เป็นโพสต์ต่อเรื่องจาก ฝีมือจีนก๊อปปี้ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทแบบย่อส่วนที่ปักกิ่ง (http://www.oknation.net/blog/exit/2009/07/08/entry-1) ของเมื่อวานนี้ ที่พาเดินมาหยุดอยู่แค่ปลายทวีปเอเชีย วันนี้ขอพาเข้าเรื่องย้อนลงไปแถว ๆ ออสเตรเลียกันเลยก็แล้วกัน ซึ่งจีนเขาทำสำเนาสะพานซิดนีย์ฮาเบอร์ ที่อ่าวซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มาไว้ที่ปักกิ่งนี่ ในสัดส่วนที่เล็กกว่าของจริง 25 เท่า สะพานของจริงนั้นเขาเปิดใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2475
ใกล้ ๆ กันกับสะพานฮาเบอร์ก็เป็นโรงอุปรากรซิดนีย์ หรือ Sydney Opera House ซึ่งของจริงเปิดใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2516 หลังคาสีขาวรูปร่างแปลก ๆ สถาปนิกชาวเดนมาร์กตั้งใจจะออกแบบให้เป็นรูปทรงเปลือกหอย เฉพาะหลังคาก็ต้องใช้กระเบื้องเป็นล้านแผ่น กว่าจะสร้างเสร็จต้องใช้เวลาไปถึง 16 ปี
หมู่บ้านแบบแอฟริกันฉบับสำเนา ซึ่งจำลองแบบมาจากหมู่บ้านของชาวไนจีเรียและชาวมาลี
ขึ้น มาทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาฟริกา ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณอียิปต์ มีการจำลองแบบของประภาคารแห่งอเล็กซานเดรีย The Lighthouse of Alexandria หรือที่บางคนเรียกว่าฟาโรส Pharos แห่งอเล็กซานเดรีย คำว่าฟาโรสนั้นเป็นภาษากรีกหมายถึง ประภาคาร ส่วนอเล็กซานเดรีย เป็นชื่อของเมืองท่าที่อยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประภาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นประภาคารแห่งแรกของโลก และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เสียดายที่ของจริงถูกแผ่นดินไหวพังไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 800 ปีก่อน ถ้ายังอยู่ก็น่าจะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 2,000 ปี และใหญ่กว่าที่จำลองมาให้ดูประมาณ 25 เท่า
สฟิงซ์ หรือ Sphinx เป็นชื่อเรียกของสัตว์ที่มีส่วนผสมของสัตว์หลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกันแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละชนชาติ สฟิงซ์ของอียิปต์นั้นเป็นส่วนผสมของคนกับสิงโต ที่จำลองแบบมานี้น่าจะเป็นมหาสฟิงซ์แห่งกิซ่า หรือ The Great Sphinx of Giza ที่ของจริงมีอายุกว่า 4,700 ปี มีความสูง 20 เมตร ยาว 74 เมตร แกะสลักจากหินปูนก้อนเดียว ส่วนที่เป็นเคราอยู่ที่คางของมหาสฟิงซ์นั้นเดินทางมาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ใน ลอนดอน
หมู่ พีระมิดแห่งกิซ่าที่สร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกันกับมหาสฟิงซ์ ซึ่งประกอบด้วยพีระมิด 3 หลัง (เขาเรียกพีรามิดเป็นหลังหรือเปล่าก็ไม่รู้) อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ที่เห็นใหญ่สุดก็คือมหาพีระมิดแห่งกิซ่า หรือพีระมิดคูฟู อีกหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก จำลองย่อส่วนมาเล็กกว่าของจริง 25 เท่า
