ไม่ได้จะมาตอกย้ำคนโสดหรืออะไร แต่หลายคนคงสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงยัง "โสดสนิท" แถมต้องมานั่งมองคนอื่นเขาสวีทกัน เรามีเหตุผลแบบคร่าวๆ ให้ลองพิจรณาตัวเองดูกัน
1. เพราะคุณหดหู่ หมดหวัง
เอาแต่คิดว่าคนอื่นดีกว่า, สวยกว่า, หล่อกว่า, เก่งกว่า การไม่เห็นค่าของตัวเองนั้นมักถูกแสดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วจะทำให้คนอื่นไม่เห็นค่าในตัวคุณเองเช่นกัน ดังนั้นควรปรับความคิดใหม่ว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีความแตกต่าง จงค้นหาคุณค่าของตนเองแล้วคนอื่นก็จะเห็นตาม
2. เพราะคุณกลัวการผูกมัด
โรคกลัวการผูกมัดมักเกิดขึ้นเพราะความกลัว กลัวว่าความรักจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่จงอย่าลืมว่า รักนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุขด้วยเช่นเดียวกัน ท่องไว้ให้ขึ้นใจสำหรับคนที่เป็นโรคนี้
3. เพราะคุณชอบฟังแต่เสียงตัวเอง
เป็นคนที่ชอบแต่จะพูด และสิ่งที่ตามมาก็คือ การไม่ใส่ใจในสิ่งที่คนอื่นจะพูดบ้าง อันนี้เข้าใจผิดอย่างแรง เพราะว่าความรักมันคือการใส่ใจกันและกัน ควรฟังสิ่งที่คนอื่นต้องการจะสื่อบ้างแล้วเราจะได้ "รู้จัก" คนๆนั้นได้ดียิ่งขึ้น
4. เพราะคุณขี้อายเกินไป
สมัยก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบัน ผู้ชายก็มีปัญหานี้เช่นกัน จะด้วยเพราะเป็นคนชอบเก็บตัว หรือไม่ชอบอยู่ในกลุ่มคนมากๆก็ตามแต่ เราควรจะคิดว่าการปิดตัวเองอยู่ในกะลาแคบๆนั้น เป็นผลเสียซะยิ่งกว่า ฉะนั้นควรเริ่มต้นด้วยการทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เพียงแต่ครั้งนี้เราลองหาคนรอบข้างมาช่วยทำด้วย เช่น ทำอาหารหรือทำขนม
5. เพราะคุณชอบควบคุมทุกอย่าง
สำหรับจอมบงการที่ชอบบังคับให้ทุกคนทำตามเสมอ อันนี้ต้องเข้าใจว่า มนุษย์ทุกคนไม่มีใครชอบโดนสั่ง (มันไม่มีเลยจริงๆนะ) ทางแก้คือคุณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากขึ้น ลองเปลี่ยนจากการสั่งมาเป็นการขอร้อง หรือบอกกล่าวแบบอ้อมๆดูบ้าง อาจจะกลายเป็นควบคุมคนอื่นได้ดีขึ้นก็ได้
6. เพราะคุณคิดแต่เรื่องเงิน
ต้องเข้าใจก่อนเลยว่า ในสมัยนี้เรื่องเงินกับเรื่องความรักมันแทบจะเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะการควักกระเป๋าสตางค์แต่ละครั้งนั้น ไม่ใช่การแสดงถึงความรักหรือบ่งบอกว่าเขาเลี้ยงดูเราได้ แต่เป็นเรื่องของการแสดงน้ำใจ โดยการแสดงออกนี้เอง หากฝ่ายใดกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ก็อาจจะกลายเป็นการแสดงความรักข้างเดียวก็เป็นได้
7. เพราะคุณอ้วนเกินไป
คงเคยได้ยินว่า "ไม่มีใครชอบคนอ้วนหรอก" ขนาดโฆษณาเอายังจุดนี้มาใช้เลย แต่จริงแล้วมันเป็นการเข้าใจผิด เพราะเหตุผลที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เรื่องความหล่อหรือความสวยงาม แต่อยู่ที่การบ่งบองถึงการไม่ใส่ใจตัวเอง เช่นเดียวกับคนที่สกปรกเกินไป เขาไม่ได้รังเกียจที่คุณตัวมอมแมม แต่รับไม่ได้ที่คุณไม่ทำความสะอาดตัวเองมากกว่า
8. เพราะคุณแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง
เคยได้ยินคำนี้ไหม "จีบแหลก" เป็นอะไรที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ในแง่ลบมากๆ ทุกคนจะปิดกั้นตัวเองจากคุณทันที เพราะทุกคนต้องการที่จะได้รับความรัก จากคนที่เห็นตนเองแตกต่างจากคนอื่น ไม่ใช่ความรักที่เห็นเราเป็นใครก็ได้ไป วิธีที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยนี้ก็แสนง่าย คือการวางตัวตามปกติของตัวเอง แล้วค่อยๆเรียนรู้นิสัยกันไป จะทำให้ได้ความรักที่จริงจังมากกว่า
