือยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำตามความ แรงขับภายในจิตใจของตนเอง หรือพูดให้จำง่ายๆว่า "สมองส่วนคิดควบคุมสมองส่วนอยาก"


เพราะฉะนั้น ในท่ามกลางหมู่เพื่อนวัยหนุ่มฉกรรจ์ซึ่งยังอ่อนวุฒิภ าวะ สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด…การปิดโอกาสมิให้ผู้ชายประพฤติชั่ว มีค่าเท่ากับการเปิดโอกาสให้เขารักษาความดี…


2. อย่าเปิดเครื่องลางของขลัง


ต้องรู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิง อารมณ์ทางเพศตื่นตัวเร็วช้าต่างกัน – ผู้ชายตื่นตัวง่ายเหมือนเตาแก๊ส ส่วนผู้หญิงตื่นตัวช้าเหมือนเตาถ่าน…บางคนต่อความยาวสาวความยืด…กะเทยตื่น ตัวแบบเตาอบไมโ ครเวฟ…เธอตั้งอุณหภูมิและเวลาได้ตามความเหมาะสม…


เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือรัดรูป เห็นร่องรอยทรวดทรงองค์เอวของคุณผู้หญิง เป็นเสมือนเครื่องรางของขลัง ที่มีเวทมนต์ดลบันดาลให้ผู้ชายดีๆแปลงร่างกลายพันธุ์ เป็นสุนัขป่าล่าเหยื่อได้ – ผู้หญิงอาจบอกว่าแต่งโชว์กันเองในหมู่เพื่อนหญิง หนูไม่คิดอะไรมาก…แต่ผู้ชายรู้สึกเยอะ


เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้…แต่งโป๊ๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงเป็นหมู่ๆ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไปกับผู้ชายสองต่อสอง ต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง…เพราะผู้ชายอาจแก้มนต์ขลังข องเราโดยการ "เสกเนื้อเข้าท้อง" หรือมันเล่น "ทำของใส่" …แล้วเราจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน


3. อย่าเปิดไฟเขียว


เป็นผู้หญิงต้องหัดรู้จักปฏิเสธซะบ้าง ไม่ใช่ผู้ชายจะทำอะไร เราไม่ชอบก็ยอมเขาไปหมด ต้องรู้จักใช้ปากในการปฏิเสธ หัดพูดคำว่า "ไม่" "อย่า" "หยุด" …สองคำหลัง ห้ามพูดติดกัน!


คำปฏิเสธของเราเปรียบเสมือนสัญญาณไฟแดงบอกให้ฝ่ายชาย หยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหว…ถ้ายังไม่หยุด แนะนำว่าควรลุกเดินหนี เพราะบางราย ถ้าเราแค่พูดเฉยๆ เขาอาจคิดว่าเราปฏิเสธพอเป็นพิธี


เวลาไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังจะปิดไฟมืด แม้มีคนมาก แต่ก็เหมือนอยู่กันสองต่อสอง ดูหนังไปอาจเห็นฉากเลิฟซีนรัญจวนใจยั่วเย้าให้เกิดอา รมณ์…ขณะเดียวกันกับที่ฝ่ายชายก็รุกเร้าด้วยการสัมผั ส อาจเริ่มต้นที่วงแขนก่อนที่จะขยายวงกว้างขึ้นๆ…

เราเป็นผู้หญิง ไม่ถูกใจก็ต้องกล้าพูด

"นี่เธอทำอะไร หยุดนะ! เอามือออกจากแขนฉันเดี๋ยวนี้….แล้วไปวางไว้ที่หน้าขา "

…หมายถึงหน้าขาของฝ่ายชายครับ! อย่าเข้าใจผิด!


4. เจอกันครึ่งทาง


บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผู้หญิงเองก็ได้รับสัมผัสแห่งค วามรู้สึกอันอบอุ่น ไว้วางใจ เชื่อมั่น ปลอดภัย และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายซึ่งยากต่อการปฏิเสธ…คุณก็ รอโอกาสนี้มานานแล้ว ความรู้สึกโหยหาและหวงแหนทำให้คุณมิอาจเอ่ยคำพูดอันเ ป็นเหตุทำให้ชายที่คุณรักรีบ "ถอนสมอ" ขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมจะจอดเทียบ "ท่าใจ" ของคุณ


คุณจึงไม่ยอมให้เขา "มือหลุด" เพราะไม่อยากให้เขา "หลุดมือ" ด้วยเหตุที่เขาเป็นผู้ชายที่คุณมองเห็นแล้วว่าดีพอสำ หรับคุณ…อย่างที่เคยบอกกันอยู่ ผู้ชายดีๆ เดี๋ยวนี้หายาก…และผู้ชายดีๆ แท้ๆ ยิ่งหายากกว่า


การสัมผัสทางกาย เป็นการสื่อสารความรู้สึกผูกพันต่อกัน บ่งบอกอีกหลากหลายอารมณ์ที่ถ้อยคำวาจาก็มิอาจแทนใจ…แ ต่คุณจะกั้นพรมแดนของการสัมผัสอยู่แค่ไหน เพื่อที่จะถ่ายเทความรักจากใจสู่ใจระหว่างกัน…โดยที่ คุณทั้งสองตระหนักถึงความไม่พร้อมที่จะมี "กิจกรรมเข้าจังหวะ" ทางกายระหว่างกัน


ถ้าแฟนขอที่จะร่วมรักด้วย แต่คุณคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปถึงจุดนั้น…ต้องรู้เทคนิคการเจรจา ต่อรองเพื่อพบกันครึ่งทาง…สถานการณ์สมมติ…


