ในที่สุดมาตรฐาน USB 3.0 ก็ออกสู่ตลาดแล้ว หากคุณกำลังสงสัยว่ามันคืออะไร และจะได้ประโยชน์อะไรจาก
มาตรฐานใหม่นี้ คำถามทั้ง 10 ข้อที่ CHIP รวบรวมมานี้ ช่วยตอบคุณได้

1 USB 3.0 คืออะไร?
USB 3.0 SuperSpeed เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่ได้การ
พัฒนาต่อมาจาก USB 2.0 ซึ่งมีการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2000 หรือเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยจุดเด่นที่สำคัญ
ของการเชื่อมต่อของ USB 3.0 นี้ก็คือความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลที่มีสูงถึง 5Gb/s ด้วยโปรโตคอลแบบใหม่
หรือเร็วกว่าการส่งผ่านข้อมูลของ USB 2.0 ถึง 10 เท่านั้น นอกจากนั้นยังได้รับการปรับปรุงเรื่องการจัดการการ
ใช้พลังงานของอุปกรณ์ให้ดีขึ้นจากเดิมด้วย โดยที่ทั้งหมดนี้ยังคงทำงานเข้ากันได้กับมาตรฐาน USB 2.0
ทุกประการ

เมนบอร์ดซ็อกเก็ต 1,156
Asus P7P55D-E Pro
ราคาโดยประมาณ: 7,500 บาท
ข้อมูล: www.asus.co.th

2. USB 3.0 จะเข้ามาแทนที่ตลอดไปหรือจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกในอนาคต?
    ขณะนี้สามารถกล่าได้ว่า USB 3.0 คือมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบใหม่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และค่อนข้างแน่นอนว่ามันจะเข้ามาแทนที่ USB 2.0 ด้วยโดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ที่ต้อง
การการส่งผ่านข้อมูลด้วยความเร็วสูงและก็คงจะครองตลาดไปอีกหลายปี แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถชี้ชัด
ลงไปได้ว่ามาตรฐาน USB 3.0 จะมีอยู่ตลอดไปหรือไม่ เนื่องจากเทรนด์ของการเชื่อมต่อหลายๆ อย่างมักจะ
ถูกแทนที่ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย อย่างเช่นขณะนี้ความเร็ว 3Gb/s ได้ถูกนำมาใช้กับการส่งผ่านข้อมูล
HD ในระบบไร้สายแล้ว นอกจากนั้นหลังจากที่อินเทลได้มีการพูดถึง USB 3.0 แล้วก็ได้มีการกล่าวถึงการ
เชื่อมต่อด้วยระบบออปติกที่มีความเร็ว 10Gb/s ภายใต้ชื่อรหัสว่า Light Peak ซึ่งจะออกสู่ตลาดในเร็วๆนี้ด้วย
ส่วนมันจะออกมาแทนที่หรือเป็นทางเลือกอย่างไรนั้นยังไม่มีข้อมูลอะไรที่แน่นอน

3. เครื่องพีซีปกติทั่วไปสามารถอัพเกรดให้ใช้งาน USB 3.0 ได้หรือไม่?
แม้ว่าเครื่องพีซีทุกเครื่องสามารถอัพเกรดให้ใช้งาน USB 3.0 ได้ด้วยการเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ แต่การอัพเกรด
โดยการติดตั้งการ์ดคอนโทรลเลอร์เพิ่มเติมก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่ามาก แต่เนื่องจากการ์ดคอนโทรลเลอร์
USB 3.0 ในปัจจุบันนี้จะต้องเชื่อมต่อด้วยสล็อต PCI Express x1 ดังนั้นจึงต้องพิจารณาดูก่อนว่าเมนบอร์ดที่มี
อยู่เดิมนั้นสนับสนุนการเชื่อมต่อหรือมีสล็อตชนิดนี้ให้ใช้งานหรือไม่ (เครื่องพีซีก่อนปี 2005 จะไม่มีสล็อตชนิดนี้)
นอกจากนั้นเวอร์ชันของ PCI Express ก็เป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากความเร็วของ USB 3.0 จะถูกใช้ประโยชน์
อย่างเต็มที่ได้ก็ต่อเมื่อเป็นการเชื่อมต่อผ่านสล็อต PCI Express ที่เป็นเวอร์ชัน 2.0 เท่านั้น

