ขอเชิญสหายทั้งหลายร่วมดื่ม 10 ยอดสุรา...จากแผ่นดินมังกร

คงยากจะปฏิเสธว่า แผ่นดินมังกรอันอุดมไปด้วยอารยธรรมเก่าแก่ เป็นประเทศแรก ๆ ของโลก ที่ให้กำเนิดกรรมวิธีหมักเหล้า/ไวน์หลากชนิด ยิ่งมีการขุดค้นพบภาชนะเครื่องปั้นดินเผาในยุคหินใหม่ที่ใช้หมักเหล้าโบราณด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มั่นใจว่า เหล้า/ไวน์แดนมังกร เลื่องชื่อลือชาเรื่องความพิถีพิถันและความขลัง
   
   
ในราชวงศ์ซัง และราชวงศ์โจว มีการผลิต “ไวน์ข้าว” ถือเป็นอีกหนึ่งไวน์ที่มีอายุเก่าแก่สุดในโลก เกือบกว่า 3 พันปีมาแล้ว จีนได้เริ่มผสมผสานวิธีการหมักยีสต์ผลิตเป็นไวน์ข้าว ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ราว ๆ พันปีที่ผ่านมา) กรรมวิธีการกลั่นจึงก่อกำเนิดขึ้น
   
   
นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า จิตวิญญาณของคนจีนกับการดื่มเหล้า แยกจากกันไม่ได้ เหล้าเก่าแก่เลื่องชื่อแดนมังกรยังคงตกทอดมาถึงปัจจุบันให้ได้ลิ้มลอง โดยเหล้าแต่ละชนิดหาได้มีไว้ดื่มเพื่อความมึนเมาเป็นหลัก เพราะประโยชน์ของเหล้า ก็เพื่อสร้างความอบอุ่นของร่างกาย และสรรพคุณของสมุนไพรจะเป็นเครื่องยาบำรุงอวัยวะต่างๆ ให้แข็งแรง หากดื่มแต่พอดี

 

 



10 สุราเลื่องชื่อแดนมังกร (ภาพเอเยนซี)


1. เหมาไถ (???)

มีอายุยาวนานและมีที่มาชวนติดตาม “เหมาไถ”
เป็นสุราเลี้ยงฉลองในงานรัฐพิธี ครั้นมีการสถาปนา
สาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำจีนได้นำเหมาไถเสิร์ฟรับรอง
ผู้นำจากต่างประเทศ ในฐานะของขวัญประจำชาติ
ด้วยรสชาติบริสุทธิ์ ละเอียดอ่อน นุ่มลิ้น ทำให้ร่างกายสดชื่น
ใครได้ลิ้มรสแล้ว กลิ่นหอมและความละเมียดละไมจะติดตราตรึงใจไปแสนนาน

 

 



2. อู่ เหลียงเย่ (???)



กลั่นจากธัญพืช 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวฟ่างแดง ข้าว ข้าวเหนียว

ข้าวสาลี และข้าวโพด เป็นที่กล่าวขานว่า “สามถ้วยพลังช้าง”
 
หมายว่าใครได้ดื่ม 3 ถ้วยแล้วจะกระปรี้กระเปร่า

พลังเต็มเปี่ยมประดุจช้างสาร หรือแม้เพียงหยดเดียว

กลิ่นหอมระเหยก็จะทำให้รัญจวญใจไปอีกแสนนาน

โดยเมืองอี๋ปิน มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เป็นถิ่นกำเนิด

ของยอดสุรา และเป็นแหล่งกำเนิดของ “อี๋ปิน อู่เหลียงเย่”
 
ด้วย

 

 

 



3. ตู้คัง (??)


ตามบันทึกประวัติศาสตร์ ตู้คังเป็นคนกลั่นเหล้า

และต้องกลั่นออกมาจากธัญพืชในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น มีคำกล่าวขานว่า กรรมวิธีการผลิตสุรา

ช่วงแรก ๆ อยู่ที่หมู่บ้านของตู้คัง ในแถบชานเมืองไช่เตี้ยน

อำเภอหรู่หยัง บรรยากาศฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะทำตู้คังกลั่นสุรา

ได้ใสบริสุทธิ์ทรงคุณค่าดั่งหยกเขียว และได้รสชาติหวานหอม

มิรู้ลืม

 

 

 

 



4. เฝิน จิ่ว (??)


