ในสัปดาห์ที่แล้ว สภาสูงแห่งสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายควบคุมการบริโภคหูฉลามอย่างเข้มงวดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสความต้องการในภัตรคารจีนที่ยังสูง อนาคตของปลาฉลามสัตว์โบราณ ก็ยังคงตกอยู่ในอันตรายใกล้สูญพันธุ์
และนรกที่น่ากลัวที่สุดของฉลาม ก็คือ ฮ่องกง ซุปหูฉลามกลายเป็นเมนูพื้นฐานตามภัตรคารและงานเลี้ยงฉลองแต่งงานระดับไฮเอน จนการค้าหูฉลามในฮ่องกงเฟื่องฟู ด้วยสัดส่วน 80 เปอร์เซนต์ของการค้าหูฉลามโลก จากตัวเลขของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฮ่องกงเป็นผู้นำเข้าหูฉลามรายใหญ่สุดของโลกในปี 2551 โดยซื้อหูฉลามกันมากถึง 10,209 ตัน มูลค่าราว 277 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ผู้มีเมตตาจิตช่วยกันสร้างกระแสต่อต้านการกินหูฉลาม คู่แต่งงานบางคู่หันมาจัดงานเลี้ยงปลอดหูฉลาม กระทั่งเหล่าดารานักแสดงฮ่องกง อย่างแจ๊คกี้ ชาน ซุปเปอร์สตาร์นักบาสเก็ตบอล เหยา หมิงจากแผ่นดินใหญ่ และผู้กำกับภาพยนตร์ระดับอินเตอร์อย่าง อั้ง ลี่ (หลี่ อัน) เข้าร่วมขบวนอนุรักษ์ปลาฉลาม กระแสเขมือบหูฉลามก็ยังคึกคักไม่ตก
ตัวอย่างสารคดีการล่าฉลาม (youtube)
ปัจจุบัน มนุษย์ยังไล่ล่าฉลามกันมากถึงสิบล้านตัวในแต่ละปี ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม โดยตัดครีบที่เอามาทำหูฉลาม แล้วก็โยนฉลามชะตาขาดคืนสู่ทะเลไป ซึ่งเจ้าปลาไร้ครีบแหวกว่ายน้ำจะไปไหนได้ นอกจากนรก ในสหรัฐฯเริ่มห้ามหูฉลามกันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และกฏหมายที่เพิ่งคลอดใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้ถมช่องโหว่ของกฎหมายฉบับเก่า แต่ก็ยังไม่ได้ห้ามการขายหูฉลามตามภัตรคารจีนในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทั้งการรณรงค์ฯ และการออกกฎหมายเพื่อหยุดยั้งการบริโภคหูฉลาม ก็ยังไม่อาจสร้างความหวั่นไหวกลุ่มผู้ค้าหูฉลาม พวกเขายังได้โต้ตอบอย่างเกรี้ยวโกรธ ว่ากลุ่มรณรรงค์กำลังทำลายวัฒนธรรมอาหารจีน “พวกกลุ่มสีเขียวเที่ยวโฆษณาบอกให้ผู้คนเลิกกินหูฉลาม พวกเขากำลังล้างสมองคน” Mak Ching-po ประธานผู้ค้าอาหารทะเลแห้งแห่งฮ่องกง กล่าว.
ภาพหูฉลามที่มีวางขายกันเกร่อในฮ่องกง (ภาพเอเอฟพี)
ชาวประมงนำปลาฉลามที่พึ่งจับมาย้ายจากเรือประมงมาที่ชายหาด และตัดครีบของมัน ขายให้ลูกค้าในทันที
สัตว์ที่ได้ฉายานามว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ใต้ทะเล – ปลาฉลาม คงไม่นึกไม่ถึงว่า ครีบของตัวเองจะนำพาภัยพิบัติสู่ตน ครีบปลาฉลาม หรือที่คนเรารู้จักและนิยมกันดีในนามหูฉลาม ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร ซึ่งครีบที่ว่ารวมด้วยครีบหลัง สองข้างตัว และครีบหางปลา เป็นต้น อันที่จริงแล้วหูฉลามไม่ได้มีรสชาดอะไรเลย หูฉลามที่เรากินกันอยู่ประจำ ที่มีรสชาดเลิศลิ้น นั้นล้วนมาจากเครื่องปรุงที่เสริมเข้าไป จากการวิจัย ครีบปลาฉลามเหล่านี้ไม่ได้มีคุณค่าทางสารอาหารมากไปกว่าอาหารอื่นๆ เลย อาจจะน้อยกว่าแบรนด์ซุปไก่หนึ่งกระปุกด้วยซ้ำ (ถึงกระนั้นก็ไม่ควรกินเช่นกัน) แถมยังจืดชืด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจ ไม่พ้นไปจากจำนวนที่มีน้อย และราคาอันสูงของหูฉลาม เป็นอาหารที่หาได้ยาก และยังเป็นตราประทับของความสูงส่งในยศถาบรรดาศักดิ์
ชาวประมงใช้มีดกรีดครีบปลาฉลาม
เนื่องจากหูฉลามนั้นมีราคาสูง การตลาดก็กว้างใหญ่ การล่าปลาฉลามยิ่งหนักขึ้นทุกวันๆ ปลาฉลามถูกฆ่าจำนวนมาก ทำให้จำนวนปลาฉลามทั้งโลกนั้นลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว บวกกับการแพร่พันธุ์ของปลาฉลามนั้นไม่มากเท่าไหร่นัก กว่าปลาฉลามจะโตถึงวัยผสมพันธุ์ ต้องใช้เวลา 10-15 ปี ส่วนใหญ่ก็จะผสมพันธุ์วางไข่กันหนึ่งครั้งต่อสองปี ด้วยเหตุนี้เอง ปลาฉลามจึงต้องเผชิญกับปัญหาสูญพันธุ์ที่กำลังคืบคลานเข้ามา องค์การอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งโลกได้ทำการคาดประมาณเอาไว้ในปีหนึ่งว่า การค้าขายปลาฉลามทั่วโลกนั้นมีมากถึง 1 แสนตัน ทุกๆ ปีปลาฉลามที่ต้องถูกฆ่ามีมากถึง 38-70 ล้านตัว !
