หนุ่ม ฉุนโดนถอดชื่อจ่อฟ้อง ไอซ์มอนสเตอร์

    หนุ่ม กรรชัย ฉุน! ถูกถอดชื่อจากหุ้นส่วนร้าน ICE MONSTER โดยที่ยังไม่รู้ตัว ยันตนทำมา 4 ปีลงทั้งเงินและแรงเต็มที่แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนสักบาทเดียว เผยเตรียมฟ้องร้องแน่นอนหากยังเคลียร์ไม่ลงตัว ด้านผู้บริหารร้านน้ำแข็งใสชื่อดังแจงย้ายชื่อดาราหนุ่มไปอยู่อีกบริษัท หนึ่งจริง แต่เจ้าตัวรับทราบแล้ว รับเสียความรู้สึกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ยันบริษัทตนเองไม่ได้โกงใคร หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นก็มีพยานและหลักฐานเช่นกัน

    ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสามารถอย่างมากเลย ก็ว่าได้ สำหรับดาราหนุ่มอารมณ์ดี ''หนุ่ม'' กรรชัย กำเนิดพลอย ที่หากใครพูดถึงร้านน้ำแข็งใส ''ICE MONSTER'' เชื่อเลยว่าจะต้องมีโลโก้หน้าของ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ติดอยู่ด้วยตลอดอีกด้วย

     ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ม.ค. 54 ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ไปร่วมงานฉลอง 20 ปีกับพฤกษาคลินิก ภายใต้ชื่อว่า ''ก้าวที่ 20 กับพฤกษา'' ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน จึงได้สอบถามถึงเรื่องงานของร้าน ICE MONSTER ที่จะมีขึ้นในช่วงบายวันเดียวกัน ว่าทำไมถึงไม่มีชื่อของ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ไปร่วมงานดังกล่าวนั้น ดาราหนุ่มอารมณ์ดีก็ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าตอนนี้กำลังมีปัญหากันอยู่ เนื่องจากตนเองทำ ICE MONSTER มา 4 ปีแต่ไม่เคยได้รับเงินปันผลสักบาทเดียว

     ''มีปัญหาอยู่ครับ ตัวผมเองออกมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะว่าทำไอซ์มอนสเตอร์มา 4 ปี ลงทั้งเงินทั้งแรง แต่ยังไม่เคยได้รับเงินปันผลสักบาทเลย พอถามไปก็ได้รับคำตอบแปลกๆ ก็เลยรู้สึกว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ คงต้องขึ้นศาลแล้ว''

     ต่อข้อซักถามว่าปัญหาเกิดจากอะไรกันแน่นั้น ''หนุ่ม-กรรชัย'' ก็ได้กล่าวว่าเดี๋ยวรออาทิตย์หน้าให้ถึงเวลาแล้วตนเองจะพูดทีเดียว แต่ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก พร้อมยืนยันว่าตนเองมีชื่อเป็นหุ้นส่วนอยู่แต่ถูกถอดชื่อออกโดยไม่รู้ตัว

     ''มันเยอะมาก เอาไว้รออาทิตย์หน้าดีกว่า ไม่ใช่ไม่บอกนะแต่อยากให้ถึงเวลาก่อนแล้วจะพูด 4 เดือนที่ผ่านมาผมไม่ได้ยุ่งเลยครับ แต่เค้าก็ยังใช้ชื่อผมอยู่นะ ผมยอมรับว่าเสียความรู้สึกมากๆ เพราะผมยืนยันว่าผมเป็นหุ้นส่วนคนนึงของไอซ์มอนสเตอร์ แต่ผมถูกถอดชื่อออกโดยที่เราไม่รู้ตัว''

     จากนั้น ''กรรชัย'' ก็ได้กล่าวต่อไปว่าได้มีโอกาสคุยกันบ้างแล้วแต่ผลตอบรับยังไม่ลงตัวสัก เท่าไร เนื่องจากตนเองก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเองเช่นเดียวกัน

     ''ก็คุยกันนะ แต่ยังไม่ได้รับผลตอบกลับมาสักเท่าไร ถ้าเค้ามีความตั้งใจที่ไกล่เกลี่ยผมก็ยินดีนะ เพราอยากให้ชัดเจน ผมเองก็ต้องรักษาผลประโยชน์เหมือนกัน เพราะเค้ายังรักษาผลประโยชน์ของเค้าเลย แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องให้ศาลตัดสินแล้วกันครับ''