มีชื่อเสียงยาวนานในประวัติศาสตร์จีน จากหลักฐาน

ขุดค้นพบข้อมูลการหมักเฝินจิ่วในหมู่บ้านซิ่งฮวา

แห่งมณฑลซานซี สามารถย้อนรอยไปได้ถึงยุคก่อน

ประวัติศาสตร์ ในช่วงยุควัฒนธรรมหลงซาน

กว่า 4 พันปีที่แล้ว เฝินจิ่ว เป็นสุรากลิ่นหอม อ่อนโยน

พิเศษ แฝงไปด้วยจิตวิญญาณแบบเหล้าจีน โดดเด่น

ด้วยกรรมวิธีที่สมบูรณ์แบบ เฝินจิ่วมีชื่อเสียง

ในด้านความนุ่ม ความหวานและคอเหล้าต่างกล่าว

เป็นเสียงเดียวกันว่า “ยอดเยี่ยม” หลังได้ลิ้มลอง



5. ซีเฟิง จิ่ว (???)



ผลิตในอำเภอเฟิ่งเสียน เมืองเป๋าจี่ อำเภอเหมย

และอำเภอฉีซาน ในมณฑลส่านซี ซีเฟิง เป็นเหล้าเก่าแก่

มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,600 ปี การดื่มแต่พอดี

ช่วยให้การไหลเวียนเลือดเป็นปรกติ ไล่อาการหวัด

และช่วยให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้

 

 



6. เจี้ยนหนานชุน (???)


ผลิตในอำเภอเหมียนจู๋ มณฑลซื่อชวน (เสฉวน)

ซึ่งเป็นเสมือนบ้านเกิดเมืองนอนของสุรานานาชนิด

เพราะอำเภอเหมียนจู๋ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกไผ่

และการหมักเหล้า เจี้ยนหนานชุนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง

และผลิตในช่วงต้น ๆ ราชวงศ์ถัง กวีชื่อดังหลี่ไป๋

ครั้งหนึ่งยังเคยขายเสื้อคลุมขนสัตว์เพื่อนำเงิน

มาแลกซื้อเจี้ยนหนานชุน

 

 



7. หลูโจวเหล่าเจี้ยว (????)


เมืองหลูโจว แห่งมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เป็นแหล่งกำเนิด

จิตวิญญาณแห่งความหอมซาบซ่าน และที่นี่ได้ฟูมฟัก

สุราหลูโจวเหล่าเจี้ยวมานมนาน หลูโจวเหล่าเจี้ยว

มีการผลิตมาตั้งแต่ราชวงศ์หมิง นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์

ทรงคุณค่าจีนที่มีอายุยาวนาน และได้จดทะเบียน

ขึ้นเป็นมรดกอันโลกเมื่อปี 2549

 

 

 



8. กู๋จิ่ง ก๋งจิ่ว (????)


หรือสุราบ่อโบราณ ผลิตในแถบกู๋จิ่ง เมืองเหาโจว

มณฑลอานฮุย จากการบันทึกขอ้มูลพบว่า ว่ามีการผลิต

ตั้งแต่ 196 ปีก่อนค.ศ. สุราชนิดนี้เป็นเครื่องบรรณาการ

สมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อ เฉ่า เชา แห่งเมืองเหาโจวนำขึ้น

ทูลเกล้าฯ ถวายจักรพรรดิเซี่ยน แห่งราชวงศ์ฮั่น

 

 

 

 




9. จู๋เย่ชิง (???)


เหล้าชนิดนี้เลื่องชื่อเช่นเดียวกับเฝินจิ่ว ซึ่งพบว่ามีการผลิต

ในหมู่บ้านซิ่งฮวา แห่งมณฑลซานซีเช่นเดียวกัน

เหตุที่เลื่องชื่อมาแต่อดีต เพราะกลั่นจากไวน์ข้าว

ผสมกับใบไผ่ กลายมาเป็นจักรพรรดิแห่งสุราทั้งมวล

ซึ่งการดื่มแต่พอดีมีสรรพคุณช่วยให้อบอุ่น

ทำให้ตับและม้ามทำงานปกติ ทำให้เลือดดี

ทำให้ลมในร่างกายเป็นปกติ ขับความเมื่อยล้า

ช่วยระบบย่อยอาหาร




10. ต๋งจิ่ว (??)


ผลิตที่วัดต่งกง เมืองจุนอี้ กุ้ยโจว จุนอี้เป็นเมืองเลื่องชื่อ

ในประวัติศาสตร์การกลั่นสุรามายาวนาน สามารถย้อนไปได้

ตั้งแต่สมัยสามก๊กและราชวงศ์จิ้นตะวันตกตะวันออก

(ค.ศ. 220-420) ต๋งจิ่วไร้สี อ่อนโยนและมีกลิ่นเย้ายวน

หากใครได้ลิ้มรสแม้หยดเดียวก็มิอาจลืมเลือน

 

 


 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

Credit: http://atcloud.com/stories/91693
5 ม.ค. 54 เวลา 23:01 3,468 11 124
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...