เมื่อ วันที่ 13 ก.พ. พ.ต.ท.สุรสีห์ อินอุ่นโชติ สวส.สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปลักพาตัวเด็กทารกในโรงพยาบาลขอนแก่น จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.คณิต ดวงหัสดี ผกก. พ.ต.ท.สรภพ หมื่นกันยา สว.สส. และชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่ที่อาคารราชนครินทร์ 14 แผนกสูติกรรม ชั้น 2 ห้องสูติกรรม 1 ซึ่งติดกับคลินิกนมแม่ บริเวณเตียงที่ 24 พบ น.ส.กัลย์สุดา สำแดง อายุ 26 ปี นอนร่ำไห้กอดเบาะรองและเสื้อคลุมของเด็กทารกอย่างน่าเวทนา โดยมีนายนายสมบูรณ์ สำแดง อายุ 72 ปี บิดานั่งเฝ้าปลอบโยนใกล้ชิด
จากการสอบสวนนายสมบรูณ์ ให้การว่า ลูกสาวมีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเดินทางมาคลอดลูกที่บ้านเกิด โดยหลานตนเพิ่งออกมาดูโลกได้เพียง 2 วัน แต่กลับต้องมาถูกคนร้ายลักพาตัวไป ซึ่งหลังเกิดเหตุทราบจากลูกสาวว่า ก่อนหน้านี้ 1 วันพบคนร้ายมาทำทีเป็นเข้ามาตีสนิทโดยอ้างว่าเดินทางมาเยี่ยมหลานที่ป่วย และยังขออุ้มหลานตนด้วย จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้ฉวยโอกาสตอนที่ลูกสาวตนเดินไปเข้าห้องน้ำแอบมาอุ้ม หลานตนเดินออกไปจากโรงพยาบาลไปอย่างง่ายดาย ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นแก๊งลักเด็กทารกไปขายหรือนำไปขอทาน จึงอยากให้ตำรวจรีบจับกุมให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นห่วงหลานมาก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล ปรากฎว่าสามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40-45 ปี กับหญิงสาววัยไล่เลี่ยกัน รูปร่างท้วม ผิวคล้ำ ขับรถกระบะนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน แต่เห็นเลขทะเบียนไม่ชัด ทราบเพียงว่าหมวดจังหวัดขอนแก่นเท่านั้น โดยขับเข้ามาเมื่อเวลา 07.42 น. วันที่ 13 ก.พ. และขับออกในเวลา 08.02 น. นอกจากนี้กล้องยังสามารถจับภาพหญิงคนร้ายอุ้มเด็กเดินผ่านจุดต่าง ๆ ในโรงพยาบาลได้ด้วย
ด้าน พญ.ฐิติพร สิริวชิรชัย หัวหน้ากลุ่มงานสูติกรรม-นรีเวชกรรม พร้อมคณะพยาบาลแผนกสูติกรรม รพ.ขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ปกติทางโรงพยาบาลจะมีการประชาสัมพันธ์ให้กับคนไข้และญาติระมัดระวังคนร้าย ที่อาจแอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในโรงพยาบาลอยู่เสมอ แต่กรณีนี้คนร้ายได้เข้ามาทำทีเป็นสนิทกับแม่เด็กเสมือนเป็นญาติคนหนึ่ง จนทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจผิด แล้วอาศัยกรณีดังกล่าวแอบอุ้มเด็กออกไป อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้มอบให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจออกสืบสวนติดตามจับกุม แก๊งคนร้ายรายนี้แล้ว โดยคาดว่าอาจจะยังไม่ได้หลบหนีออกจาก จ.ขอนแก่น เนื่องจากอาจลงมือก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นบุคคลที่พฤติกรรมน่า สงสัยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ทันที.