ทาลิบัน กระบวนการอิสลามหัวรุนแรงในอัฟกานิสถาน ซึ่งมีอิทธิพลควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ กระบวนการทาลิบันจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 1994 โดยมูลลาห์ (พระอิสลาม) อาวุโส โมฮัมหมัด โอมาร์ ในเมืองกันดาฮาร์ทางภาคใต้ของอัฟกานิสถาน คำว่าทาลิบันหมายความว่า “ นักศึกษา ” ซึ่งคงจะหมายความถึงนักศึกษาผู้ก่อกำเหนิดกระบวนการนี้ แม้ว่าในความเป็นจริงชั่วชีวิตของพวกทาลิบันส่วนใหญ่จะรู้จักแต่สงครามและเคยเป็นนักศึกษาเพียงแค่การฝึกหัดทางศาสนาขั้นพื้นฐานเท่านั้น
...............กระบวนการทาลิบันอุบัติขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบและไม่มั่นคงของสงครามระหว่างอัฟกัน – โซเวียด (1979 – 1988) และได้กลายเป็นการต่อสู้กันเองภายในประเทศ ในเวลาต่อมา ในระหว่างทศวรรษที่ 1980 อัฟกานิสถานได้ถูกสหภาพโซเวียดยึดและปกครอง สงครามอันยาวนามระหว่างอัฟกานิสภานกับสหภาพโซเวียด ได้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงโดยกลุ่มมูจาฮิดีน (นักรบนอกแบบ) ด้วยความช่วยเหลือสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ปากีสถานก็ได้ให้การสนับสนุนที่พักพิง การฝึกทางทหารและอื่น ๆ
หลังจากที่โซเวียดได้ถอนกำลังไปเมื่อปี 1989 ก็ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างกลุ่มมูจาฮีดินและรัฐบาลกลาง เดิมรัฐบาลกลางของอัฟกานิสถานได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพวกปัชตูนส์ (Pashtuns) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองส่วนใหญ่ของประเทศมาเป็นเวลานาน แต่หลังจากโซเวียดถอนกำลังไป แนวร่วมของรัฐบาลซึ่งรวมทั้งชนเผ่า ทาจิกส์ (Tajiks) อุซเบกส์ (Uzbeks) ฮาซาราส์ (Hazaras) และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ก็ได้เข้ามามีอำนาจ พวกทาลิบัน ผู้ก่อกำเนิดมูจาฮิดิน ซึ่งเป็นคนจากเผ่าปัชตูนส์เป็นส่วนใหญ่ ก็มุ่งหวังที่จะได้กลับมามีอำนาจเหนือรัฐบาลกลางในกรุงคาบูล อีกครั้งหนึ่ง ทางพวกทาลิบันได้นำเสนอตัวเองว่าเป็นกองกำลังของคนรุ่นใหม่ที่จะต่อสู้เพื่อสันติภาพและเอกภาพ ชาวอัฟกันหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกปัชตูนส์ก็ได้ให้การสนับสนุนทาลิบัน ด้วยความหวังที่จะให้การสู้รบที่ต่อเนื่องยาวนานมาหลายปีได้ยุติลง
ในปลายปี 1994 และ 1995 ทาลิบันได้เคลื่อนกำลังไปทั่วภาคใต้และตะวันตกของประเทศ ยึดครองเมืองกันดาฮาร์และเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองที่มีชาวปัชตูนส์เป็นชนกลุ่มใหญ่ ตามด้วยเมืองเฮรัทและเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองบนทางหลวงสายหลักในภาคใต้และภาคตะวันตก ในเดือนกุมภาพันธ์ 1995 ทาลิบันได้เข้าประชิดกรุงคาบูล แต่ได้ถูกขับไล่ โดยกำลังของรัฐบาลในเดือนมีนาคม ต่อมาในเดือนตุลาคม พวกทาลิบันก็ได้รุกคืบหน้าเข้าสู่เมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการใช้จรวดและระเบิดถล่มกรุงคาบูลอย่างต่อเนื่อง ทหารทาลิบันก็สามารถบุกเข้ายึดพื้นที่ทางตะวันออกและพื้นที่ตอนกลางของประเทศเอาไว้ได้ ตลอดปี 1996 พวกทาลิบันได้ปิดล้อมเมืองกรุงคาบูล หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งสามารถบุกเข้าเมืองและยึดเอาไว้ได้ในที่สุดในเดือนกันยายน กองทัพและเจ้าหน้าฝ่ายรัฐบาลรวมทั้งประธานาธิบดี บูรานุดดิน รับบานี และนายกรัฐมนตรี กัลบุดดิน เฮกมาทยาร์ ได้หลบหนีไปทางภาคเหนือของประเทศ ภายหลังจากที่เมืองหลวงตกอยู่ภายใต้การยึดครองของทาลิบันได้ไม่นาน นายโมฮัมหมัด นาจิบูลลาห์ ประธานาธิบดีคนสุดท้าย ซึ่งได้รับการหนุนหลัง จากโซเวียด และนายซาห์ปูร อาหมาดซาย น้อยชายซึ่งเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัย ก็ถูกจับและแขวนคอในที่สาธารณะ
