1. บางทีเราก็ไม่ได้เลิฟเขาจริงๆ จังๆ สักหน่อย
ก็ เพียงแต่ว่าตอนที่เขาเข้ามาเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะที่เรายังไม่มีใครจริงๆ เราจึงยอมรับเขาเข้ามาเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ความรัก แทนที่ของเก่าอันชำรุดและใช้การไม่ได้ก็เท่านั้น
2. กว่าร้อยละ 70 ของผู้หญิงเรายอมรับว่ารูปโฉมของชายมีส่วนผลักดันในการตัดสินใจเรื่องความรัก
ใครๆ ก็อยากมีแฟนเป็นคนรูปหล่อเหน้าตาดีกันทั้งนั้น เพราะลุคส์ของเขาจะตรึงตาประทับจิตของเราจนสายตาและใจไม่รู้สึกเบื่อที่จะ ชื่นชมเขา และปิดใจรับการเข้ามาของผู้ชายคนอื่น
3. การศึกษานิสัยใจคอเป็นเรื่องที่ตามมาทีหลัง
เวลา ที่ชายเข้ามาขอความรัก ผู้หญิงเรามักจะโดนคารมและอารมณ์ของชายบดบัง จนเราเพลิดเพลินและลืมคิดถึงความเป็นไปได้และความเข้ากันได้ และยกยอดให้กระบวนการกรองนิสัยและการพิจารณาความเข้ากันได้นี้เป็นเรื่องที่ เอาไปค้นพบกันเองตอนหลังจากที่ตอบตกลงคบเป็นแฟนกันแล้ว
4. ความจริงจังในความรักของผู้หญิงเข้มข้นกว่าผู้ชาย
บ่อย ครั้งที่เราจะได้ยินผู้หญิงเราบอกกับคนอื่นว่ารักเล่นๆ หรือคบกันไปอย่างนั้นๆ แหละ ยังไม่คิดจริงจัง แต่สิ่งที่ผู้ชายมักพูดกันเองบ่อยๆ ก็คือ "จีบเล่นๆ เบื่อก็เลิก" ซึ่งเป็นความจริงที่สร้างความปวดใจให้กับผู้หญิงเรายิ่งนัก
5. การเข้ามาของเขาจะปั่นป่วนวิถีชีวิตอันปกติของเรายิ่งนัก
จาก เดิมที่เคยคิดเคยทำเพื่อตัวเองและทำอะไรได้อิสระตามใจตัวเอง ถึงตอนนี้ชีวิตและจิตใจของเราจะถูกพันธนาการด้วยความรู้สึกที่เรามีต่อเขา เขาจะเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางอารมณ์ความรู้สึกต่อเรามากกว่าบุคคลรอบกายคน อื่นๆ ของเรา หากทุกวันเขาโทร.มาหาแต่วันนี้เขาไม่โทร.มา แค่นี้เราก็กระวนกระวายแล้ว
6. ความหึงหวงมีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์
ขึ้น ชื่อว่าความหึงหวงแล้ว หลายคนก็ตั้งท่าว่าเป็นสิ่งอัปมงคลสำหรับชีวิตคู่เสียแล้ว แต่ถ้าสังเกตความรู้สึกตอนที่เราถูกเขาตามหึงหวงแล้ว นอกจากความรำคาญว่าอธิบายแล้วว่าไม่มีอะไรก็ยังว่ามีอะไรอยู่ มันก็จะมีความรู้สึกแอบดีใจเล็กๆ ซ่อนในความรู้สึกรำคาญนั้นอยู่ว่าเขาก็ยังรักก็ยังหวงเราอยู่
7. คำมั่นสัญญาในความรักบางครั้งก็เชื่อไม่ได้
ทุกอย่าง จะเป็นโมฆะทันทีที่ความสัมพันธ์ฉันแฟนยุติลง ที่เคยสัญญาว่าจะให้ก็จะไม่ให้ ที่เคยสัญญาว่าจะไม่ทำก็จะทำ ที่เคยสัญญาว่าจะไม่บอกใครก็จะบอก เหตุเพราะเงื่อนไขในคำสัญญาว่าจะรักกันมันจบลงแล้ว