4. ในเวลานี้ USB 3.0 ได้รับการสนับสนุนอย่างแพร่หลายแล้วหรือ?
เนื่องจาก USB 3.0 ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยองค์กรที่ไม่แสวงกำไรและประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำมากมาย ทำให้
USB 3.0 นอกจากจะมีราคาที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อแล้วมันยังเป็นที่ยอมรับในวงกว้างด้วย ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดตัว
ออกสู่ตลาดมันก็มีก็มีผลิตภัณฑ์ตัวแรกออกมาอย่างรวดเร็วโดยจะอยู่ในรูแบบของคอนโทรลเลอร์ที่เป็นแบบแยก
ต่าง หาก แต่อย่างไรก็ดีผู้ผลิตชิปเซ็ตทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นอินเทล Nvidia หรือว่าเอเอ็มดีต่างก็ได้วางแผนที่จะนำคอนโทรลเลอร์ USB 3.0 เข้ามารวมไว้ในชิปเซ็ตแล้ว โดยคาดว่าชิปเซ็ตที่สนับสนุน USB 3.0 เหล่านี้จะออกสู่
ตลาดได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป ในขณะที่อุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานนี้ก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย


5. อุปกรณ์รุ่นเก่าๆ อย่างเช่นไดฟร์แฟลช USB 2.0 สามารถนำมาใช้กับพอร์ต USB 3.0 ได้หรือไม่?
นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพในเรื่องความเร็วแล้ว มาตรฐาน USB 3.0 ยังได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงเรื่องความ
เข้ากันได้กับมาตรฐานเก่าด้วย ดังนั้นจึงสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ USB รุ่นเก่าได้อย่างไม่มีปัญหาและไม่มีข้อ
จำกัดใดๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น USB แบบ FullSpeed ที่มีความเร็ว 12Mb/s หรือแบบ HighSpeed ที่มีความเร็ว
480Mb/s อย่างเช่นที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันในชื่อของ USB 2.0 เนื่องจากลักษณะของปลั๊กที่เป็นแบบ Type A
และพอร์ตของ USB 3.0 ยังคงฟอร์มแฟคเตอร์ที่เป็นแบบเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนำอุปกรณ์ USB แบบเก่า
มาเชื่อมต่อกับพอร์ต USB 3.0 แล้วมันจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วระดับ 5Gb/s ของมาตรฐาน USB
SuperSpeed ได้ แต่ในกรณีที่ดีที่สุดมันก็สามารถทำให้อุปกรณ์ USB 2.0 มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นได้สูงสุดถึง 10
เปอร์เซ็นต์ทีเดียว

6. จนถึงเวลานี้มีอุปกรณ์ใดบ้างที่วางจำหน่ายโดยใช้มาตรฐาน USB 3.0?
ปัจจุบันนี้มาตรฐาน USB 3.0 ได้เริ่มถูกนำออกสู่ตลาดบ้างแล้ว แต่ด้วยเหตุที่มันเป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ในช่วง
แรกๆ นี้มันยังคงหาซื้อได้ยากอยู่ นอกจากนั้นในเวลานี้ก็มีแต่ชิปคอนโทรลเลอร์ NEC µPD720200 เพียงรุ่นเดียว
เท่านั้นที่สนับสนุนการทำงาน โดยจะมีทั้งที่อยู่ในรูปแบบของการ์ดคอนโทรลเลอร์ที่เชื่อมต่อผ่านสล็อต PCI Express
และแบบที่ติดตั้งเข้ากับเมนบอร์ดโดยตรง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะอัพเกรดเครื่องให้สนับสนุน USB 3.0 โดยการซื้อ
เมนบอร์ดใหม่หรือว่าติดตั้งการ์ดคอนโทรลเลอร์เพิ่มเติม แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็มีสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีทั้งนั้น โดย
เฉพาะเมนบอร์ดที่มีคอนโทรลเลอร์ USB 3.0 รวมอยู่ด้วยนั้น มักจะเป็นเมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่มีราคาแพงกว่าปกติ
อีกทั้งมันยังอาจจะต้องเปลี่ยนซีพียูและหน่วยความจำใหม่ด้วย

