การค้าประเวณี คือการขายบริการทางเพศ รวมทั้งการร่วมเพศหรือการทำออรัลเซ็กส์เพื่อแลกกับเงิน ผู้ที่ขายบริการทางเพศเรียกว่า "โสเภณี" หรืออาจมีชื่อเรียกแตกต่างไป ชื่อเรียกสำหรับผู้ขายบริการเพศหญิงมีตั้งแต่ กระหรี่ ไก่ อีตัว คุณตัว สาวเอสคอร์ท นางทางโทรศัพท์ หมอนวด หรือ สาวไซด์ไลน์ และสำหรับผู้ชาย มีเรียกกันว่า แท็กซี่บอย ขายน้ำ หรือ จิโกโล ถ้าเป็นชายที่ขายตัวให้กับชาวต่างชาติตามชายหาด จะเรียกว่า Beach Boy
การค้าประเวณีรวมถึงการขายบริการทางเพศทั้งชายและหญิง และรวมถึงการขายบริการแก่เพศเดียวกัน ในศาสนาและวัฒนธรรมส่วนมาก การขายบริการทางเพศถือว่าเป็นบาป และผู้ที่ขายบริการจะถูกดูหมิ่น
บุคคลที่จัดการควบคุมและติดต่อประสานงาน ถ้าเป็นผู้ชายมักเรียกว่า แมงดา และถ้าเป็นผู้หญิงมักเรียกว่า มาม่าซัง หรือ แม่เล้า
<script type=text/javascript> //
ประวัติการค้าประเวณีมักจะถูกเรียกว่า เป็นอาชีพหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เชื่อว่าการค้าประเวณีเกิดขึ้นหลังจากระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือเงินกำเนิดขึ้น ที่มาหนึ่งของการกำเนิดโสเภณีเชื่อว่าเกิดจากเหตุผลทางความเชื่อของชาวสุเมเรียนและชาวบาบิโลน โดยให้ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น (นอกจากคู่สมรส) เพื่อเหตุผลทางศาสนา รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์กับชาวต่างแดน เพื่อแสดงถึงการมีจิตใจโอบอ้อมต้อนรับผู้มาเยือน แสดงถึงคุณค่าของการเป็นเจ้าเมือง
การค้าประเวณีในประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 โดยไม่ได้ถูกนำเข้ามาจากชาติตะวันตกตามเรื่องเล่ากัน การค้าประเวณีในไทยเริ่มเป็นที่แพร่หลายกับชาวตะวันตก ในช่วงที่มีการติดต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับชาวตะวันตก มีหลักฐานเป็นศัพท์ในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เรียกว่า รับจ้างทำชำเราแก่บุรุษ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ใน ประมวลกฎหมายตรา 3 ดวง – บทพระไอยการลักษณะผัวเมีย มีการบัญญัติผู้ค้าประเวณีว่า หญิงนครโสเภณี และสมัยสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีสถานประกอบการเรียกว่า โรงหญิงนครโสเภณี โดยทั่วไปมีโคมสีเขียวตั้งข้างหน้า จึงเรียกกันว่า สำนักโคมเขียว ทั้งนี้ก่อนปี พ.ศ. 2499 การค้าประเวณีไม่ถือว่า ผิดกฎหมาย แต่เริ่ม พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 กำหนดว่าการค้าประเวณีเป็นความผิดอย่างชัดเจน แต่ในสังคมยุคใหม่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในช่วงสงครามเวียดนาม โดยในช่วงนั้นการค้าประเวณีจะเป็นการลักลอบค้าประเวณี และปัจจุบันธุรกิจค้าประเวณีในประเทศไทยเป็นธุรกิจแอบแฝง
ชนิดของการค้าประเวณี
โสเภณีในปัจจุบันมีรูปแบบการติดต่องานดังนี้
ยืนรอข้างถนน โดยการยืนรอคอยลูกค้าบริเวณหัวริมถนน และขายบริการทางเพศต่อในบริเวณโรงแรม หรือโรงแรมม่านรูด ในกรุงเทพ มีมากบริเวณ รอบสวนลุมพินี รอบสนามหลวง รอบวงเวียน 22 กรกฎาคม รอบถนนผดุงด้าว (ซอยเท็กซัส) อาบอบนวด หรือ ซ่อง เป็นสถานบริการทางเพศโดยตรง โดยผู้ขายบริการจะนั่งรอภายในสถานบริการและรอลูกค้าเข้ามาเลือก โดยในสถานบริการจะมีบริการจัดห้องไว้รับรอง ในต่างจังหวัดบางที่ผู้ให้บริการ จะยืนรวมตัวรอบกองไฟ และมีห้องบริการไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาใช้บริการ ในประเทศไทยราคาการให้บริการมีตั้งแต่ 50 บาท จนถึงหลายหมื่นบาท สถานบริการอาบอบนวดมีกระจายในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ในกรุงเทพมีมากบริเวณถนนพระราม 9 ถนนเพชรบุรี สถานบันเทิง คาเฟ่ ร้านคาราโอเกะ สปา หรือร้านตัดผม บางแห่ง มีการบริการพิเศษแอบแฝงเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า หอพักของผู้ขายบริการ ในหลายประเทศการขายบริการประเภทนี้เป็นประเภทเดียวไม่ผิดกฎหมาย โดยเป็นที่นิยมใน ประเทศเยอรมนี เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทางผู้ขายบริการจะประกาศโฆษณาตามใบปลิว หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ การโทรเรียก โดยลูกค้าติดต่อทางนายหน้า (หรือแมงดา หรือมาม่าซัง) เพื่อเรียกมาใช้บริการทางที่พักของลูกค้า หรือทางโรงแรมที่เตรียมไว้ ราคาการให้บริการจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่และชนิด โดยปกติ ผู้ชายที่ให้บริการ จะได้รายได้น้อยกว่าผู้หญิงที่ให้บริการ. ใน วอชิงตัน ดี.