คุณพ่อจะทำยังไง ถ้าลูกสาวอยากให้คุณพาไปดูหนัง แต่คุณพ่ออยากนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน จะไปดูหนังตามใจลูกสาวก็ฝืนใจตัวเอง จะบังคับให้ลูกสาวอยู่บ้านก็ไม่อยากขัดใจลูก…ทางออกท ี่ไม่ทำร้ายจิตใจทั้งสองฝ่ายอาจเป็นการตกลงเช่า VDO มาดูที่บ้านดีกว่า…อย่างนี้เรียกว่า "เจรจาต่อรอง" เป็นการพบกันครึ่งทางโดยแท้


เพศสัมพันธ์ (Sexual Relationship) คือกิจกรรมทางกายระหว่างคนสองคน ไม่จำเป็นต้องเป็นการร่วมเพศ (Sexual Intercourse) เสมอไป…แต่เพราะคำว่าเพศสัมพันธ์ฟังแล้วนุ่มกว่าคำว่ าร่วมเพศ คนทั่วไปจึงเอามาใช้แทนกัน เหมือนเราใช้คำว่า "แฟน" แทนคำว่า "สามีหรือผัว"…ดังนั้นต้องแยกความแตกต่างให้ออก


หญิงชายที่รักกันจึงสามารถมีกิจกรรมทางผิวหนังให้เลื อกมากมายตั้งแต่ จับมือ เดินจูงมือกัน คล้องแขน ซบไหล่ โอบคอ กอดเอว หอมแก้ม ซุกไซ้ซอกคอ จูบปาก กอดรัด(ฟัดเหวี่ยง) ถูไถไปมาภายนอก สำเร็จความใคร่ให้แก่กันและกัน และอื่นๆ อีกมากมาย……โดยไม่มีการ "เติมคำลงในช่องว่าง"


…หัดพูดประโยคต่อไปนี้…



"ฉันรักเธอมาก แต่ฉันยังไม่พร้อม แค่เธอกอดฉันไว้แน่นๆ ฉันก็มีความสุขแล้ว"



"ฉันจะยอมต่อเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น ตอนนี้เรามีอะไรกันภายนอกก็พอ"


5. รู้จักป้องกัน


หากคุณทั้งสองพร้อมที่จะขยายพรมแดนกิจกรรมแห่งความรั ก พร้อมที่จะพลีกายให้แก่กันและกัน สำหรับวัยรุ่นมีความเหมาะสมหรือไม่ ยังเป็นข้อถกเถียงกันทั่ว แต่อย่าติดเพียงแค่มองว่าเด็กมีปัญหา แต่ต้องมองให้เห็นรากเหง้าสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิ ดขึ้น


เดี๋ยวนี้วัยรุ่นรับวัฒนธรรมตะวันตกผ่านสื่อที่มีรูป แบบพัฒนาตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่วัฒนธรรมไทยอ่อนกำลังลง…คำสอนประเภทให้รักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กลายเป็นคำสอนเชยๆในสายตาวัยรุ่นซะแล้ว


ฉะนั้นแทนที่ผู้ใหญ่จะมัวแต่ตำหนิพฤติกรรมวัยรุ่น เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้วัฒนธรรมไทยเข้มแข็ งขึ้นกว่านี้…เลิกคิดว่าเด็กเป็นตัวปัญหา เพราะแท้จริงเขาเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่…ที่อยากได้ตังส ์จากเด็ก


ในฐานะแพทย์ผมให้ความเห็นส่วนตัวว่า เซ็กส์ในวัยเรียนมีสองแบบ…เซ็กส์โง่กับเซ็กส์ฉลาด


ถ้าถูกเขาหลอกกินไข่แดง หลงเชื่อคำหวาน ไม่รู้จักปฏิเสธ ไม่รู้วิธีป้องกัน อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์โง่ – โง่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง…แต่ผู้หญิงรับผลกรรม ถ้าผู้ชายมันไม่รับผิดชอบ
แต่หากเซ็กส์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐ านของความรักอันแน่นแฟ้น รู้จักป้องกันโทษที่อาจเกิดขึ้น คือ การตั้งครรภ์และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์ฉลาด


ต้องรู้จักรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุกข์ทรมานใจภายหลัง เช่นรู้สึกผิด เศร้า หรือกังวล…ไม่คุ้มเลยเมื่อต้องแลกกับความสุขแป๊บเดีย ว เสียวชั่วคราว แล้วต้องเศร้าเนิ่นนาน ทรมานใจไปชั่วชีวิต


…ถุงยางอนามัยคือทางเลือกสุดท้ายจริงๆ หลังจากที่ผ่านมาหมดแล้วทุกขั้นตอนที่กล่าวมา

หน้าที่ของผมก็คงให้ข้อมูลคุณได้เท่านี้…
ผลปรากฏว่า จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 8,317 ราย มีกลุ่มตัวอย่างไปเที่ยวในคืนวันลอยกระทง ทั้งหมด 5,928 คน ส่วนใหญ่ไปกับเพื่อน แฟน คิดเป็นร้อยละ 68 โดยกลุ่มที่ไปกับบุคคลอื่นไม่ใช่ครอบครัว จะมีเพศสัมพันธ์ จำนวน 563 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ในกลุ่มนี้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก จำนวน 75 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.86
โดยสถานที่ที่ใช้ในการมีเพศสัมพันธ์ คือ หอพัก บ้านเช่า โรงแรม/โรงแรมม่านรูด และที่สาธารณะมุมมิดชิด นอกจากนี้ยังพบว่า มีพฤติกรรมการดื่มสุราในคืนวันลอยกระทง ถึงร้อยละ 19.63 โดยผลการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลให้เกิดการ มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในคืนวันลอยกระทง ถึงร้อย 15.3

#sex
eBBB
Make-up Artist
สมาชิก VIP
21 ก.พ. 54 เวลา 10:45 2,228 5 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...