ในส่วนของตัวอุปกรณ์ USB 3.0 นั้นก็ยังมีไม่มากเช่นกัน เพราะเหนือไปจากฮาร์ดดิสก์ HD-HX series ของ Buffalo
(ดังภาพด้านล่าง) ไดรฟ์แฟลช USB ของ SuperTalent และ Docking ที่เป็นอะแดปเตอร์ฮาร์ดดิสก์ SATA ของ
Sharkoon ดังภาพในหน้าถัดไปแล้วก็ยังไม่มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้เห็นโดยทั่วไปเลย


ฮาร์ดดิสก์แบบภายนอก
Buffalo HD-HXU3
ราคาโดยประมาณ: 4,700 บาท
ข้อมูล: www.buffalo-technology.com  

7. ระหว่างพอร์ต USB 2.0 กับ USB 3.0 มีส่วนใดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนบ้าง?
หากมองเผินๆ แล้วก็อาจจะเห็นว่า USB 3.0 นั้นต่างจาก USB 2.0 เพียงแค่การเปลี่ยนไปใช้สีฟ้าแทนที่สีดำหรือเทา
เท่านั้น แต่ในความจริงแล้วสิ่งที่อยู่ภายในพอร์ตที่มีขนาดและรูปร่างเหมือนกันนี้ มีส่วนประกอบที่แตกต่างกันอย่าง
ชัดเจน เนื่องจากการส่งผ่านด้วยความเร็วสูงระดับ SuperSpeed มันจะถูกกำหนดโดยโปรโตคอลที่มีความเร็ว 5Gb/s
ดังนั้นเพื่อให้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ USB 3.0 จึงได้มีการออกแบบขาสัญญาณขึ้นใหม่ โดย USB 2.0 จะส่งผ่านข้อมูล
โดยใช้ขาสัญาณจำนวน 4 ขาส่วน USB 3.0 จะมีขาสัญญาณทั้งหมด 9 ขา โดยมีขาสัญญาณชุดหนึ่งที่ยังคงเป็นแบบ
เดียวกับ USB 2.0 ทุกประการ และเมื่อขาสัญญาณของพอร์ต USB 3.0 ได้รับการออกใหม่ สายสัญญาณที่ต้องใช้ก็
เปลี่ยนไปด้วย โดยภายในสายสัญญาณของ USB 3.0 จะมีการเพิ่มสายไฟสำหรับการรับส่งข้อมูลเข้ามาอีก 2 เส้น
(แต่ละเส้นจะประกอบด้วยสายสัญญาณภายในจำนวน 3 ชุด) สำหรับการับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมาโดยสายไฟส่วนที่เหลือ
จะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้กับ USB 2.0 ทุกประการ

