"โอเมก้า3" มีถมเถไป
"เกิดในผู้ใหญ่อ้วน หรือคนอ้วนลงพุง ที่มักออกแรงหรือออกกำลังน้อยเกินไป ปัจจุบันพบว่าเกิดในเด็กด้วย ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดตสูง ตลอดจนการไม่ออกกำลังกาย ต่างก็เป็นปัจจัยสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น" เป็นการระบุโดย ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา คณะกรรมการกองทุน สสส. กับภัย "โรคเบาหวาน" ที่นับวันยิ่งป่วยกันมากขึ้น และปัจจัยหรือที่สำคัญก็คือ "ความอ้วน"
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ "โรคเบาหวาน" ที่คุกคามผู้คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีส่วนสัมพันธ์กับ "ความอ้วน" และเนื่องในวันเบาหวานโลก 14 พ.ย. ที่กำลังจะมาถึง ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กรมประมง สสส.-สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กระทรวงพาณิชย์ เครือข่ายคนไทยไร้พุง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ "กินปลาไร้พุง ต้านโรคเบาหวาน" ซึ่งก็น่าสนใจ
วิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาโรคอ้วน ซึ่งหมายถึงต้านโรคเบาหวานได้ด้วย คือการบริโภคปลามากขึ้น เพราะปลาเป็นแหล่ง โปรตีน คุณภาพดี-ราคาถูก ซึ่งมีหลายงานวิจัยที่สนับสนุนว่าการบริโภคปลาหรืออาหารที่มี "โอเมก้า3" สูงสามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และสำหรับโปรตีนการปลานั้น ก็ใช่ว่าจำเพาะเจาะจงอยู่ที่ปลาทะเลเท่านั้น "ปลาน้ำจืดของไทย" เราก็มีเพียบ-มีถมเถไป
ปลาสวาย ที่เมืองไทยเรามีมาก มีโอเมก้า3 ถึง 2,570 มิลลิกรัม ต่อเนี้อปลา 100 กรัม ขณะที่เนื้อปลาแซลมอน 100 กรัม มีโอเมก้า3 เพียง 1,000-1,700 มิลลิกรัมเท่าน้น
นพ.ฆนัท ครุฑกูล บอกด้วยว่า จากที่มีการพบข้อมูลบ่งชี้ว่าการบริโภคอาหารเกินความจำเป็นต่อร่างกายไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ อ้วนลงพุง เป็นโรคอ้วน แต่ว่าการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปรตีนน้อยเกินไป ไม่ได้สัดส่วนก็ทำให้อ้วน ได้ ฉะนั้น การบริโภคปลาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
การบริโภคปลาช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วน มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ รวมถึงช่วยในการพัฒนาและเสริมสร้างเซลล์สมองด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่างแนะนำ "ปลาน้ำจืด" ไทยๆ เราก็ได้...ไม่จำเป็นต้องปลาแพงๆ กินเยอะๆ ต้านโรคภัย แถมไร้พุง หุ่นดีด้วย