แคทเธอรีน ไนท์ ปิติสุขเมื่อได้ฆ่าสยอง
การฆาตกรรมโหดในประเทศออสเตรเลียส่วนมากจะเป็นผุ้ชาย นานๆ ที่จะปรากฏฆาตกรที่เป็นผู้หญิงสักครั้ง แต่ละครั้งพฤติกรรมของพวกเธอนั้นโหดเหี้ยมกว่าผุ้ชายเสียอีก
แพท โซมีส นักจิตวิทยาประจำศาลในซิดนีย์ให้ความเห็นว่า ปกติผู้หญิงจะควบคุมอารมณ์ความโกรธ เกลียด ตัฒหา อาฆาตที่เกิดขึ้นได้กว่าผู้ชาย และระบายความเก็บกดในใจออกไปทางอื่น เช่นกลายเป็นคนเครียด กินอย่างผิดปกติ หรือพยายามฆ่าตัวตายแทน เพราะเธอเป็นเพศแม่ ส่วนผู้ชายเป็นเพศนักล่า
ยกเว้นเธอคนนี้................
...............................
แคทเธอรีน ไนท์ (Katherine Knight)
เกิด 24 ตุลาคม 1955
(1956 – ??)
เป็นบุตรของ Barbara และ Ken Knight
แคทเธอรีน ไนท์ เกิดเมื่อวันที่ 1956 ในเมืองอาร์เบอดีน นิวเซาท์เวลล์ซึ่งเพื่อนๆ มักกล่าวถึงเธอว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ เธอชอบตะโกณสบถคำหยาบคลาย และขี้บ่นยิ่งกว่าหญิงแก่เสียอีก
พอแคทเธอรีนอายุ 16 ในปี 2516 เธอก็มาสมัครงานเป็นพนักงานฆ่าสัตว์ “ฉันอยากทำงานเหมือนพ่อ ขูดเลือดที่แข็งตัวออกมาจากเนื้อสัตว์ ขูดไขกระดูกออกมาจากซากพวกมัน ฉันชอบทำทุกอย่างที่โรงฆ่าสัตว์”
แคทเธอรีน ไนท์แต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุ 18 กับเดวิด เคลลเทพนักงานขับรถบรรทุก แต่เพียงคืนแรกเธอก็ทำเรื่องวุ่นซะแล้ว เมื่อเธอพยายามบีบคอเดวิด เมื่อเขาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับเธอ
ต่อมาแคทเธอลีนก็ทำเรื่องอีก เมื่อเดวิดต้องเจอเหล็กเผาร้อนๆ นาบแก้ม และถูกมีดจ่อกระเดือก ฯลฯ จนทำให้เดวิดต้องโบกมือลาในที่สุด
หลังเดวิดโบกมือลา แคทเธอลีนก็ระบายเรื่องถูกสามีทิ้งกับลูก โดยเธอเอา “มาลิสา” ลูกสาววัยเพียง 2 เดือนที่เกิดกับเดวิดไปวางทิ้งบนรางรถไฟหวังให้รถไฟทับ แต่มีคนพบเสียก่อนจึงช่วยทารกน้อยได้ปลอดภัย(ต่อมาเดวิดก็กับมาคืนดีกับเธออีกครั้งและให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ “นาตาชา” ในปี 1980 ก่อนที่จะหย่าในเวลาต่อมา)
นอกจากนี้เธอยังก่อคดีใช้ขวานไล่จามเพื่อนบ้าน จาเพื่อนบ้านคนนั้นหนีเข้าบ้านและล็อกประตูได้ทันจึงรอดมาได้หวุดหวิด
ต่อมาแคทเธอรีนก็ก่อคดีแทงตำรวจรายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ
ในปี 1988 แคทเธอลีนแต่งงานกับสามีคนที่สอง ชื่อ เดฟ ชอนเดอร์ ชาวเหมือง แต่ไม่กี่ปีเดฟก็รู้ฤทธิ์ของเธอ โดยแคทเธอลีนคิดว่าเขานอกใจ เธอจึงใช้กระทะตีศีรษะเขาจนสลบและเชือดคอหมาที่เขาเลี้ยงไว้
“ที่จริงเธอเป็นแม่บ้านที่ดีนะ ทำอาหารอร่อย งานเย็บปักถักร้อยก็เก่ง เธออาจจะเป็นคนก็ได้ แต่เมื่ออารมณ์เสียขึ้นมา.......”
แคทเธอลีนกับเดฟมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ ซาร่าห์ แต่ด้วยความที่เธอค่อนอารมณ์ร้าย และทำร้ายร่างเดฟหลายครั้ง และความอดทนของเดฟถึงจุดแตกหัก เมื่อแคทเธอลีนทุบรถเขา และไล่แทงเขาด้วยกรรไกลจนแทบหนีเอาชีวิตไม่รอด
ไม่หย่าก็โง่แล้ว.....