8. ผลทดสอบประสิทธิภาพที่เกิดจากการใช้งานจริงของ USB 3.0 เป็นอย่างไรบ้าง?
ในการทดสอบประสิทธิภาพจากการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB 3.0 ครั้งแรกของ CHIP ซึ่งรองรับการทำงานด้วย
เมนบอร์ด Asus P7P55D-E Pro ที่มีชิป NEC µPD720200 เป็นคอนโทรลเลอร์นั้น ฮาร์ดดิสก์ SATA 3.0Gb/s
ทั่วไปที่ติดตั้งเข้ากับอะแดปเตอร์ Sharkoon QuickPort USB 3.0 และฮาร์ดดิสก์แบบภายนอกรุ่น HD-HXU3
จาก Buffalo ต่างก็ให้ผลการทดสอบที่น่าประทับใจมาก โดยตัวเลขความเร็วที่ได้จากการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต
USB 3.0 ของอุปกรณ์ทั้งสองนี้แทบจะไม่ได้ต่างไปจากความเร็วของฮาร์ดดิสก์ SATA ที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่อง
เลยและเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB 2.0 แล้วมันก็เร็วกว่ากันถึง 4 เท่าทีเดียว นอกจากนั้นมันก็ยังมี
ความ เร็วที่สูงกว่านี้อีกเมื่อเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์ Solid State รุ่น X25-M G2 ของอินเทลเข้ากับอะแดปเตอร์ Sharkoon QuickPort USB 3.0 ความเร็วที่ได้นั้นมีอัตราที่สูงถึง 200MB/s เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีความเร็วนี้ก็ยังต่ำกว่า
ตัวเลขทางทฤษฎีของการเชื่อมต่อ ด้วยพอร์ต USB 3.0 อยู่มาก (640MB/s) และในการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต SATA ตามปกิตของฮาร์ดดิสก์ Intel X25 M G2 ที่ทดสอบก็สูงถึง 260MB/s ด้วย แต่กระนั้นความเร็วระดับ 200MB/s ที่ได้ที่ได้
จากากรเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB 3.0 นั้นก็เป็นสถิติที่ดี่ที่สุดของการเชื่อมต่อแบบภายนอกในเวลานี้ และพิเศษกว่านั้นก็
คือหากนำอุปกรณ์ USB 2.0 มาใช้มันก็ยังจะทำให้เข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น จนทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นดีขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว

9. ถ้าไม่ใช้ USB 3.0 จะมีทางเลือกอื่นใดบ้าง?
หากที่พิจารณาจากตัวเลขความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลที่สูงกว่าการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB 2.0 อย่างน้อยสองเท่าแล้ว
การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต eSATA หรือพอร์ต SATA 3.0Gb/s ที่ถูกแยกออกมาภายนอกก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่
สา มารถอัพเกรดหรือไม่ต้องการเปลี่ยนมาใช้มาตรฐาน USB 3.0 เช่นกัน นอกจากนั้นการเชื่อมต่อรูปแบบนี้ก็เริ่มพบได้จากเครื่องพีซีจำนวนมากรวมทั้ง โน้ตบุ๊กด้วย เพียงแต่ในการใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยพอร์ต eSATA นั้นจะไม่สะดวกสบายเหมือนกับ USB ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชัน Hot Plug หรือว่าการใช้พลังงานของอุปกรณ์ นอกจากนั้น eSATA ก็ยังไม่
สามารถขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่อด้วย Hub ได้เหมือนกับ USB และสายสัญญาณที่ใช้ก็ยังสั้นกว่ามากด้วย

Docking สำหรับฮาร์ดดิสก์ SATA
Sharkoon SATA QuickPort USB 3.0
ราคาโดยประมาณ: 2,300 บาท
ข้อมูล: www.sharkoon.com  

10. โดยสรุปแล้ว USB 3.0 เหมาะสำหรับอะไรและใครที่ควรต้องใช้มันบ้าง?
USB 3.0 เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องเปลี่ยนมาเป็นมาตรฐานใหม่นี้
เสมอไป โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงอย่างเช่นสแกนเนอร์ พรินเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์และกล้องเว็บแคม
เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้แทบจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการเชื่อมต่อด้วยมาตรฐานใหม่นี้เลย ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์
แบบภายนอก ไดรฟ์แฟลช USB ซึ่งต้องส่งผ่านข้อมูลจำนวนมากด้วยความเร็วสูง จะเหมาะกับการเชื่อมต่อด้วย
มาตรฐาน USB 3.0 มากกว่ามาก ดังนั้นหากต้องการประสิทธิภาพจากการใช้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลเหล่านี้จริงๆ
ก็ถึงเวลาที่ผู้ใช้ควรจะต้องอัพเกรดเครื่องและให้ความสำคัญอุปกรณ์ที่เป็น USB 3.0 มากเป็นพิเศษ



ไดรฟ์แฟลช USB
SuperTalent RAIDDrive USB 3.0
ราคาโดยประมาณ: 11,500 บาท (64GB)
ข้อมูล: www.supertalent.com