ซี. อ้างอิงจากเอเยนซี ท็อปซ์ (TOPPS) ค่าบริการ ประมาณ 6,000 บาท ($150) และ 10,000 บาท ($250) ต่อชั่วโมงสำหรับหนุ่มบริการ และสาวบริการตามลำดับ โดยทางเอเยนซี่จะได้เงิน ประมาณ 2,000 บาท ต่อชั่วโมง ได้รับจากผู้ให้บริการ ในเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย มีการขายบริการเรียกว่า ตลาดสาว โดยมีผู้หญิงยืนเรียงอยู่ข้างทาง และให้รถขับเข้าไปใน ท็อคกา (ที่จอดรถ) โดยให้ผู้ขับรถเลือกผู้หญิงที่ต้องการแล้วพาไปด้วยกันสำหรับการแสดงภาพยนตร์ลามกนั้น ถึงแม้ว่าผู้แสดงจะมีรายได้จากกิจกรรมทางเพศ และเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจในบางวัฒนธรรม เช่นเดียวกับการค้าประเวณี แต่หากไม่ได้มีการขายบริการทางเพศให้กับบุคคลทั่วไป หรือไม่ได้ขายสิทธิในการร่วมแสดงหนังให้กับบุคคลอื่นใด ก็อาจไม่ถูกถือว่าเป็นการค้าประเวณี อย่างไรก็ตาม ในหนังโป๊บางเรื่องอาจมีการใช้บุคคลที่เป็นโสเภณี หรือบุคคลซึ่งเคยเป็นโสเภณี มาเป็นผู้แสดง
กฎหมาย
ในหลายประเทศ การขายและการซื้อบริการทางเพศถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่กิจการอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องถือว่าถูกกฎหมาย รวมทั้งการเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการ การทำงานในสถานบริการทางเพศ ในประเทศมุสลิมบางประเทศ มีการลงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ให้บริการทางเพศ
ในประเทศเนเธอร์แลนด์ การค้าประเวณี หรือการเป็นเจ้าของสถานขายบริการถือเป็นอาชีพที่ต้องเสียภาษี โดยมีกฎหมายให้ผู้ขายบริการต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี กฎหมายในเรื่องของโสเภณีในเยอรมนี นิวซีแลนด์ และ สวิตเซอร์แลนด์ มีลักษณะใกล้เคียงกับเนเธอร์แลนด์ ในสหรัฐอเมริกา มี 48 รัฐที่การขายบริการทางเพศถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายโดยถือเป็นคดีแพ่ง ยกเว้นรัฐเนวาดา (ที่ตั้งของเมืองลาสเวกัส) และรัฐโรดไอส์แลนด์ ที่การขายบริการไม่ผิดกฎหมาย แต่การขายตามริมถนน หรือการเปิดสถานบริการถือว่าผิดกฎหมาย
ในประเทศไทย การค้าประเวณีเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ยอมให้ในสังคมไทยบางส่วน เช่นเดียวกับหลายประเทศในทวีปเอเชีย การเปิดสถานบริการอาบอบนวดในประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในส่วนของสถานบริการทั่วไป ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย โดยการขายบริการทางเพศของผู้ให้บริการถือเป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ถือเป็นความเข้าใจกันว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางสถานบริการ โดยประมาณว่ามีผู้ขายบริการทางเพศในประเทศไทยมีประมาณ 130,000 คนในประเทศไทยรวมทั้งเพศชายและเพศหญิง
กฎหมายการซื้อและการขายบริการทางเพศมีการแตกต่างกันในหลายประเทศ เช่น ในประเทศสวีเดน การขายบริการทางเพศไม่ผิดกฎหมาย ในขณะที่การซื้อบริการทางเพศถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายสวีเดน (Brottsbalken "Criminal Code" 1962:700, 6 kap, 11 §) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้ซื้อบริการและผู้จัดการจะถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าผู้ขายบริการอายุระหว่าง 16-18 ปี และถ้าผู้ขายอายุต่ำกว่า 16 ปีการขายบริการจะผิดกฎหมาย
การท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเพื่อการหาซื้อบริการทางเพศ หรือที่นิยมเรียกว่า "เซ็กส์ทัวร์" (อังกฤษ: sex tourism) เป็นที่นิยมในหลายประเทศที่มีการห้ามการซื้อบริการทางเพศ หรือการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ประเทศที่เป็นจุดท่องเที่ยวส่วนมากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศเม็กซิโก ประเทศจีน ประเทศลาว ประเทศคิวบา และ ประเทศบราซิล โดยประเทศต่างๆ ได้ตระหนักถึงปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้น และพยายามที่จะลดปัญหา และลดการบริการที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยวทางเพศ
ปัจจุบัน ประเทศตะวันตกได้พยายามออกกฎหมายสำหรับบุคคลในประเทศที่ไปซื้อบริการทางเพศจากประเทศอื่น โดยพยายามตั้งกฎหมายและบทลงโทษ แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายเหล่านี้มักไม่สามารถลงโทษได้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนื่องจากการค้าประเวณีมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กระจายมากขึ้น ทางรัฐบาลของแต่ละประเทศแก้ปัญหาต่างๆ ได้แก่
ออกกฎหมายห้ามการค้าประเวณี ให้การศึกษาแก่ผู้ขายบริการ แนะนำอุปกรณ์ในการป้องกันโรคติดต่อต่างๆ
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย เอื้อเฟื้อข้อมูล