มิติพิศวง ผีเฝ้าทุ่ง

มิติพิศวง ผีเฝ้าทุ่ง Share 

หลังจากมุดเข้ามุ้งได้ไม่นาน หลวงพี่ป่องก็หยุดการจงกรม และ ความเงียบสงบก็มาเยือนอีกครั้งเมื่อ หลวงพี่ป่องดึงชายกลดลง

ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก และพยายามข่มเปลือกตาเพราะเหน็ด เหนื่อยกับการเดินทางมากกว่าครึ่งค่อนวัน แต่สมองกลับครุ่นคิดไปต่าง ๆ นานา จนจับต้นชนปลายไม่ถูก มันเหมือนกับว่า อยู่ในห้วงความฝันทั้งที่ยังไม่หลับ

ในความเงียบสงบนั้นแม้แต่ใบไม้ หล่นลงพื้นก็ยังดังเข้าหู และรู้สึกสะดุ้ง ทุกครั้งพร้อม กับหวั่นวิตกหวาดผวาจนกระวน กระวายไปหมด

สายลมที่เพลมพัดมาบ้างช่วย ให้สบายเนื้อสบายตัวขึ้นเยอะ และไม่ต้องคลี่ ผ้าห่มคลุมตัวเหมือนคืนก่อน ๆ แต่ผมก็เตรียม เอาไว้ข้างตัวเผื่อตกดึกอากาศหนาวเย็นขึ้นมา ก็จะไดคลี่ห่มได้ทันท่วงที

นานนับชั่วโมงที่ผมนอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้งอย่างผิดปกติเพราะหาก เหมือนกับหลายคืนที่ผ่าานมาป่านนี้ผมได้งีบ และหลับไปนานแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ

พอจะเคลิ้มทีไรก็เป็นอันสะดุ้ง ทุกครั้งกับเสียงใบไม้แห้งที่หลุดขั้วลงพื้น ดังกร๊อบแกร๊บ

แต่ที่เล่นเอาสะดุ้งโหยงหูตา สว่างตามมานี่สิที่ผมถึงกับผุดนั่งแล้วจ้องมอง ฝ่าแสงสลัวไปทางต้นเสียงซึ่งก็ยังมอง ไม่เห็นอะไร

เปรี้ยง...เปรี้ยงงงง...

ปัง...ปังงงง...

เสียงปืนดังกัมปนาทเหมือน ยิงตอบโต้กันเพราะดังจากคนละที่

“หยุดมอบตัวซะดี ๆ ไอ้โจรร้าย ไม่งั้น กูเป่าหัวขมองมึงแน่”

“หยุดให้บ้าเรอะ แน่จริงก็เอาสิ...”

ปัง...ปังงงง...

เปรี้ยง...เปรี้ยงงง...

เสียงปืนดังโต้ตอบกันอีกระลอก และเท่าที่ฟังเสียงแล้วไม่น่าจะอยู่ไกลเท่าไรนัก แต่ยังมองไม่เห็นทั้งที่แถวนั้นก็เป็นรทุ่งโล่ง

“ข้าบอกให้หยุดแล้วมอบตัวไง ไม่ได้ยินเรอะ”

“ไม่หยุด และไม่มอบตัวแล้วจะทำไม”

“มึงอยากตายเป็นผีเฝ้าทุ่ง ยังงั้นเรอะ”

“ถ้ามึงแน่จริงก็ยิงให้โดนกูสิ เอากูให้ตายไปเลย เรื่องจะให้กูมอบตัวนั้น อย่างหวัง”

ปัง...ปังงงง...

เปรี้ยง...เปรี้ยงงงง...

ผมพยายามสอดส่ายสาย ตมมองฝ่าแสงจันทร์ที่สลัวพลางหันไปทางกลด ของหลวงพี่ และคิดในใจว่าเขาไล่ล่ากันอย่างนี้ หลวงพี่จะรู้หรือเปล่าหนอ

แต่ผ้ากลดของหลวงพี่ก็ยังพริ้ว รับลมอยู่เหมือนเดิม ในขณะที่ผมเองก็กระวน กระวายกับการต่อสู้และโต้คารมที่ดังเข้าหู

“แชะ...แชะ ๆ...”

“แชะ...แชะ...”

“ฮ่ะ ๆ...กระสุนหมดแล้วสิท่า” อีกฝ่ายเย้ยหยัน

“มึงอย่าหวังว่ากูจะยอมให้จับเป็ฯ กระสุนของมึงก็หมดเหมือนกันหากมึงแน่จริง ก็เข้ามาสิวะ คนอย่างกูไม่กลัวมึงหรอก ฮ่า ๆ ๆ...”

“กระสุนกูยังมีอีกเป็นกะตั๊ก แต่กูไม่อยากฆ่ามึง”

“คิดจะจับเป็นงั้นเรอะ ฮ่า ๆ ๆ... อย่าหวัง มีเท่าไรก็ยิงมาได้เลย ชักช้าอยู่ทำไมล่ะ เอาซิวะ...”

สักพักเสียงปืนก็กัมปนาทขึ้นอีกชุด และครั้งนี้ไม่มีการโต้ตอบเพราะเป็นการยิง จากฝ่ายเดียว ซึ่งก็คือฝ่ายที่ตามล่านั่นเอง

อา...

