รุ่งอรุณรับศักราชใหม่ 1 มกราคม พ.ศ.2554 ณ ดินแดนแห่งความเสี่ยงภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของไทย นายตำรวจหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือหน่วย EOD (Explosive Ordnance Disposal) เสียชีวิตขณะเข้าทำการเก็บกู้ระเบิดกลางตลาดเทศบาลตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ท่ามกลางข้อสงสัยในชุด "บอมบ์สูท" และ "เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์" อันเป็นปราการด่านสุดท้ายในการป้องกันชีวิตเจ้าหน้าที่ แต่ยุทโธปกรณ์ทั้งสองชนิดหาได้ช่วยอะไรไม่
แรงระเบิดทำลายล้างสูงหนัก 3 ปอนด์ ปลิดชีพ ดาบตำรวจกิตติ มิ่งสุข อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายระเบิดสังกัด ตชด.447 คาชุดเกราะ "บอมบ์สูท" ขณะที่ จ่าสิบตำรวจ กฤษดา ทองโอ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.สุไหงปาดี ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 9 นาย
จากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายมุ่งหมายเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ชุด EOD เนื่องจากหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท และทำตามขั้นตอนการเก็บกู้ทุกประการ โดยก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น ตำรวจกับทหารได้เข้าไปสังเกตการณ์ก่อนแล้ว 2 ครั้ง แต่คนร้ายไม่กดจุดชนวน กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าไป จึงทำการกดระเบิด และระเบิดที่คนร้ายใช้ก็ยังเป็นระเบิดแรงสูงที่หมายเอาชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้คนไทยตั้งคำถามถึงเรื่องชุด "บอมบ์สูท" และ "เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์" ว่าใช้การได้ประสิทธิภาพแค่ไหน และประเด็นกังขาที่ว่า บอมบ์สูท สนนราคาตัวละ 2 ล้านบาท แต่หมดอายุจริงหรือไม่ ???
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด.ต.สว่าง มาลัย รองหัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ชุดบอมบ์สูท หรือ Blast (ชุดป้องกันอันตรายจากแรงระเบิด) ที่มีใช้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมากกว่า 10 ชุด โดยเป็นของที่ผลิตจากประเทศแคนนาดา ราคาประมาณ 2 ล้านบาทต่อ 1 ชุด ได้รับมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 สามารถรับแรงระเบิดที่ขนาด 1.5 ปอนด์ จึงมีความสามารถป้องกันระเบิดได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น หรือผ่อนจากหนักเป็นเบา ไม่ได้ปลอดภัยจากแรงระเบิด 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในการปฏิบัติงานพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เน้นการสวมชุดบอมบ์สูท แต่จะใช้รถยนต์หุ้มเกราะที่มีความปลอดภัยมากกว่า ส่วนการใช้ชุด บอมบ์สูท จะมีการพิจารณาเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า บอมบ์สูท ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อแรงระเบิดที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มีประสิทธิภาพตามอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันแรงอัดและสะเก็ดระเบิดแบบป้องกันทั้งตัว สามารถป้องกันแรงอัดระเบิดและสะเก็ดระเบิดทั้งแบบธรรมดา สารเคมี หรือสารชีวภาพ มีความยืดหยุ่น น้ำหนักของชุดจะอยู่ระหว่าง 15 - 30 กิโลกรัม โดยหน่วย EOD จะสวมชุดป้องกันอันตรายจากแรงระเบิดในระหว่างการลาดตระเวนเก็บกู้ระเบิด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
บอมบ์สูท ทั่วไป ประกอบด้วย....
ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด ก็มีปัญหาขัดข้องในการทำงานวันเกิดเหตุ และเป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตเองภายในประเทศ ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานต่ำกว่าหุ่นยนต์จากต่างประเทศที่บังคับด้วยคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานหรือรถยนต์กันกระสุน ทำให้เจ้าหน้าที่มีความเสี่ยง เนื่องจากต้องบังคับในที่โล่ง และอยู่ในรัศมีที่แรงระเบิดทำงาน