     นอกจากนี้ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ยังได้ฝากบอกลูกค้าเฟรนไชน์ของ ''ICE MONSTER'' ว่าหากเกิดอะไรขึ้นตนเองไม่รับผิดชอบ เพราะตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนเรื่องฟ้องหรือไม่นั้นขอสรุปเรื่องราวให้แน่ชัดก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ อีกที

     ''ณ วันนี้ผมไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว หากมีอะไรพาดพิงถึงตัวผม ผมยืนยันว่าผมไม่รับผิดชอบ ส่วนเรื่องฟ้องร้องผมบอกเลยว่าตอนนี้ไม่ฟ้องครับ แต่บอกแล้วว่าต้องรอดูกันไปก่อนว่ามันจะมีเหตุการณ์หรืออะไรที่ดีขึ้นไหม แล้วถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน'' หนุ่มกล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกด้วยว่าในช่วงบ่ายของวันเดียวกันได้มีงาน แถลงข่าว ''ICE MONSTER Brand Ambassador Show Up'' ณ ร้าน ICE MONSTER สยามสแควร์ ซ. 11 แต่ไร้เงาของ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ไปร่วมงานทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวปัญหาดังกล่าวจากทาง ''ฝ้าย'' ชัญญา โชติญาณวงษ์ ผู้บริหารใหญ่ของ ICE MONSTER ก็ได้กล่าวว่า

     ''มันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเรื่องของเงินปันผลเป็นนโยบายของบริษัทที่มีอยู่แล้วว่าถ้าทางร้าน เรามีหนี้เราจะต้องเอาเงินมาจ่ายหนี้ให้กับทางร้านก่อน ตอนนี้ไม่มีชื่อพี่หนุ่ม แต่ด้วยความที่เป็นพี่น้องกันทางเราก็จะยังให้ทุกอย่างกับพี่หนุ่มเหมือน เดิม ถ้าถามว่าต้นเหตุเกิดจากอะไรคือจริงๆ มันมีเรื่องราวค่ะ คือทางพี่หนุ่มเค้าออกมาพูดกับสื่อแบบนั้นฝ้ายว่าก็ให้พี่เค้าออกมาพูดก่อน เลยดีกว่าเพราะว่าฝ้ายเองทำอะไรทุกอย่างมันมีหลักฐาน (ได้คุยกันก่อนไหม?) คือสำหรับฝ้าย ฝ้ายคุยได้แต่ทางพี่หนุ่มเค้าทางฝ้ายไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้คือพูดจริงๆ เลยคือฝ้ายไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คืออยู่ดีๆ วันนึงก็กลายเป็นแบบนี้ซึ่งพี่เค้ามาคิดแบบนี้กับเรา ตัวเราเองเหมือนเป็นหลังบ้าน คอยแบกรับเรื่องทุกอย่างไม่ใช่ว่าไม่เหนื่อย พอได้ยินพี่หนุ่มพูดแบบนี้กับคนอื่นเราก็ช็อกเหมือนกัน''

     ต่อข้อซักถามว่า ''หนุ่มกรรชัย'' ออกจากบริษัทไปนานหรือยัง? ผู้บริหาร ''ฝ้าย-ชัญญา'' ก็ได้กล่าวว่าไม่เชิงออก แต่ดาราหนุ่มเป็นคนพูดเองว่าขอคิดดูก่อนว่าจะทำต่อหรือเปล่า พร้อมยืนยันว่าตอนที่ย้ายชื่อ ''หนุ่ม-กรรชัย'' ออกไปอยู่อีกบริษัทหนึ่งนั้นมีทนายและพยานรับรู้ตลอด ซึ่งเจ้าตัวเองก็รับทราบมาตลอดเช่นกัน