9. เพราะคุณรักแต่ตัวเอง
คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่เหมาะ ไม่มีใครเลยที่ดีพอ การที่ยึดถือว่าตนเองนั้นต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดนั้น มีแต่จะบั่นทอนให้ดูแย่ลงในสายตาคนรอบข้าง ควรคิดเสียใหม่ว่าความรักไม่ใช่แค่การติติง หรือตามหาสิ่งที่ดีที่สุด แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า "เพราะคุณรักเขา เขาจึงดีที่สุดสำหรับคุณ" ต่างหาก
10. เพราะคุณทำงานหนักเหลือเกิน
การทำงานที่หนักเกินไป จะด้วยจำนวนงานที่มากมายเต็มไปหมด หรือความรับผิดชอบที่สูงส่งก็ตาม แต่คุณควรรู้ว่างานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต การแบ่งเวลาไปใช้ชีวิตกับผู้อื่นก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการสังสรรคกับผู้อื่นก็สามารถทำให้เราได้รับความไว้วางใจด้วยเช่นกัน
11. เพราะคุณดีเกินไป
"ดีเกินไป" ไม่ใช่ความผิด แต่มัน "อึดอัด" และอดไม่ได้ที่จะทำให้ผู้อื่นคิดว่า "ดีไม่พอสำหรับคุณ" เราควรแสดงความเป็นตัวของตัวเองให้มากขึ้น ดีกว่าจะเสแสร้งเป็นคนดีอยู่โดยไม่รู้ว่า ความดีกับความรักนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย
12. เพราะคุณชอบปาร์ตี้
การชอบงานสังสรรคมากเกินไป ย่อมทำให้ผู้คนที่เข้ามานั้นมองว่าคุณเป็นคนที่ไม่สามารถคบหาเป็นระยะเวลานานๆได้ ดังนั้นผู้ที่เข้ามาย่อมมีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่เสมอ และจะยิ่งเพิ่มความอันตรายหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนตนเองนั้นขาดสติ (เมา) ทำให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นได้ง่าย
13. เพราะคุณไม่สวยไม่หล่อ
จริงอยู่ว่า "ความสวยความหล่อ" จะช่วยในการ "เปิดโอกาส" แต่โอกาสก็ไม่จำเป็นต้องมาจากความสวยความหล่อเสมอไป เพียงแค่ดูแลตัวเองให้ดูดีก็เพียงพอแล้ว รู้จักแต่งหน้า ทำผม ทำตัวเองให้สดชื่น แค่นั้นคนต่างๆก็จับตามองคุณแล้ว
14. เพราะคุณขี้โมโห
การควมคุมอารมณ์เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวคุณ ถึงแม้คุณจะชอบการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาก็ตาม แต่การแสดงออกโดยปราศจากการควบคุม มีแต่จะทำให้ผู้อื่นมองว่าคุณเป็น "เด็กที่ไม่รู้จักโต" ทำให้ผู้อื่นไม่อยากมอบความรักระยะยาวให้คุณเพราะ คนเราไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นเด็กได้ตลอดไป
15. เพราะคุณเคยถูกทิ้งมา (และยังไม่พร้อมที่จะมีรักอีกครั้ง)
ทุกคนทราบดีกว่าการจมปลักกับเรื่องเก่าๆนั้นไม่มีประโยชน์อะไร แต่การไม่เปิดใจรับรักครั้งใหม่ ส่วนใหญ่เกิดจากความเศร้าและหดหู่เพียงเพื่อต้องการแสดงออกถึงความรักที่เพิ่งผ่านพ้นไปเท่านั้น โดยที่คุณลืมคิดไปว่าทุกคนในโลกนี้ล้วนเคยพบเจอปัญหาแบบคุณมาแล้วทั้งนั้น แต่เขาเหล่านั้นรู้จักหักห้ามใจ และเดินหน้าต่อไปโดยนำเรื่องนี้เป็นประสบการ์ณของเขาเท่านั้นเอง
16. เพราะคุณไปชอบคนที่เขาไม่ชอบคุณ
แน่นอนว่าการตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง แต่หากเรายื้อที่จะตบมันต่อไป ก็มีแต่จะตบลงที่ตัวเองให้เจ็บช้ำเท่านั้น ดังนั้นการยอมแพ้จึงไม่ใช่เรื่องหนีปัญหาแต่อย่างใด แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ครบวงจรที่สุดต่างหาก