เมื่อถูกตัดครีบออกแล้ว ซากศพปลาฉลามก็ถูกวางไว้ด้วยกัน เพื่อรอจำหน่าย
ปลาฉลามนั้นเป็นสิ่งสำคัญในวงจรปิรามิดในทะเล การลดจำนวนของปลาฉลามจะนำมาซึ่งปัญหาคุกคามของระบบความสัมพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (ecosystem) ในทะเล เป็นเหตุให้ปลาฉลามต้องสูญพันธุ์ และยังก่อปัญหาต่างๆ ต่อ ecosystem ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกด้วย ยกสัตว์บกเป็นตัวอย่าง สิงโตที่ต้องล่าสัตว์กินพืชมาเป็นอาหาร ถึงแม้จะดูโหดร้าย แต่มันก็เป็นการกำจัดสัตว์ที่มีสายพันธุ์(gene) ที่ไม่ดีออกไป กวาดล้างสัตว์ที่อ่อนแอ มีโรค ให้ตัวที่มีกำลังกายแข็งแรง มี gene ที่ดีๆ ดำรงชีวิตสืบทอดต่อไป เช่นกัน ปลาฉลามนั้นก็มีบทบาทเดียวกัน
ชาวประมงนำปลาฉลามย้ายขึ้นรถเพื่อทำการบรรทุกออกไป
ชาวชาวประมงวัดความยาวของหูฉลาม
ถ้าดูจากมุมมองของชีววิทยา ปลาฉลามนับเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าพิสมัยยิ่งนัก ประเด็นแรก ปลาฉลามนั้นกำเนิดมาก่อนไดโนเสาเสียอีก คาดประมาณว่าได้มีปลาฉลามอยู่แล้วเมื่อ 250 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะหลายอย่าง มีประสาทการฟังและการดมกลิ่นที่เฉียบแหลมมาก ปลาฉลามหลายสายพันธุ์สามารถได้ยินเสียงปลาที่ว่ายน้ำอยู่ไกลถึง 2 กิโลเมตรออกไป และยังสามารถดมกลิ่นคาวเลือดอ่อนๆ ที่อยู่ไกลตัวได้อีกด้วย
ชาวประมงคนหนึ่งที่กำลังนั่งรอคนมาซื้อหูฉลาม
ถึงแม้สายตาของปลาฉลามจะอ่อน แต่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในน้ำทะเลที่มืดมิดได้ จำนวนสายพันธุ์ปลาฉลามที่พอรู้กัน ก็มีมากถึง 350 พันธุ์ แถมยังมีสติปัญญาเป็นเลิศอีกด้วย
นักค้าหูฉลามนำหูฉลามสดๆ เหล่านี้ส่งไปยังโรงงาน ณ อีกเมืองหนึ่ง เพื่อทำการตากแห้งและแปรรูป แล้วจึงส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก สุดท้ายครีบปลาเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นอาหารจานเด็ดมื้อหนึ่ง บนโต๊ะอาหาร
ปลาฉลามหลั่งโลหิต ตายอย่างทรมาน ...
ชาวประมงเมื่อจับปลาฉลามมาได้แล้ว ก็จะกรีดสมบัติของมัน – ครีบบนลำตัวทั้งหมด ออกมาทั้งเป็นๆ แล้วก็นำปลาฉลามไร้ครีบที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ทิ้งกลับลงไปในทะเล เนื่องจากว่าครีบทั้งหมดของมันได้ถูกตัดออกไปแล้ว มันจึงไม่สามารถว่ายน้ำ ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย ได้แต่จมอยู่ใต้ทะเล รอความตายที่จะมาเยือน และโดยส่วนใหญ่พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่หลายวัน จึงจะตายด้วยความหิว !
เนื่องจากการพัฒนาของเศรษฐกิจ นับวันยิ่งมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีกำลังเงินที่จะกินหูฉลามราคาแพง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุให้ปลาฉลามลดจำนวนลงอย่างฉับพลัน ทำให้ปลาฉลามเผชิญปัญหาสูญพันธุ์
เนื่องจากว่า ส่วนที่มีค่าที่สุดบนตัวปลาฉลาม ก็คือหูฉลามที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ และด้วยเหตุที่ว่าร่างกายปลาฉลามนั้นใหญ่ การบรรทุกปลาฉลามหนึ่งตัว พื้นที่ที่ใช้ สามารถนำมาบรรจุหูฉลามของปลาสิบกว่าตัว เมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สุดท้ายพวกเรานั้นก็ได้แต่ตักหูฉลามใส่ปากเพื่อความเห่อเหิมในชื่อเสียงยศศักดิ์ และความมั่งมี
อันที่จริงสิ่งที่เรากินกันอยู่ ไม่ใช่หูฉลาม แต่เป็นความต้องการของสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความมั่งมี ในงานแต่งงาน หากไม่มีหูฉลามในเมนู ก็จะโดนผู้คนว่าลับหลังเอาได้ ว่าเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียว ในสังคมปัจจุบันนี้ ปลาฉลามได้กลายเป็นเครื่องหมายของความมั่งมีไปเสียแล้ว
ทุกวันนี้ เพื่อหูฉลาม เพื่อปลาฉลาม มนุษย์เรานั้นออกล่าปลาอย่างไร้ขอบขีด และยังปัญหาน้ำทะเลเป็นพิษ ตัวปลาฉลามเองนั้นจะมีสารพิษสั่งสมอยู่ซักเท่าไหร่ .. ก็ยากที่จะกล่าว
มีชาวประมงคนหนึ่งเคยแถลงว่า อันที่จริงตัวปลานั้นก็มีราคาพอสมควร มีกรณีเดียวเท่านั้นที่ชาวประมงทั้งหลายจะทำอย่างนี้ คือปลา Frilled Shark หรือที่รู้จักกันในฉายานามว่า “ปลาเน่า” เพราะว่าปลาฉลามพันธุ์นี้ ช่วงลำตัวจะเป็นน้ำ(ส่วนของเหลว)เสียส่วนใหญ่ จึงไม่มีค่าในตลาดเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น ชาวประมงจะตัดครีบปลาออก แล้วใช้ตัวปลาเป็นเหยื่อ เมื่อเหยื่อปลามีมากพอแล้ว แต่ยังคงจับได้ปลาพันธุ์นี้อีก จึงเป็นเหตุให้ชาวประมงต้องปล่อยปลาลงทะเล
เมื่อชาวประมงจับปลาฉลามมาได้ ก็จะทำการกรีดครีบปลาฉลามทั้งหมดทั้งเป็น แล้วปล่อยปลาฉลามกลับลงทะเล จากนั้นปลาฉลามก็ได้แต่นอนรอความตายอยู่ใต้ทะเลลึก ในช่วงเวลานี้ ปลาฉลามจะพยายามพลิกตัว แต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะว่าครีบทั้งหมดของมันได้ถูกตัดไปแล้ว ทั้งครีบหาง หน้าอก และบนหลัง จนเวลาล่วงไปไม่รู้กี่วัน มันจึงจะตายไปด้วยความหิวกระหายและสูญเสียเลือดจำนวนมาก หรือว่าคนที่ตายไปนั้นก็คือตายไป แต่ปลาฉลามที่ตายไปนั้น สมควรตาย!
ในภาพยนต์เรื่อง The Matrix มีบทสนทนาตอนหนึ่ง มีโรบอทตนหนึ่งได้พูดว่า ขณะที่เขากำลังทำวิจัยเกี่ยวกับการแยกแยะหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต เขาค้นพบว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นมีคุณูปการต่อโลกนี้อย่างมากมาย แต่ทว่ามนุษย์ ถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน กลับมีแต่จะทำลายโลกนี้ ทุกที่ที่มนุษย์ไปถึง จะใช้ทรัพยากร ณ ที่นั้นจนหมดสิ้น และการกระทำนี้ มันช่างคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ไวรัส !
ล้อมจับ
ตัดหูฉลามทั้งเป็น
ตัวปลาฉลามที่เต็มไปด้วยบาดแผล
ครีบแล้วครีบเล่า .. ชิ้นแล้วชิ้นเล่า ..
ปลาฉลามไร้ครีบถูกปล่อยกลับลงไปในทะเล