มหา วิหารอาบู ซิมเบล Abu Zimbel ฉบับจำลองเล็กกว่าของจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง ของจริงเป็นการเจาะแกะสลักภูเขาหินให้เป็นรูปฟาโรห์ 4 พระองค์ แต่ฟาโรห์ทั้งหมดนี้ไม่มีใครที่ชื่ออาบู ซิมเบล ชื่อเรียกของสถานที่แห่งนี้กลับมาจากชื่อของเด็กชาวบ้านที่นี่ซึ่งเป็นคนพา พวกนักสำรวจไปดู ของจริงนั้นมีอายุกว่า 3,200 ปี ตอนที่เขาสร้างเขื่อนพื้นที่ที่ตั้งของมหาวิหารถูกน้ำท่วมถึง เขาก็เลยยกย้ายมหาวิหารทั้งหมดไปไว้ในที่ที่รอดจากน้ำท่วม
ยัง อยู่กันที่อียิปต์ มหาวิหารคาร์นัค Karnak จากริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ถูกย่อส่วนมาให้เล็กลง 25 เท่า ของจริงจึงจัดว่าเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของอียิปต์ อายุ 3,800 กว่าปี ที่จำลองมาเป็นเพียงส่วนที่เรียกว่า ไฮโปสไตล์ฮอลล์ Hypostyle Hall
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของทะเลทรายอียิปต์ ก็เลยมีอูฐไว้ให้นั่งขี่หลังเพื่อถ่ายรูป
คราว นี้ไปกันแถบประเทศลาตินอเมริกากันบ้าง ตรงนี้เป็นการจำลองพีรามิดที่ชื่อ El Tajin ซึ่งอยู่ในประเทศเม็กซิโก และเป็นมรดกโลกด้วยแล้ว ของจริงมีอายุประมาณ 1,600 ปี และมีขนาดใหญ่กว่าที่จำลองมา 3 เท่า
ใกล้ ๆ กันยังอยู่ที่เม็กซิโก เป็นการจำลองรูปสลักบนเสาไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Totem-pole คำว่า totem นั้น หมายถึง รูปสลักบนเสา ส่วน pole นั้นก็หมายถึง เสา
ส่วน ตรงนี้เป็นการจำลองมรดกโลกมาจากประเทศชิลี เป็นรูปแกะสลักหินขนาดใหญ่ที่ชนเผ่าพื้นเมืองบนเกาะอีสเตอร์ หรือเกาะราปานุย ได้ทำไว้เมื่อประมาณ 900 ปีก่อน รูปสลักนี้เรียกกันว่า โมอาย หรือ Moai เกาะราปานุยนี้อยู่ในความปกครองของชิลี แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งชิลีถึง 3,600 กม.
กลับ มาแถว ๆ ปลายเอเชียต้นยุโรปอย่างประเทศตุรกี เป็นสะพานจำลองที่ของจริงนั้นดูยิ่งใหญ่และสวยงามกว่านี้มาก สะพานที่ว่านี้ก็คือสะพานข้ามช่องแคบบอสพอรัส Bosporus ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมต่อแผ่นดินฝั่งเอเชียกับฝั่งยุโรป ตัวสะพานมีความยาว 1 กม. เศษ เปิดใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2516
เห็น ชื่อ Trojan Horse หลายคนชักหวั่น ๆ ถึงเจ้าไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ติดแล้วชวนให้ปวดหัว แต่ม้าโทรจันที่เห็นนี้เป็นม้าไม้จำลองขนาดใหญ่ ที่เมื่อ 3,000 กว่าปีก่อน ในสงครามเมืองทรอยซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศตุรกีทุกวันนี้ ทหารกรีกวางแผนซ่อนตัวในม้าตัวนี้แล้วเข็นมาไว้หน้าเมืองทรอยแล้วถอยทัพกลับ ชาวเมืองทรอยนึกว่าทหารกรีกยอมแพ้แล้วส่งของขวัญมาให้ เลยลากเข้าไปไว้ในเมือง ม้าโทรจันที่เห็นอยู่นี้จำลองมาให้มีขนาดเท่ากับตัวที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ กรุงอิสตันบูล
ยัง อยู่กันที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นการจำลองแบบโบสถ์เซนต์โซเฟีย Saint Sophia Cathedral ซึ่งเคยเป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์มาก่อน คำว่าโซเฟียไม่ได้เป็นชื่อของนักบวช แต่เป็นภาษาละตินที่แปลว่า ปัญญา เป็นโบสถ์คริสต์อยู่เกือบ 1,000 ปี ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นสุเหร่าอยู่อีกเกือบ 500 ปี จนถึง พ.ศ.2478 ก็ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์มาจนถึงปัจจุบัน เรียกว่า พิพิธภัณธ์อะยาโซเฟีย หรือ ฮาเยีย โซเฟีย ของจริงใหญ่กว่าที่จำลองมา 10 เท่า
