ป็นที่รับรู้กันไม่ลงลึกนักว่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 หรือเมื่อกว่า 160 ปีที่ผ่านมา สยามประเทศ มีพระมหากษัตริย์ปกครองบ้านเมืองด้วยกันถึง 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นพระเจ้าแผ่นดินคู่พี่น้องสายเลือดเดียวกันที่ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะกิจการด้านการต่างประเทศ
เอกสุดา สิงห์ลำพอง อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่พบว่า พระปิ่นเกล้า ทรงชื่นชอบสนับสนุนชาติ "อเมริกา" มากถึงขั้นพระราชทานนามพระโอรสองค์โตของพระองค์ ในเจ้าจอมมารดาเอมว่า "ยอช วอชิงตัน" (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ) ตามชื่อประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องบรรณาการที่นายทาวน์เซนด์ ทูตของสหรัฐนำมาถวายพระจอมเกล้าฯ และพระปิ่นเกล้าฯ จึงมีภาพวาดเหมือนนายจอร์ช วอชิงตัน ขนาดเท่าตัวจริงเป็นหนึ่งในรายการที่นำมามอบให้ ซึ่งน่าจะถูกพระทัยพระองค์เป็นที่สุด
ด้าน นายไกรฤกษ์ นานา นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ และคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารศิลปวัฒนธรรม สำนักพิมพ์มติชน ได้โชว์หนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ที่เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นจดหมายที่ เซอร์ จอห์น บาวริ่ง ราชทูตอังกฤษสมัยนั้น เขียนชื่นชม The Second King ของไทย
ที่ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกลในด้านการทหาร การต่างประเทศ ทรงรอบรู้ข่าวสารต่างๆในการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับต่างชาติ ทั้งยังชื่นชมการพูด การเขียน การอ่านภาษาอังกฤษของพระองค์ที่มีความแตกฉานอย่างคล่องแคล่วและสละสลวย โดยเฉพาะลายพระหัตถ์ที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก
ปิดท้ายที่ รศ.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดคำถามขึ้นต้นว่า "ทำไมสยามต้องสนใจจะตะวันตก?" พร้อมอธิบายว่า ประเทศสยามเริ่มเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการต่างๆ โดยรับอิทธิพลจากชาติตะวันตกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ผู้นำสยามมีความสัมพันธ์อันดีกับชาติอเมริกัน ซึ่งมีผลลึกซึ้งเป็นอย่างมาก ผู้ที่นำเข้าวัฒนธรรมต่างๆ นั้นล้วนมาจากหมอสอนศาสนาหรือมิชชันนารี
ซึ่งจากการศึกษาแล้วมิชชันนารีเหล่านั้นแม้จะเป็นผู้ที่มีความเชื่อเรื่องศาสนามาก แต่ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเข้ามาเผยแผ่คริสตศาสนาในสยาม เพียงแต่แวะเข้ามายังดินแดนแหลมทองเพื่อรอเปลี่ยนผ่านไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบภูมิภาค แม้สุดท้ายมิชชันารีหลายคนก็ปักหลักสร้างครอบครัวในสยามไปเลย
หนังสือพิมพ์ต่างชาติ ที่ลงข่าวการชื่นชมพระปิ่นเกล้า ว่า ทรงมีความสามารถในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านภาษา
ภาพเหมือนจอร์ช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ที่ทูตอเมริกันนำมาถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่พระปิ่นเกล้า
ภาพการเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตกของรัชกาลที่4..
"การเรียนรู้วิวัฒนาการชาติตะวันตกของผู้นำสยาม โดยผ่านภาษาไทย เป็นปรีชาฌาณความสามารถที่ได้เปรียบของรัชกาลที่ 4 เพราะการถ่ายทอดวัฒนธรรมตะวันตกโดยสร้างผ่านภาษาไทยพร้อมกับมีการพิมพ์เป็นตัวอักษรในช่วงเปลี่ยนผ่ายสยามเป็นเรื่องที่ใหม่ในยุคสมัยนั้น กลายเป็นเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้สยามได้รับรู้โลกภายนอกได้มากขึ้น และเชื่อว่า การที่สยามรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นในการล่าอาณานิคมในยุคนั้นก็ด้วยเพราะ พระจอมเกล้าและพระปิ่นเกล้าทรงผ่อนปรนและเป็นมิตรกับชาติมหาอำนาจจนเราได้รับเอกราชถึงทุกวันนี้" รศ.ธเนศ กล่าว
พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ โรงละครแห่งชาติ
พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น เมื่อเสด็จบวรราชาภิเษกแล้ว (ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)