เจาะหลังบ้านเจ้าพ่อพนัน เปิดศึกชิงมรดกพันล้าน

เจาะหลังบ้านเจ้าพ่อพนัน เปิดศึกชิงมรดกพันล้าน
30 มกราคม 2554 เวลา 12:40 น. |
เปิดอ่าน 1,804 |
ความคิดเห็น 4




กลายเป็น “ดรามา” ที่หักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า และดุเดือดยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่วนเวียนกับพล็อตชิงดีชิงเด่นกันระหว่าง “เมียสาว และลูกสาว” ในครอบครัวมหาเศรษฐีกาสิโน สแตนลีย์ โฮ...

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

สแตนลีย์ โฮ เจ้าพ่อแห่งวงการกาสิโนแห่งมาเก๊า เจ้าของเครือข่ายบริษัท SJM อันมหึมา ไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องการพลิกโฉมโลกแห่งการพนัน และนักลงทุนมือทองระดับพันล้าน (เหรียญสหรัฐ) เท่านั้น แต่ยังมีชื่อในเรื่องความเจ้าชู้ และเป็นที่ทราบกันดีว่า โฮ มีภรรยาอย่างน้อย 4 คน “อย่างเป็นทางการ” ทั้งนี้ยังไม่นับบ้านเล็กๆ ตามรายทางอย่างไม่เป็นทางการอีกนับไม่ถ้วน


โฮ กับ อินา เฉิน ภรรยาคนที่3 และลูกสาว

แต่ในวันที่ โฮ วัย 89 ปี เริ่มกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งเข้าทุกที บรรดาบ้านใหญ่ บ้านเล็กบ้านน้อย และลูกหลานนับไม่ถ้วน เริ่มก่อปัญหาหนักอกไทคูนผู้เฒ่ารายนี้ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาอะไรอื่น นอกเสียจากลูกทั้ง 17 คน และเมียรักเริ่มชิงสมบัติพันล้าน ทั้งๆ ที่เจ้าของตัวจริงยังไม่ลาโลกไปไหน

กลายเป็น “ดรามา” ที่หักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า และดุเดือดยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่วนเวียนกับพล็อตชิงดีชิงเด่นกันระหว่าง “เมียสาว และลูกสาว” ในครอบครัวมหาเศรษฐี

แต่นี่คือเรื่องจริง และเข้มข้นกว่านิยาย!

เรื่องเกิดขึ้นนับตั้งแต่ สแตนลีย์ โฮ ต้องเข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับสมองเมื่อปี 2009 ซึ่งยังผลให้ต้องรับการรักษานานข้ามปี และจนถึงบัดนี้แม้จะหายเกือบเป็นปกติ สภาพร่างกายของโฮก็ร่วงโรยเข้าไปทุกที ยังผลให้บรรดาวงศาคณาญาติจึงคิดชิงส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งที่โฮสั่งสมมานานกว่า 4 ทศวรรษของการผูกขาด

อุตสาหกรรมการพนันในมาเก๊า ที่อาจนับเป็นสวรรค์ของนักพนันที่คึกคักไม่แพ้ลาสเวกัส

ความมั่งคั่งของโฮ ประเมินไว้ว่าอยู่ที่ราว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไม่นับทรัพย์สินที่เป็นหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่เปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจลับกับกลุ่มผิดกฎหมาย ซึ่ง โฮเข้าไปพัวพันด้วย จนยังผลให้ถูกรัฐบาลสหรัฐและแคนาดาจับตาเป็นพิเศษ

แค่มูลค่าของ SJM ทั้งบริษัทก็ปาเข้าไปถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว

วิกฤตการชิงสมบัติ SJM เริ่มดุเดือดขึ้น เมื่อเดือนที่แล้ว แองเจลา เหลียง ภรรยาคนที่ 4 อดีตครูสอนเต้นรำ และมีลูกกับโฮด้วยกัน 5 คน ซึ่งบัดนี้มีอิทธิพลอย่างล้นเหลือ เพราะได้รับส่วนแบ่ง “จากมือของโฮ” เป็นหุ้นของ SJM ถึง 7.03% เมื่อรวมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.63% ยังผลให้ภรรยาคนที่ 4 กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2

จึงไม่น่าแปลกใจที่ในเดือนถัดมามีข่าวการกระจายหุ้นของโฮ โดยฝีมือของลูกเมียรายอื่นๆ โดยที่ไม่ปรากฏชื่อของ แองเจลา เหลียง ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงกรรมการผู้จัดการของ SJM และรับหน้าที่บริหารงานแบบรายวันในเครือข่ายธุรกิจของโฮ จนได้รับฉายา “กวนอิมพันมือ”

การที่โฮมีจิตพิศวาสถึงขั้นยกหุ้นก้อนโตให้ อีกทั้งยังจัดแจงให้แองเจลามีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท จึงยังผลให้เกิดอาการอิจฉาตาร้อนอย่างรุนแรงในหมู่เมียและลูกๆ ซึ่งเข้ากันไม่ได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ตัวการสำคัญของความขัดแย้งปะทุขึ้นจากกลุ่มของ ลูซินา หลัม ภรรยาคนที่ 2 และ อินา เฉินอุนเฉิน ภรรยาคนที่ 3 ยังผลให้เมียทั้งสองรวมหัวกันแบ่งสมบัติของโฮโดยพลการ