พา ไปประเทศอิตาลีกันก่อน ไปดูรูปหล่อสำริดแม่หมาป่าที่มีเด็กชายฝาแฝดสองคนกำลังดูดนมอยู่ ซึ่งจากตำนานการก่อตั้งกรุงโรมเล่าว่าเด็กทั้งคู่ถูกทิ้งไว้ริมแม่น้ำไท เบอร์ แล้วแม่หมาป่าเอามาเลี้ยงไว้ ชื่อของเด็กทั้งสองคนนี้ก็คือ รอมิวลุส และรีมุส ชื่อแรกนั้นได้กลายเป็นกษัตริย์องค์แรกของกรุงโรม
ภาพ ของรูปปั้นนี้ถูกใช้เป็นภาพสัญญลักษณ์แทนกรุงโรมในงานสำคัญ ๆ หลายงาน รูปปั้นของจริงมีความสูงประมาณ 75 ซม. ดูเหมือนว่าจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่กรุงโรม ปีที่สร้างบ้างก็ว่าก่อนคริสต์ศักราช บ้างก็ว่าน่าจะอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-15
แผ่น หินอ่อนรูปใบหน้าผู้ชายที่เรียกว่า Bocca Della Verita ซึ่งหมายถึง The Mouth of Truth ปากแห่งความจริง ของจริงอยู่ที่โบสถ์ซานตามาเรียในกรุงโรม เชื่อว่าสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษแรก แต่ย้ายมาอยู่ที่โบสถ์นี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ว่ากันว่าคนที่พูดปดถ้าเอามือไปวางตรงปากรูปใบหน้าผู้ชายที่ว่านี้แล้วมือจะ ขาดทันที ถ้าเป็นจริงก็น่าจะขอยืมมาให้พวกที่ชอบสาบานที่บ้านเราพิสูจน์ตัวกันบ้างก็ ดี
สนาม กีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่แห่งอาณาจักรโรมันที่สร้างขึ้นเมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน เรียกว่า โคลอสเซียม Colosseum ถูกย่อส่วนมาให้เล็กลง 15 เท่า ของจริงอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นตึกรูปวงกลมความยาวโดยรอบประมาณ 527 เมตร สร้างด้วยหินทรายและอิฐ
หอ เอนเมืองปิซา ที่จตุรัสเปียซซาเดลดูโอโม เมืองปิซา ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหอระฆังในศาสนาคริสต์สูงเกือบ 56 เมตร ถูกย่อส่วนให้เล็กลงมา 7 เท่า ของจริงอายุเกือบ 800 ปี เอียงอยู่เกือบ 4 องศา ตรงยอดเอียงออกจากแนวตั้งฉากกับฐานประมาณ 390 เซนติเมตร ตอนที่กาลิเลโอเอาลูกบอลสองลูกที่มีน้ำหนักไม่เท่ากันปล่อยทิ้งลงมาเพื่อ พิสูจน์เรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกก็มาทดลองอยู่ที่นี่
มหา วิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือที่เรียกกันว่า เซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา Saint Peter’s Basilica เป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของนครรัฐวาติกัน ถูกย่อส่วนลงมา 15 เท่า ของจริงอายุประมาณ 500-600 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของนักบุญปีเตอร์ หนึ่งในสาวก 12 องค์ของพระเยซู ซึ่งภายหลังได้เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม
คำ ว่า อะโครโพลิส Acropolis แปลตามคำศัพท์แบบตรง ๆ ตัวก็น่าจะเป็นเมืองที่อยู่ในที่สูง ซึ่งในประเทศกรีซก็มีอะโครโพลิสอยู่หลายแห่ง แต่ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปก็คือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ซึ่งอยู่บนยอดเขาที่กรุงเอเธนส์ บนนั้นจะมีวิหารที่ชื่อ พาร์เธนอน Parthenon ของจริงอายุประมาณ 2,500 ปี และใหญ่กว่าที่จำลองมา 5 เท่า
