แฟชั่นผิวขาวกระจ่างใสราวหยวกกล้วย ยังคงอินเทรนด์ในหมู่สาว ๆ ซึ่งปัจจุบันหันมารับประทาน ยาทรานซามิน (Tranzamin) หรือ ยาทราเนซามิค แอซิด (Tranexamic acid) เพื่อฟอกผิวให้ขาว ทดแทน ยากลูต้าไทโอน (Glutathione) ที่ถูกควบคุมการใช้จากกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังมีราคาแพง ในขณะที่ ยาทรานซามิน จะมีราคาถูก เห็นผลเร็วกว่า และหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปนั้น
ล่าสุดนายแพทย์พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ออกมาระบุว่า ยาทราเนซามิค แอซิด ข้อบ่งใช้เพื่อรักษาในผู้ป่วยเลือดออกง่าย ใช้ในการเตรียมผ่าตัดในกรณีที่คนไข้มีแนวโน้มเลือดออกง่าย ไม่มีข้อบ่งใช้ในเรื่องผิวขาวหรือรักษาฝ้า โดยอนุญาตให้นำมาผสมในเครื่องสำอางไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังกระจ่างใส แต่ไม่ได้ทำให้ผิวขาว อีกทั้งหากผสมเกินที่กำหนดจะถือเป็นเครื่องสำอางปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกโรงเตือนกลุ่มวัยรุ่นหันมานิยมใช้ ยาทรานซามิน โดยระบุว่า ยาทรานซามิน เป็นยาอันตรายที่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และขายโดยเภสัชกรในร้านขายยาเท่านั้น เนื่องจากใช้ในการห้ามเลือดเป็นหลัก อาจมีผลข้างเคียงทำให้เม็ดสีลดความเข้มลงได้บ้าง ที่สำคัญหากรับประทานอย่างต่อเนื่องจะมีอาการข้างเคียง เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ที่สำคัญคืออาจทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งมีผลทำให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หรือไตวายเฉียบพลันได้