หนูแฮมสเตอร์

แฮมสเตอร์ หนูแฮมสเตอร์แคระที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบันมีหลายพันธุ์แต่ในที่นี้ บางหัวข้อจะขอกล่าวถึงหนูแฮมสเตอร์แคระ โดยรวม เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีวิธีเลี้ยงและดูแลคล้ายๆกัน อาจมีนิสัยต่างกันบ้างเล็กน้อย หนูแฮมสเตอร์มักถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"หนูถีบจักร" มีนิสัยที่อยู่ไม่สุข รักสันโดษแต่ชอบสอดรู้สอดเห็น จะมีชีวิตชีวาในเวลากลางคืนประมาณตีหนึ่งขึ้นไปมันจะชอบลุกขึ้นมาถีบจักรให้ดู ทำให้มัน เป็นสัตว์ที่น่าเอ็นดู ปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยงกันในเมืองไทย วิธีการเลือกซื้อ ควรเลือกซื้อแฮมสเตอร์ในช่วงเวลาเย็น ๆ เพราะแฮมสเตอร์จะนอนในเวลากลางวันจะงัวเงีย ทำให้ดูยาก เวลาป่วยหรือไม แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาตอนเย็น มันจะคึกคักทำให้ดราเลือกได้ง่ายกว่า และเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นระหว่างตัวที่ซึม เพราะป่วยและตัวที่ไม่ป่วย เลี้ยงหลายตัวได้หรือไม่ อาจจะเลี้ยงแฮมสเตอร์มากกว่า 1 ตัวในกรงเดียวกันได้ แต่ขึ้ยอยู่กับพันธุ์ของแฮมสเตอร์ด้วยถ้าเป็นแฮสเตอร์แคระแล้วหล่ะก็ มันเป็นสัตว์สังคมพอสมควรสามารถจะเลี้ยงด้วยกันได้หากเลี้ยงไว้ด้วยกันตั้งแต่เล็ก มักไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกันแต่ไม่ควรเลี้ยงแฮมสเตอร์ต่างสายพันธุ์ไว้ด้วยกัน เพราะนิสัยจะแตต่างกันจะทำให้มัเครียดและอาจจะกัดกันจนตายได้ หรือเกิดปัญหาจาการผสมข้ามพันธุ์ ควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่สุขภาพดี แฮมสเตอร์ควรจะสะอาด ขนสะอาด ไม่มีอุจจาระเปื้อนหรือเหม็นผิดปรกติ และไม่ผอมผิดปรกติไม่ซึมไม่มีบาทแผลทั้งตัวและนิ้วเท้าหูต้องสะอาดท้งด้านในและด้านนอก ตาต้องสดใสและสะอาด ควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่อายุระหว่าง 4-7 สัปดาห์ เพราะเชื่องง่ายถ้าเราเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ เพศไหนก็ได้ นิสัยไม่แตกต่างกันมาก วิธีการเลี้ยง อาหารหลักที่ควรให้แฮมสเตอร์ คือ ธัญพืชโดยจะโปรยอาหารลงบนพื้นก็ได้เพราะแฮมสเตอร์ไม่มีนิสัยชอบก้มกิน มันจะชอบหยิบอหารออกมากินนอกภาชนะมากกว่า โดยใช้เท้าหน้าจับอาหารกิน แต่การใช้ภาชนะมีข้อดี คือจะทำให้เราได้รู้ว่ามันเอาอาหารออกไปกิน มากน้อยแค่ไหน ถ้ามันป่วยเราก็รู้ได้ นอกจากนี้ การใส่ภาชนะยังทำให้อาหารและขี้เลื่อยไม่ปะปนกันทำให้การเปลื่ยนขี้เลื่อยทำได้ง่ายโดยไม่ต้องทิ้งอาหารที่ปนกับขี้เลื่อย การให้อาหารแฮมสเตอร์ 1. อย่าให้ผักสด หรือผลไม้สดบ่อยๆหรือมากเกินไป การให้ผักสดควรให้แค่สัปดาห์ละครั้งเพราะอาจจะทำให้แฮมสเตอร์ท้องอืด หรือท้องเสียได้และหากมันกินไม่หมดควรจะเก็บทิ้งทันที 2. พยายามอย่าเปลื่ยนอาหารแบบทันทีทันใด ควรจะค่อยๆ เปลื่ยนอาหารโดยเอาอาหารเก่า ผสมกับอาหารใหม่ และเพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่ให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทนที่อาหารเก่าในที่สุด อย่าเปลื่ยนแบบฉับพลัน 3. อาหารที่ควรหลีกเลื่ยงช็อคโกแลต โดยเฉพาะ Dark Chocolate เพราะมีสาร Theobromine ซึ่งเป็นพิษต่อแฮมสเตอร์ได้ 4. หลีกเลื่ยงผักผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยวๆ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด เป็นต้น 5. เราอาจจะเสริมโปรตีนให้กับแฮมสเตอร์ได้ โดยการให้อาหารเม็ดของแมวหรืออาหารสุนัขที่เป็น บิสกิต ใส่ลงไปได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งช่วยเสริมโปรตีนและยังช่วยลับฟันแฮมสเตอร์ไม่ให้ยาวเกินไปอีกด้วย 6. อาหารที่ไม่ปลอดภัยสำหรับแฮมสเตอร์ ได้แก่ หัวหอม มันฝรั่งดิบ กระเทียม น้ำอัดลม ลูกกวาด เป็นต้น 7. หลีกเลี่ยงอาหารที่แหลมคม หรือ เหนียวหนืด 8. ขนมหรืออาหารหวานๆเพราะแฮมสเตอร์แคระมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ 9. หลีกเลี่ยง อาหารเม็ดของกระต่าย เพราะบางชนิดใส่สารอาหารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้น การเจริญเติบโตในกระต่าย แต่เป็นอันตรายต่อแฮมสเตอร์ 10. หลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเพรา การผสมพันธุ์ แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่มีอายุขัยสั้น มันจึงต้องแพร่พันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ อย่าผสมข้ามพันธุ์แฮมสเตอร์หากท่านยังไม่พร้อม สำหรับชีวิตน้อน ๆ อีกหลาย ๆ ชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นมา ท่านมีกรงให้พร้อมหรือไม่ท่านมีเวลาเพียงพอสำหรับมันหรือไม่ โปรดศึกษาแฮมสเตอร์ให้เข้าใจก่อนผสมพันธุ์ เพื่ิอให้ลูกที่เกิดออกมาแข็งแรงและไม่มีข้อบกพร่องทางพันธุ์กรรม การเลือกซื้อหนู ควรเลือกซื้อแฮมสเตอร์ในช่วงเวลาเย็น ๆ เพราะแฮมสเตอร์จะนอนในเวลากลางวันจะงัวเงีย ทำให้ดูยาก เวลาป่วยหรือไม แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาตอนเย็น มันจะคึกคักทำให้ดราเลือกได้ง่ายกว่า และเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นระหว่างตัวที่ซึม เพราะป่วยและตัวที่ไม่ป่วย
Credit: http://www.karn.tv/c_pet/pet_003.html
#หนูแฮมสเตอร์
tnt869472
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
12 ม.ค. 54 เวลา 21:43 3,166 4 88
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...