รูป หล่อสำริดของสองอัศวิน ดอน กีโฆเต้ และ ซานโจ ปันช่า จากนวนิยายที่มีอายุกว่า 400 ปี เรื่อง ดอน กีโฆเต้ แห่งลามันชา Don Quixote de la Mancha คนเขียนก็คือ มิแกล เด แซร์บันเตส ซึ่งเป็นคนสเปน รูปหล่อนี้ของจริงอยู่ที่พลาซา เดอ เอสปาญน่า Plaza de Espana กรุงแมดริด ประเทศสเปน
สะ พานทาวเวอร์ Tower Bridge ข้ามแม่น้ำเทมส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นคนละสะพานกับสะพานลอนดอน London Bridge ชื่อ Tower ของสะพานมาจากการที่ฐานของสะพานที่อยู่ทั้งสองฟากของแม่น้ำ ถูกสร้างให้เป็นหอสูงอยู่ฟากละหอ แต่ละหอมีความสูง 66 เมตร เปิดใช้สะพานเมื่อ พ.ศ.2437 ของจริงนั้นใหญ่กว่าที่จำลองมา 5 เท่า
อาคาร รัฐสภาและหอนาฬิกาบิ๊กเบนซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ฝั่งทิศเหนือ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อาคารรัฐสภา หรือ Houses of Parliament แต่เดิมก็คือพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ Westminster Palace ที่เห็นกันอยู่ส่วนใหญ่เป็นส่วนที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ.2377 หลังจากถูกไฟไหม้ ของจริงใหญ่กว่าอาคารที่จำลองมา 10 เท่า
ส่วน หอนาฬิกาบิ๊กเบน Big Ben เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับอาคารที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อ พ.ศ.2377 ชื่อบิ๊กเบนเป็นชื่อเรียกเหมือนเป็นชื่อเล่นของนาฬิกาแห่งนี้ ซึ่งมีที่มาจากชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดที่คอยตีบอกชั่วโมงอยู่ตรงช่องลม เหนือตัวนาฬิกา ของจริงใหญ่กว่าของที่จำลองมา 10 เท่า เช่นเดียวกัน
กลุ่ม หินประหลาดที่เรียกว่าสโตนเฮนจ์ Stonehenge อยู่ที่มณฑลวิลไชร์ ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เป็นแท่งหินขนาดยักษ์ จำนวน 112 ก้อน หินก้อนหนึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 30 ตัน ถูกจับเอามาเรียงเป็นวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง แถวที่หินพวกนี้มาวางกองอยู่ก็ไม่มีแหล่งหิน ทิ้งให้เป็นปริศนาว่าแล้วหินพวกนี้มาจากไหน แล้วที่เห็นซ้อนกันอยู่นั้นเขายกขึ้นไปวางซ้อนกันได้อย่างไร เพราะปริศนาที่ว่านี้เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว ส่วนที่ย่อจำลองมามีสัดส่วนเล็กกว่าของจริง 5 เท่า
มหา วิหารโนเตรอดาม Notre Dame ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.1888 เป็นมหาวิหารที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในสมัยโกธิคแบบฝรั่งเศส ของที่จำลองมาย่อส่วนลงจากของจริง 10 เท่า
ที่ เห็นเป็นกำแพงสูงคล้ายปีกนกอยู่ทางด้านหลังของมหาวิหาร ว่ากันว่าแรกเริ่มเดิมทีคนออกแบบก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เป็นรูปปีกนกอย่างที่ เห็นกันอยู่ แต่ทำไปทำมาพอสร้างกำแพงให้สูงตัวกำแพงก็รับน้ำหนักไม่ไหวถึงกับร้าวและโก่ง ตัว ก็เลยเติมกำแพงแบบปีกนกเข้าไปเพื่อใช้ค้ำยันอยู่กับตัวอาคารที่ฝรั่งเรียก ว่า flying buttress กลายเป็นความสวยงามอีกแบบหนึ่ง และถูกเอาไปใช้ก่อสร้างที่อื่น ๆ กันอีก
ประตู ชัยฝรั่งเศส อยู่ที่จตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2389 ย่อส่วนส่งมาไว้ที่นี่ให้เล็กกว่าของจริงเจ็ดเท่าครึ่ง รูปแกะสลักที่ฐานมีอยู่ด้วยกัน 4 รูป หนึ่งในนั้นเป็นรูปแกะสลักที่ชื่อ Le Depart de 1792 โดยศิลปินที่ชื่อ ฟรองซัวส์ รูด ที่เห็นเป็นภาพยุวชนไม่ได้นุ่งผ้า (ดูเอาจากที่ได้เห็นอวัยวะบางชิ้น) กำลังต่อสู้กับทหารเยอรมันที่ทั้งตัวก็ใหญ่กว่า หน้าตาก็น่ากลัวเต็มไปด้วยเครา เกราะก็มีใส่
หอไอเฟล Eiffel Tower ที่กรุงปารีส ถูกจำลองให้มีขนาดเล็กลงมา 10 เท่า ของจริงสูงถึง 300 เมตร หรือประมาณเท่ากับตึก 75 ชั้น
หอไอเฟลสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2432 ชื่อไอเฟลมาจากชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล
ถ้า หอไอเฟลเป็นสัญญลักษณ์ของกรุงปารีส สัญญลักษณ์ของกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ก็ต้องเป็นสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า อะตอมเมียม Atomium ที่สร้างเป็นลูกโลหะสีเงินวาวจำนวน 9 ลูก เกาะกันอยู่เหมือนอะตอม สร้างเมื่อ พ.ศ.2501 ของจริงเขาสร้างมีความสูงถึง 102 เมตร บางคนเรียกสิ่งก่อสร้างนี้ว่า หอไอเฟลเบลเยี่ยม ก็มี
รูป ปั้นโลหะเด็กเปลือยยืนฉี่ที่เรียกว่า เมนนาเกนพิส Manneken Pis อีกสัญญลักษณ์หนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เห็นตัวเล็ก ๆ สูงแค่ 61 ซม. แบบนี้ แต่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.1931 แต่วันดีคืนดีก็หายไป จนต้องมาปั้นตัวใหม่ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันเมื่อ พ.ศ.2162 ฉี่มาหลายร้อยปียังไม่ยอมหยุด สงสัยจะเป็นช้ำรั่วรุนแรง
เห็นกังหันลมกับดอกไม้สี ๆ ก็ต้องนึกถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ไว้ก่อน เป็นการจัดสวนแบบดัทช์ แต่ดอกไม้ยังดูเป็นจีน ๆ ไปหน่อย
โบสถ์ ไม้ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบสแกนดิเนเวียตั้งอยู่กลางธรรมชาติที่มีชื่อเรียก ว่า Urnes Stave Church ในประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นมรดกโลกไปแล้ว เป็นโบสถ์เล็ก ๆ ข้างในจุคนได้สัก 40 คน ยังเป็นที่สันนิษฐานกันอยู่ถึงปีที่สร้างว่าน่าจะเป็น พ.ศ.1675 จำลองย่อส่วนมาให้เล็กกว่าของจริง 8 เท่า
มหา วิหารเซนต์สตีเฟน St. Stephen Cathedral หรือที่เรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า สเตฟานส์โดม (Stephansdom) ซึ่งของจริงนั้นอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นศิลปะแบบโกธิคสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.1976 ที่เห็นเป็นหอคอยสูงเด่นอยู่นั้นของจริงมีความสูงประมาณ 137 เมตร
หลังคา ของมหาวิหารเซนต์สตีเฟนมุงด้วยโมเสกลวดลายสีสดใส ของจริงดูเหมือนจะออกโทนสีเขียว ๆ เทา ๆ แต่ที่นี่ทำไมถึงออกมาเป็นสีแดงได้ก็ไม่รู้
ปราสาท นอยชวาลสไตน์ Neuschwanstein อยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นการสร้างปราสาทและการตกแต่งจากแรงบันดาลใจของบทละครเรื่อง Swan Knight ของริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชาวเยอรมัน ปราสาทหลังนี้นี่แหละที่เป็นต้นแบบของปราสาทในเทพนิยายหลาย ๆ เรื่อง รวมไปทั้งปราสาทในสวนสนุกต่าง ๆ ทั่วโลก
ปราสาทนอยชวาลสไตน์สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2429 ของจริงนั้นใหญ่กว่าที่จำลองมา 10 เท่า
เทพี เสรีภาพและเกาะแมนฮัตตันในนครนิวยอร์คสัญญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการเดินทางมา ถึงประเทศสหรัฐอเมริกา อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพนั้นอยู่ที่ เกาะเบคโล ปากอ่าวแมนฮัตตัน คนฝรั่งเศสให้เป็นของขวัญในโอกาสที่อเมริกาฉลองวันชาติครบ 100 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2419 จำลองมาในขนาดที่เล็กกว่าของจริงมากถึง 25 เท่า
เกาะ แมนฮัตตันในนครนิวยอร์คเป็นศูนย์กลางความเจริญของทั้งเมืองที่ได้ชื่อว่ามี ผู้คนหนาแน่นมากที่สุด และมีค่าครองชีพที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นที่รวมของอาคารสำคัญ ๆ และอาคารสูงที่มีชื่อเสียงอย่างตึกเอ็มไพร์สเตท หรือตึกแฝดเวิลด์เทรดที่วันนี้ของจริงไม่มีให้เห็นแล้ว จำลองย่อส่วนมาเล็กกว่าของจริง 25 เท่า เช่นเดียวกัน
สะพาน แขวนโกลเด้นเกทข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ของจริงนั้นเฉพาะช่วงกลางสะพานก็มีความยาวถึง 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2480 ถึงวันนี้ก็ยังเป็นสะพานที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองซานฟรานซิสโก
เห็น ที่แรกยังนึกอยู่ว่าเป็นโรงสีที่ไหนสักแห่ง อ่านป้ายเข้าถึงได้รู้ว่าเป็นการจำลองศูนย์อวกาศเคนเนดี้ ซึ่งเป็นฐานปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศที่สำคัญขององค์การบริหารการบินและอวกาศ แห่งชาติ หรือ องค์การนาซา National Aeronautics and Space Administration – NASA อยู่ที่แหลมคานาเวอรัล มลรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
อนุสาวรีย์ เสาหินแท่งสี่เหลี่ยมลาดเอียงยอดเป็นรูปพีระมิดที่ฝรั่งเรียกว่า Obelisk (น่าจะออกเสียงว่า ออบบะลิสค์) ซึ่งสูงที่สุดในโลก คือสูง 555 ฟุต กับอีก 5 นิ้ว ถ้าคิดเป็นเมตรก็ได้ประมาณ 169 เมตรกว่า ๆ ชื่อเรียกของอนุสาวรีย์แห่งนี้ก็คือ Washington Monument อยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรก มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ.2431 ของจำลองเล็กกว่าของจริงอยู่ 8 เท่า
อนุสรณ์ สถานลินคอล์น หรือ ลิงเคิล์น Lincoln Memorial ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ย่อส่วนให้เล็กลงมา 8 เท่า เหมือนกัน ของจริงสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2465 เพื่อรำลึกถึง อับราฮัม ลิงเคิล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐฯ ผู้ต่อต้านระบบทาส และเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกลอบสังหาร
อาคาร รัฐสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันดีซี มีชื่อเรียกว่า United States Capital ซึ่งก็เคยสับสนอยู่กับความหมายของวลีเดียวกันแต่ในความหมายว่า เมืองหลวงของสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงกรุงวอชิงตันดีซี พิธีวางศิลาฤกษ์ทำเมื่อ พ.ศ.2336
อาคารรัฐสภาคองเกรสฉบับจำลองย่อส่วนให้เล็กกว่าของจริง 8 เท่า อาคารของจริงนั้นสถาปัตยกรรมเป็นแบบอเมริกันนีโอคลาสสิค
ทำเนียบ ขาว White House ซึ่งเป็นทั้งที่ทำงานและบ้านของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ที่ถนนเพนซิลวาเนีย ในกรุงวอชิงตันดีซี สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2343 มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 5,100 ตารางเมตร ถูกจำลองแบบมาสร้างให้มีขนาดเล็กกว่าของจริง 8 เท่า
แก รนด์แคนยอน Grand Canyon ในมลรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นร่องผาหินที่หน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร และหุบเหวซึ่งมีความยาวถึง 450 กิโลเมตร เป็นการกัดกร่อนชั้นหินของกระแสน้ำโคโลราโดที่เชี่ยวกราก ส่วนน้ำตกที่ทำจำลองมาเดาเอาว่าน่าจะเป็นน้ำตก ฮาวาสุ Havasu ที่ค่อนข้างจะดูจะมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันมากหน่อย
ปลาย ทางเดินเป็นการจำลองจตุรัสแดง หรือ Red Square ที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย มาทั้งจตุรัสในสัดส่วนย่อให้เล็กลงมา 8 ส่วน ซึ่งก็จะได้เห็นทั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พระราชวังเครมลิน สุสานเลนิน มหาวิหารเซนต์บาซิล ซึ่งเขาจำลองมาแม้กระทั่งอัฒจันทร์นั่งดูการสวนสนาม อายุของสิ่งก่อสร้างแถวนี้อยู่ที่ 500-600 ปี คำว่า สีแดง ในภาษารัสเซียใช้ว่า Krasnaya คราสนายา แปลว่า ความงดงาม เพื่อให้แดงกันทั้งหมด แม้แต่กำแพงพระราชวังเครมลินก็ยังเป็นสีแดง
พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์แห่งชาติ State Historical Museum ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัส สีของอาคารก็ยังเป็นสีแดงด้วยเหมือนกัน ที่เห็นเป็นหอคอย หรือ Tower ปลายยอดบนเป็นดาวห้าแฉก ทางซ้ายมือหวิดหลุดภาพ เป็น 1 ใน 20 หอคอยรอบพระราชวังเครมลิน หอนี้น่าจะชื่อ Senetskaya
สุสาน เลนิน Lenin Mausoleum ของจริงนั้นภายในจะมีโลงแก้วคริสตัลซึ่งใช้บรรจุร่างของอดีตประธานาธิบดีวลา ดิมีร์ เลนิน สร้างเมื่อ พ.ศ.2473 ตัวอาคารสร้างด้วยหินแกรนิตและต้องเป็นสีแดงด้วย
อีกหอคอยหนึ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงพระราชวังเครมลินชื่อ Spasskaya มีความแตกต่างกับหออื่น ๆ ตรงที่เป็นหอนาฬิกา
มหา วิหารเซนต์บาซิล สร้างเมื่อ พ.ศ.2095 เมื่อตอนที่สร้างเสร็จแล้วมีเรื่องเล่าว่าพระเจ้าอีวานที่ 4 ได้เห็นความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ จึงสั่งให้ควักลูกตาสถาปนิกคนออกแบบออก เพื่อที่จะได้ไม่ไปออกแบบสร้างอะไรที่สวย ๆ แบบนี้ขึ้นมาอีก ลักษณะเด่นของมหาวิหารหลังนี้ก็คือโดมยอดแหลมลายเกลียวที่เรียกกันว่า โดมหัวหอม Onion Dome ด้านหน้ามหาวิหารมีอนุสาวรีย์สำริดฉลองชัยชนะกับสงครามนโปเลียนอยู่ด้วย
ถึง ป้ายสุดท้ายเป็นป้ายบอกทางไปสถานที่ที่เห็นต้องมีอยู่ทุก ๆ ประเทศ บางทีไม่ต้องทันได้เห็นป้าย แค่เดินผ่านได้กลิ่นโชยก็นึกออกว่าเป็นสถานที่อะไร เดินเที่ยวมาทั้งโลกอั้นมาตลอดทาง ขอแวะไปถ่ายแบบไม่มีรูปต่อท้ายสักแป๊บหนึ่งก็แล้วกัน !!!