ลูซินา ขณะนี้อยู่ในวัย 77 ปี เคยมีสัมพันธ์หวานชื่นกับโฮ เพราะมีรสนิยมชอบเต้นบอลรูมเหมือนกัน จนครั้งหนึ่งทั้งคู่ได้รับฉายาว่า “ราชาและราชินีเท้าไฟ” แต่บัดนี้ ลูซินา อพยพไปอยู่ที่แคนาดา หลังจากที่โฮทุ่มลงทุนที่นั่นเมื่อทศวรรษที่ 80

ฝ่าย อินา เฉิน ภรรยาคนที่ 3 ไม่มี “บารมี” มากนัก เธอคนนี้เคยเป็นพยาบาลให้กับภรรยาคนแรกของโฮ และมีลูกด้วยกัน 3 คน

มันสมองที่แท้จริงจึงน่าจะอยู่ที่เมียคนที่ 2 และแพนซี โฮ ลูกสาวคนแรกของเมียคนที่ 2 ซึ่งมีตำแหน่งบริหารในเครือเป็นถึงกรรมการผู้จัดการในเครือบริษัท ชุนตั๊ก โฮลดิง และเป็นที่ทราบกันดีว่า แพนซี ไม่กินเส้นกับเมียคนที่ 4 ของพ่อมาแต่ไหนแต่ไร

ผลของการแบ่งสมบัติกันเองก็คือ เมียคนที่ 3 ได้หุ้นของ SJM ไปครองถึง 8.9% แต่เมียคนที่ 2 รับไปถึง 15% อีกทั้งลูกๆ ทั้ง 5 คน ยังได้ยึดครอง ชุนตั๊ก โฮลดิง ไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

แต่ดรามาเรื่องนี้คงยังไม่เข้มข้นพอ เพราะยังขาดภรรยาคนแรก ลูกครึ่งโปรตุเกสที่สวยหยาดเยิ้มจนเคยได้รับสมญาว่าเป็น “พริตตี วูแมน คนแรกของมาเก๊า”


โฮ กับ แพนซี

แม้ว่า คลีเมนไทน์ เลเตา ภรรยาคนแรกของโฮจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกๆ ไม่ยอมอยู่เฉย ปรากฏว่า ล่าสุด แองเจลา โฮ ลูกสาวของ คลีเมนไทน์ ออกมาโวยว่า ไม่เชื่อว่าพ่อจะไม่เจียดทรัพย์มาให้ลูกๆ ของเมียคนแรกสักสตางค์เดียว

ไม่เท่านั้น แองเจลา ยังลำเลิกบุญคุณแทนแม่ด้วยว่า หากไม่ได้ครอบครัวฝ่ายแม่ที่แสนจะมั่งคั่ง และมีเส้นสายแนบแน่นกับรัฐบาลโปรตุเกส ซึ่งขณะนั้นยึดครองมาเก๊าแล้วพ่อก็ไม่มีวันสร้างเนื้อสร้างตัวจากการได้รับสัมปทานผูกขาดธุรกิจการพนันได้
ความวุ่นวายนี้เริ่มเป็นที่ฉงนและสนใจของชาวโลก เมื่อ สแตนลีย์ โฮ กลับคำพูดตัวเองถึง 4 ครั้ง 4 ครา โดยครั้งแรกมีรายงานข่าวค่อนข้างจะเป็นทางการว่า มีการขายหุ้นของบริษัท SJM ต่อมาเจ้าตัวโอดครวญว่าถูกคนในครอบครัวแบ่งสันปันส่วนหุ้นไปโดยไม่ได้รับความเห็นชอบ และต่อมา โฮ กลับเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในฮ่องกงว่า ไม่มีปัญหาแย่งชิงสมบัติอย่างแน่นอน

แต่แล้วคล้อยหลังเพียงวันเดียว ทนายความของโฮ กลับเปิดเผยคำฟ้องร้องต่อศาล โดยมีจำเลยคือเมียคนที่ 3 และลูกของเมียคนที่ 2 อีก 5 คน ในฐานะแบ่งสมบัติอันเป็นหุ้นของบริษัทในเครือกันตามใจชอบ หากสรุปจากข่าวล่าสุดก็คือ ลูกสาวและเมียรักจะต้องถูกสามีฟ้องร้องเรียกสมบัติคืน

แต่ดูเหมือน “ดรามา” ระดับพันล้านเรื่องนี้จะไม่ยอมจบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน

ดีไม่ดี ศึกชิงสมบัติอาจทวีความดุเดือดยิ่งกว่านี้ ในวันที่ไม่มี สแตนลีย์ โฮ อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

คัดลอก URL นี้เเบบย่อ



 

Credit: โพลต์ทูเดย์ดอดคอม
#มรดก #แย่งชิง
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
31 ม.ค. 54 เวลา 05:42 11,898 9 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...