     ''คือมันไม่เชิงว่าเค้าออกไปนะ แต่เค้าเป็นคนบอกเองว่าขอคิดดูก่อนว่าจะทำต่อหรือเปล่า คือเราเคยคุยกันแล้วนะครั้งนึงตอนเดือนพ.ย. แกก็ไม่ได้บอกว่าแกเป็นอะไร แต่แค่บอกว่าเดี๋ยวจะให้คำตอบว่าจะทำต่อหรือไม่ทำแล้วพี่หนุ่มก็หายไปเลย หายไปก็ประมาณ 2 เดือนค่ะ ซึ่งระหว่างที่เค้าเริ่มมีปัญหาจากที่มากับทางความคิดของเค้าเอง แล้วเค้าไปบอกกับคนอื่นๆ เนี่ย ทางตัวฝ้ายเองก็ยังเจอเค้า เค้าก็ยังดีกับฝ้ายปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ (พอจะบอกได้ไหมว่าปัญหาเกิดจากอะไร?) ที่หนูฟังๆ ดู มันมาจากที่พี่หนุ่มถามว่าทำไมชื่อพี่หนุ่มถึงถูกย้ายไปอยู่อีกบริษัทนึง ซึ่งฝ้ายก็ตอบไปว่าพี่หนุ่มจำไม่ได้หรอว่าเราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วเกี่ยว กับเรื่องการย้ายชื่อพี่หนุ่ม ซึ่งตอนที่เราคุยกันเราก็มีทนายของทางบริษัทและพยานคนอื่นๆ อยู่ด้วย แต่พี่หนุ่มบอกว่าพี่หนุ่มจำไม่ได้ คือทุกอย่างมันมีมูลมีเหตุแล้วก็มีพยานค่ะ''

     ส่วนประเด็นที่ ''หนุ่ม-กรรชัย'' บอกว่าอาจจะมีการฟ้องร้องนั้น ผู้บริหารสาวก็ได้กล่าวว่าหากมีการฟ้องร้องทางฝั่งตนเองก็มีพยานและหลักฐาน ทุกอย่างเช่นกัน

     ''ถ้าฟ้องเราเราก็มีพยานทุกอย่างค่ะ ว่าสาเหตุที่ชื่อพี่หนุ่มถูกย้ายออกไปอยู่อีกบริษัทหนึ่งเพราะอะไร ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงค่ะ เราเองก็ยืนยันว่าไม่ได้ไปเบียดเบียนหรือโกงใครแน่นอน คือตอนแรกที่เราย้ายชื่อเนี่ยเพราะต้องทำกิจกรรมของทางร้านเราเนี่ยแหละ เราเองก็ปรึกษากับทนายแล้วก็ได้คำแนะนำมาว่าต้องย้ายชื่อพี่หนุ่มออกไป แต่อยู่ดีๆ พี่เค้าก็มาเป็นแบบนี้เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน คือฝ้ายว่ามีอะไรก็น่าจะคุยกันตรงๆ ได้''

     อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีปัญหาและผลกระทบเกิดขึ้น อะไรบ้างนั้น ทางด้าน ''ฝ้าย'' ก็ได้ยอมรับว่าผลกระทบทางจิตใจมากกว่าพร้อมยืนยันว่าตนเองทำทุกอย่างตามหลัก ความถูกต้องและไม่ได้โกงใครอย่างแน่นอน

     ''มันเป็นผลกระทบต่อจิตใจมากกว่าค่ะ กับตัวขององค์กรของเราเอง เราก็ต้องพยายามประคับประคองกันต่อไป (ปัญหาระหว่างร้านกับ ''หนุ่ม'' ล่ะ?) อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราก็ต้องยึดในฐานของความถูกต้องเพราะเราก็มั่นใจว่าเราทำถูก เราไม่ได้ไปโกงใคร เราทำทุกอย่างเต็มที่เพื่อให้ร้านมันดีขึ้นและเติบโตขึ้น เรื่องเงื่อนไขคือเราก็ถามเค้าตรงๆ แล้วนะว่าพี่อยากได้อะไรพี่เค้าก็ไม่ตอบ ฝ้ายว่ามันมีอะไรก็คุยกันได้ เราควรจะคุยกันตรงๆ (โอกาสที่ชื่อ ''หนุ่ม-กรรชัย'' จะกลับมาล่ะ?) คือทางเรายินดีตลอดที่จะให้พี่หนุ่มกลับเข้ามา แต่ทางด้านของพี่หนุ่มเองเราก็ไม่รู้ว่าพี่เค้าคิดยังไง'' ฝ้ายกล่าวในที่สุด