เดือนพฤษภาคม 1990 ไนท์ไปอยู่กับ จอห์น ชิลลิงเวิร์ซ มีลูกชาย 1 คนชื่อ “อีริค” แต่จอห์นทนอารมณ์ร้ายของเธอไม่ไหวก็โบกมือลาไปอีกคน
แต่ดังที่สุดคือคดีฆ่า นายจอห์น ชาร์ล โธมัส ไพรซ์
ปี 1994 แคเธอรีน ไนท์ ได้พบกับจอห์น ไพรซ์ หนุ่มวัย 38 ปี และตกลงเป็นคู่ชีวิตกัน ทั้งคู่เข้ามาอยู่อาศัยในบ้านหลังหนึ่งบนถนนเฮนด์ แอนดรูว์ อาเบอร์ดีน
จอห์นเป็นพ่อม่ายลูกติด 3 คน เป็นคนทำงานหนัก แต่ชอบดื่มเบียร์ สูบบุหรี่ ชอบคุยเรื่องตลก แต่กระนั้นเขาก็นิสัยดี ใครๆ ก็ชอบ และแคเธอรีนก็ชอบร่วมดื่มกับจอห์นเช่นกัน
แคเธอรีนชอบพาจอห์นไปดูหนัง ส่วนมากเป็นหนังสยองขวัญ เช่น Jason Goes to Hell, Silent Nisht, Deadiy Night และ Expect No Mercy
ตอนแรก แคทเธอรีนและจอห์นถูกคอกันดีอยู่หรอก จนกระทั้งคืนหนึ่ง วันอังคารที่ 29 กุมภาพันธ์ 2000 จอห์นกับแคทเธอลีนเกิดทะเลาะกันและไล่เธอออกจากบ้าน และประกาศตัดความสัมพันธ์กัน แม้แคทเอลีนจะบุกเข้าห้องนอนจอห์นสารภาพผิดและมีเพศสัมพันธ์กัน
แต่กระนั้นจอห์นก็ยังยืนยันที่จะฟ้องหย่า...........
ด้วยความเดือดดาลเหมือนถูกหลอก แคทเธอลีนแค้นจัดมาก เธอจึงออกไปจากห้องและกลับเข้ามาใหม่พร้อมมีด ยืนดูเขาอยู่ปลายเตียงในชุดนอนสีดำ รออยู่อย่างใจเย็นจนกระทั้งไฟรซ์สะดุ้งตื่น เธอจึงกระโดดขึ้นคร่อมแล้วใช้มีดแล่เนื้อ แทงนายไพรซ์ถึงแก่ความตาย เขาถูกแทงอย่างน้อย 37 ครั้ง ทั้งหน้าและหลังและหน้าอกจนเลือดท่วม หลายแผลแทงทะลุอวัยวะภายในที่สำคัญหลายแห่ง
จากนั้นแคทเธอลีนก็จัดการลากร่างอดีตคนรักเข้าไปในห้องนั่งเล่น ถลกหนังเขาแบบที่เราเห็นในโรงฆ่าสัตว์ แล้วแขวนหนังที่ถลกแล้วไว้กับประตูห้องนั่งเล่น ส่วนเนื้อเอามากองไว้หน้าโทรทัศน์ที่เปิดเครื่องทิ้งไว้ จากนั้นเธอก็เอาตัดหัวเขาออกแล้วนำไปใส่ในหม้อซุป และอบส่วนสะโพกบั้นท้ายของเขา แล้วเตรียมน้ำเกรวี่และผักเพื่อเป็นเครื่องเคียงเนื้ออบ โดยอาหารมื้อพยาบาทนี้ถูกจัดเตรียมไว้ให้ลูกของไพรซ์คือ “บคกี” และ “โจนาธาน”กิน........
จากนั้นเธอก็ขับรถไปกดเงินจากตู้เออีเอ็ม 500 ดอลลาร์จากบัญชีของไพรซ์ กลับบ้านกินกาแฟ สูบบุหรี่และนอน
แต่โชคดีที่ตำรวจมาเจอก่อนที่เด็กๆจะมากิน(เหอๆ)
จ่าป๊อป เวลส์ ตำรวจซึ่งไปถึงที่เกิดเหตุในตอนเช้า บรรยายภาพที่ปรากฏออกมาว่า ไม่เคยเห็นอะไรที่น่าสยองขวัญเช่นนี้มาก่อน
“ผมไม่คิดว่าคนเราจะทำกันได้ถึงขนาดนี้” เขาบอก
เมื่อตำรวจเข้าไปปลุกแคทเธอรีน ซึ่งเธอนอนหลับสนิทเธออ้าวว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป แต่ตำรวจจับผิดเธอได้หลังจากพบว่าเธอกดตู้เอทีเอ็มหลังจากฆ่าจอห์น
แต่กระนั้นจิตแพทย์ 5 คนประกาศว่า เธอเป็นบ้า.........
การดำเนินคดีในเดือนพฤศจิกายน 2001 ผู้พิพากษาแบรี่ โอคีฟ ได้แถลงว่า
“หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ เห็นว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า......”
“ไม่เพียงแต่วางแผนสังหารเท่านั้น จำเลยยังมีความสุขในการก่อเหตุ และมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจหลังจากการฆ่าคนแล้วด้วย จำเลยยังมีสติ รู้ทุกอย่างที่ตนกำลังทำ ทำด้วยความตั้งใจ ตระหนักถึงผลที่ตามมา และทำด้วยความชำนาญ”
ศาลตัดสินให้จำคุกเธอตลอดชีวิต โดยไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษ
ปัจจุบันแคเธอรีน ไนท์ใช้ชีวิตในทัณฑสถานหญิงมูวาค่าในนิวเซาท์เวลล์ เธอพยายามทำเรื่องขออุทธรณ์หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล