เรื่องที่ 1: จดหมายถึงจูเลียต
เชื่อไหมว่า ทุกวันวาเลนไทน์ของทุกปี เมือง "เวโรนา" ซึ่งเป็นเมืองของโรมิโอกับจูเลียต จะได้รับจดหมายกว่า 1 พันฉบับ จ่าหน้าซองถึงจูเลียต!
ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Letters to Juliet ก็จะพอนึกภาพกันออก ที่ผู้หญิงนิยมส่งจดหมายรักไปที่บ้านของจูเลียตเพื่อปรึกษาปัญหารัก และขอพรให้รักของพวกเขาสมหวัง (โรแมนติกจริง อะไรจริง แต่ถ้าส่งจากเมืองไทยไป ค่าส่งน่าจะบานตะไทอยู่ = = ขออภัยหากความเห็นพี่อิงทำให้คนอ่านหมดมู้ด)
(ภาพกำแพงในบ้านของจูเลียต ที่คู่รักจะนำกระดาษเขียนข้อความหวานๆ มาติดไว้)
เรื่องที่ 2: ของขวัญวาเลนไทน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
รู้ไหมว่าอะไรคือของขวัญวาเลนไทน์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดเท่าที่โลกเคยมี...
เฉลย "ทัชมาฮาลไง" ของขวัญชิ้นนี้สร้างโดยพระราชาชาห์จาฮาน เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานตัวแทนความรักอันเป็นนิรันดร์ ที่พระองค์มีต่อพระมเหสี
ทัชมาฮาลเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1634 และใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 22 ปี ใช้แรงงานคนทั้งหมดสองหมื่นคนจากทั่วทั้งอินเดียและประเทศแถบนั้น (เป็นความรักที่ซึ้งสะเทือนใจมากๆ พี่อิงแนะนำให้น้องๆ ไปหาเกร็ดความรู้เรื่องนี้เพิ่มเติมนะจ๊ะ มีสอบด้วยนี่)
เรื่องที่ 3: คนที่ได้รับการ์ดวาเลนไทน์มากที่สุด
ลองเดากันดูว่า ใครจะได้รับการ์ดวาเลนไทน์มากที่สุด...
คุณครูนั่นเอง! ช็อกไหม...มีคนส่งการ์ดวาเลนไทน์หาครูจริงๆ รึ
ลำดับรองลงมาคือ บรรดาลูกที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่, คุณแม่, ภรรยา, แฟน และสัตว์เลี้ยง...
(พี่อิงชวนให้น้องๆ ลองนึกถึงคุณครูฝ่ายปกครองที่ดุที่สุดในโรงเรียน แล้วลองจับกลุ่มส่งการ์ดวาเลนไทน์ไปให้ท่านกันดีไหม จะได้มีเรื่องน่ารักๆ ในวันวาเลนไทน์)
เรื่องที่ 4: ความเชื่อวันวาเลนไทน์
เชื่อกันว่า ในวันวาเลนไทน์ ชื่อผู้ชายที่น้องๆ ผู้หญิง ได้ยินเป็นครั้งแรกของวัน ไม่ว่าจะอ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือได้ยินจากวิทยุ โทรทัศน์ จะเป็นชื่อของผู้ชายที่น้องจะแต่งงานด้วยในอนาคต
(โอเค ก่อนวันวาเลนไทน์ พี่อิงจะเอาชื่อพร้อมใบหน้าของ โรเบิร์ต แพททินสัน ไปแปะเพดาน เหอๆ)
เรื่องที่ 5: ความเชื่อเรื่องนก
ในยุคสมัยโบราณเลย เชื่อกันว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนเห็นนกโรบินบินผ่านศีรษะตัวเองในวันวาเลนไทน์ ก็จะได้แต่งงานกับทหารเรือ
และถ้าผู้หญิงคนไหนเห็นนกกระจอก จะได้แต่งงานกับคนจนแต่มีความสุขตลอดชีวิตการแต่งงาน หรือถ้าได้เห็นนกโกลฟินช์ ก็จะได้แต่งงานกับเศรษฐี!
(แล้วถ้าได้เห็นนกกระจอกเทศล่ะ = =;)
เรื่องที่ 6: ช้อนแห่งความรัก
ในประเทศเวลส์ ผู้คนสมัยก่อนนิยมให้ช้อนแห่งความรักแก่คนรัก ซึ่งเป็นช้อนไม้ที่แกะสลักลวดลายซับซ้อนแปลกตา
(สวยนะ...แต่ อืม...คนรับน่าจะกลัวมากว่าจะซึ้ง ก็หน้าตามันอย่างกับเครื่องรางกันผี)
เรื่องที่ 7: รายจ่าย!
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายจะใช้เงินประมาณ 5 พันบาทสำหรับวันวาเลนไทน์ เพื่อให้เป็นค่ำคืนที่พิเศษสุดสำหรับผู้หญิงที่เขารัก
(ใครได้ช็อคโกแลตขายในเซเว่นแท่งเดียวจากแฟนยกมือขึ้น! แถมแอบกัดไปแล้ว 1 คำ)
เรื่องที่ 8: วันวาเลนไทน์เมื่อ 700 ปีที่แล้ว
ผู้เชึ่ยวชาญเชื่อว่า วันวาเลนไทน์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความโรแมนติกเลยสักนิด จนกระทั่งราวๆ ศตวรรษที่ 14 ก่อนหน้านี้วันวาเลนไทน์มีไว้สำหรับพิธีทางศาสนาและสวดมนต์เพื่อนักบุญวาเลนไทน์
เรื่องที่ 9: วันวาเลนไทน์โดนแบน!
บางศาสนาและในบางประเทศ แบนวันวาเลนไทน์! เพราะพวกเขาเชื่อว่า มันกระตุ้นให้เกิดความลุ่มหลงราคะ โดยในปี 2002 และ 2008 ประเทศซาอุดิอาระเบีย แบนวันวาเลนไทน์แหละ
เรื่องที่ 10: ประเทศที่มีวันวาเลนไทน์เยอะที่สุดในโลก
ประเทศเกาหลีใต้!
รู้ไหมว่า เกาหลีใต้มีวันแห่งความรักทุกเดือน! แต่วันแห่งความรักที่สำคัญที่สุดอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน
ในเดือนกุมภาพันธ์ ผู้หญิงจะให้ขนมหวานกับผู้ชาย ส่วนในเดือนมีนาคม ผู้ชายจะให้ของตอบแทน แต่ของขวัญนั้นจะไม่ใช่ขนมหรือช็อคโกแลต และเดือนเมษายน จะมีวันที่เรียว่า "Black Day" หรือ "วันสีดำ" สำหรับคนที่โดดเดี่ยวไร้เงาแฟน ไม่ได้ของขวัญจากใคร จะมารวมตัวกินจาจังมยอน (บะหมี่ราดซอสดำ) ที่ร้านอาหารกัน