พบสรวงสวรรค์ ณ ขอบจักรวาล
(นิตยสาร "เจาะโลกพิศดาร"ปีที่ 1 ฉบับที่ 21 ปักษ์หลัง ตุลาคม 2539 หน้า 18)
วิชิงตัน - นักวิทยาศาสตร์ นาซ่ากำลังศึกษาภาพถ่ายอันมหัสจรรย์นับร้อยๆภาพ ที่ถูกถ่ายโดยกล้องอวกาศฮับเบิล และจะเผยแพร่ภาพแห่งสรวงสวรรค์ต่อสาธารณชนเร็วๆนี้
ทั้งนี้ตามการเปิดเผยของนักวิจัยนักเขียน "ด็อกเตอร์ มาเซียแมสซัน" ผู้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาซ่า ถึงผลงานของกล้องอวกาศฮับเบิล ที่ถ่ายรูปสรวงสวรรค์ส่งกลับยังศูนย์อวกาศ กอดดาร์ดในกรีนเบลต์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1996
รูปภาพเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงเมืองสีขาวอันกว้างใหญ่ ลอยอยู่ ณ ขอบจักรวาลอันมืดมิด
"รูปภาพเหล่านี้จะต้องเป็นสรวงสวรรค์แน่นอน เพราะเท่าที่รู้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถดำรงตนอยู่ในสภาพหนาวเย็นของห้วงอวกาศ ที่ปราศจากอากาศหายใจ นั่นพิสูจน์ถึงการรอคอยของพวกเราที่จะไม่สูญเปล่า"
"ด็อกเตอร์ มาเซียแมสซัน"กล่าวและยอมรับว่าปกติตนเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องศาสนาหรือเชื่อมั่นศรัทธาในพระเจ้า แต่เมื่อเห็นรูปถ่ายนั้นแล้ว ก็ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่านั่นเป็นฝีมือของใครอื่น นอกจาการเนรมิตของพระเจ้า พระผู้สร้างจักรวาลอันกว้างใหญ่
แม้ว่าโฆษกของนาซ่าจะปฎิเสธการให้ความเห็นต่อการกล่าวอ้างของแมสซัน แต่แหล่งข่าวภายในก็ยืนยันว่า มีการค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของมนุษยชาติทั้งมวล
แหล่งข่าวภายในองค์การนาซ่ายังเปิดเผยต่อไปอีกว่า ทั้งประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน และรองประธานาธิบดีอัลกอร์ ต่างก็ให้ความสนใจต่อภาพถ่าย ที่ได้มาและสั่งให้รายงานเรื่องนี้ให้ทราบทุกกวันว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
ครั้งแรกที่ได้ภาพมาทุกคนคิดว่าคงเกิดจากการเล่นตลกของสีแสงในห้วงอวกาศ แต่เมื่อทำการวิเคราะห์ตรวจสอบและเช็คข้อมูลครั้งแล้วครั้งเล่า ก็จำเป็นต้องยอมรับอย่างปราศจากข้อกังขาว่า ภาพนั้นเป็นของจริง แต่ก็ยังติดขัดตรงทฤษฎีที่ว่า เป็นไปไม่ได้ที่เมืองที่เห็นในรูปภาพจะเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใดๆ
"คำอธิบายที่สมเหตุสมผลตามหลักตรรกะก็คือ เมืองนั้นเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ หรืออีกนัยหนึ่งเป็นทิพยวิมานของพระเจ้า
"ด็อกเตอร์ มาเซียแมสซัน"ว่า ทั้งยืนยันอีกว่า เรื่องนี้เป็นที่สนอกสนใจ ขององค์พระประมุขแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธิลิก คือ "โป๊ป จอห์น ปอล ที่2" ด้วย แม้เจ้าหน้าที่ภายในสำนักวาติกันจะไม่ได้ออกมายืนยัน หรือปฎิเสธก็ตามที