เสียงปืนที่แผดสนั่นลั่นทุ่ง ทำให้นึกถึงชาวบ้านแถวนั้นว่าจะได้ยิน เข้าหูกันหรือไม่ น่าจะมีคนแห่ออกมาดูกันบ้าง แต่กลับไร้วี่แวว

ทันใดนั้นเอง ร่างตะคุ่มโผล่พรวด ออกมาแล้ววิ่งเข้าหาคนที่กำบังตัวพร้อม กับยิงปืนใส่เป็นชุดจนมองเห็นประกายไฟ จากปากกระบอกปืน

เปรี้ยง ๆ ๆ...

“โอ๊ยยยย...”

ผมเข้าใจว่าคนที่กำบังตัวโดนเ ข้าไปหลายนัดถึงกับร้องออกมา และก็เป็น อย่างนั้นเพราะคนที่ยิงยืนจังก้าขาข้างหนึ่ง ไม่ติดพื้นเหมือนเหยียบอะไรอยู่

“หึ ๆ ๆ...นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน ลูกเล่นมากนี่มึง” ร่างตะคุ่มที่เหยียบอะไร อยู่ว่าขึ้น

“โอยยยย...มึงยิงกู มึงเอากูให้ตาย ไปเลยสิ โอยยยย...”

“ฆ่าสมึงน่ะง่ายเหมือนปอกกล้วย เข้าปาก แต่กูไม่อยากฆ่าเดี๋ยวกลายเป็น ผีเฝ้าทุ่ง”

“ทำไม...นี่มันทุ่งของกู หรือมึง อยากจะมาเฝ้าทุ่งกับกู หือ...”

“ฮ่ะ ๆ ๆ...ปืนมึงไม่มีกระสุน แต่ของกูยังเหลืออีกหลายนัด ลุกขึ้นมาซะดี ๆ ไม่งั้น...มึงได้่เป็นผีเฝ้าทุ่งสมใจแน่”

“อูยยยย...”

ร่างตะคุ่มที่ยืนเหยียบยกเท้าออก แล้วยืนจังก้าคอยคุมเชิง

ผมเองก็คิดว่าคนที่ถูกยิง จนได้รับบาดเจ็บนั้นจะยอมจำนนแต่โดยดี แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด

“มึงรู้ได้อย่างไรว่ากระสุนกูหมด” คนที่นอนว่าขึ้น

“อย่าพูดมา ลุกขึ้น...” อีกคนร้อง บอกเสียงดังฟังชัด

ผมเองก็ไม่รู้ต้นเหตุที่แท้จริง แต่เท่าที่ได้ยินเสียงเจรจากันก็เข้าใจว่าคนหนึ่ง เป็นฝ่ายธรรมะ อีกคนก็เป็นฝ่ายอธรรมและ ตอนนั้นฝ่ายธรรมะดูเหมือนจะได้เปรียบ

แต่ฝ่ายอธรรมเหมือนจะไม่ยอม แพ้ง่าย ๆ

“หึ ๆ ๆ...เรื่องอะไรที่กูจะเป็น ผีเฝ้าทุ่งตามลำพัง กูตายมึงก็ตายด้วยจะได้ ไม่เหงา”

“โอ้เอ้เสียเวลาน่า ลุกขึ้นมาซะดี ๆ หรืออยากจะโดยกระทืบเสียก่อนถึงจะยอมลุก”

“กระทืบเหรอ เอาสิ...กระทืบแรง ๆ เลย” คนนอนท้า

คนที่ยืนจังก้าคุมเชิงยกเท้า ข้างหนึ่งลอยขึ้นจากพื้นตามคำท้า แต่ยังไม่ทัน จะย่ำลงมาก็มีเสียงดังขึ้นเสียก่อน

ปังงงง...

“โอ๊ยยยย...”

ร่างตะคุ่มที่ยืนจังก้าร้องโอ๊ย และผงะโงนเงนพร้อมกับเสียงปืนที่แผด ขึ้นมาอีกชุด

เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ...

ผมไม่รู้หรอกว่าชุดนี้จะระคายผิว คนที่นอนหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ คือร่าง โงนเงนนั้นได้หงายตึงแล้วไม่ได้ยินเสียง อะไรอีกเลย

ตอนแรกก็ว่าจะไปบอกหลวงพี่ อยู่เหมือนกัน แต่ผมใจร้อนไปหน่อยเลย เลิกชายมุ้งแล้วคลานออกก่อนจะค่อย ๆ ย่องไปตรงบริเวณนั้น

แสงสลัวในยามค่ำคืนมากพอที่จะ มองเห็นอะไรเป็นอะไร

แต่ให้ตาย...

บริเวณนั้นว่างเปล่ามองหาคนเจ็บ คนตายไม่เจอสักคน

พลันที่สายลมปะทะวูบต้องร่างกาย เล่นเอาผมถึงขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีทันใด และความคิดก็พุ่งขึ้นมาพร้อม ๆ กับ สะบัดร้อนสะบัดหนาวจนริมฝีปากเย็น ยะเยือกไปหมด

พอตั้งสติได้ผมรีบหันหลังกลับ แล้วสับเท้ากลับไปที่มุ้งก่อนจะทิ้งตัวลงนอน แล้วคลี่ผ้าห่มมาคลุมตัวนอนใจเต้นตึ่กตั่ก เกือบทั้งคืน

โพสต์เมื่อ : 2011-01-15 21:59:21 พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100   พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100   พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100   พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100   พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100   พื้นที่โฆษณา

ขนาด 150 x 150

ติดต่อ

088-623-9100  
Credit: นกรุ้ดอดคอม
#ผี #วิญญาณ
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
24 ม.ค. 54 เวลา 05:51 5,700 24 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...