หลังจากยึดกรุงคาบูลได้แล้วพวกทาลิบันก็ได้ตั้งตัวเป็นรัฐบาล รัฐมนตรีรักษาระเบียบแบบแผน ได้บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดให้ประชาชนปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและห้ามในสิ่งผิด กฎเกณฑ์บางอย่างได้รับอิทธิพล จากความเชื่อของโบราณของชนเผ่าและไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามที่แท้จริง ผู้นำทาลิบันห้ามมิให้มีการแสดงดนตรี, ปิดโรงภาพยนต์ และยึดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากโรงแรมของชาวต่างชาติ ผู้ชายถูกบังคับ ให้ไว้เครายาว โดยไม่ต้องตัด (ตามหลักดั้งเดิมของศาสนาอิสลาม) และถูกบังคับให้มารวมกันและเฆี่ยนตี ด้วยไม้เรียว เพื่อบีบบังคับให้สวดมนต์ในมัสยิด ผู้หญิงถูกบังคับให้แต่งชุดบูรคาส์ (Burkas) ซึ่งเป็นผ้าคลุมยาวคล้ายกระโจมคลุมตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าแต่งกายไม่ถูกต้องก็จะถูกเฆี่ยนตี โรงเรียนสตรีถูกปิด และผู้หญิงก็ถูกห้ามไม่ให้ทำงานนอกบ้าน ผลก็คือโรงพยาบาลต่างๆ ไม่มีคนทำงาน และเด็กๆ ในที่เลี้ยงเด็กกำพร้าก็ถูกทอดทิ้ง แม่หม้ายซึ่งเป็นผู้หาเลี้ยงชีพคนเดียวของครอบครัว ในประเทศที่ผู้ชายหลายพันคนต้องตายในสงครามต้องกลายเป็นคนที่ไม่สามารถทำงานได้
พวกทาลิบันได้บังคับใช้ระเบียบและกฎหมายเพิ่มเติมหลายอย่าง โดยออกประกาศทางสถานีวิทยุ และรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง พวกทาลิบันลงโทษผู้กระทำความผิดในคดีฆาตกรรม ชู้สาว และค้ายาเสพติด ถึงตาย และอนุญาตให้มีการทำประชาทัณฑ์ด้วยการใช้ก้อนหินขว้างใส่ผู้กระทำผิด บางครั้งผู้หญิงซึ่งอยู่ในความดูแลของผู้ชายที่ไม่ใช่สามีตนต้องถูกลงโทษให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้พวกทาลิบันนำยังบังคับให้มีการลงโทษขโมยด้วยการตัดมือ กฎหมายหลายข้อได้รับการทักท้วงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน และเป็นที่ตำหนิไปทั่วโลก แม้กระทั่งอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ปกป้องหลักของศาสนาอิสลาม ก็ได้ตำหนิการกระทำอันเกินเลย โดยเอาศาสนามาเป็นข้ออ้าง ของกลุ่มทาลิบัน
การยึดครองกรุงคาบูลของทาลิบันเมื่อปี 1996 ทำให้ทาลิบันสามารถครอบครองดินแดนได้มากขึ้น และทหารทาลิบันก็ได้รุกคืบหน้าเข้าสู่ฐานที่มั่นของกลุ่มทาจิกส์, อุซเบกส์ และฮาซาราส์ ทางภาคเหนือ ในปลายทศวรรษที่ 1990 กลุ่มทาลิบันสามารถยึดพื้นที่อัฟกานิสถานได้เกือบทั้งหมด กำลังกลุ่มต่อต้านซึ่งเป็นที่รู้จักในนามพันธมิตรฝ่ายเหนือสามารถยึดรักษาพื้นที่ไว้ได้เพียงส่วนน้อยทางตอนเหนือของประเทศเท่านั้นประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่รับรองรัฐบาลทาลิบันว่าเป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของอัฟกานิสถาน
.รัฐบาลทาลิบันได้ให้ความปกป้องคุ้มครองแก่โอซามา บิน ลาเด็น ( Osama bin Laden) ผู้นำอิสลามหัวรุนแรง ซึ่งสหรัฐระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายโจมตีสถานทูตสหรัฐ ในอัฟริกาเมื่อปี 1998 และโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ที่ผ่านมา
...............หลังจากการโจมตีตึกเวิลด์เทรด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน สหรัฐก็ได้ประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้าย ผู้นำทาลิบันได้ปฏิเสธ ข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ให้ส่งมอบบินลาเด็น และในเดือนตุลาคม สหรัฐก็ได้เริ่มการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทาลิบัน ในขณะเดียวกันกองกำลังภาคพื้นดินของกลุ่มพันธมิตรฝ่ายเหนือก็ได้ปฏิบัติการรุกเข้าสู่กรุงคาบูลและพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอื่น ๆ โดยมุ่งที่จะล้มล้างรัฐบาล ทาลิบัน ลงให้ได้