ปรากฏการณ์ความน่ารัก 1 ล้านคลิกของ “ถามสักคำ”/ต่อพงษ์ โดย ต่อพงษ์ 26 ธันวาคม 2553 17:28 น.   คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

คราวที่แล้วเขียนเรื่องของการตัดช่องน้อยแต่พอตัวสำหรับวงคาราบาวไปแล้ว จะว่าไปยุคนี้แล้วใครๆ ก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหล่ะครับ เพียงแต่ทำกันจริงหรือทำกันเล่นๆ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
       
        อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่า ปรากฏการณ์ใหม่ทางดนตรีของไทยในปีนี้นั้นไม่มีเลย เรื่องน่าเจ็บปวดก็คือ อาจจะเป็นเพราะ เราไม่มีต้นแบบทางความคิดใหม่ๆ ให้เราเลียนแบบ เพราะงานเพลงทางต่างประเทศนั้น ปีนี้ก็ซบเซาใช่เล่นและไม่ได้มีแนวทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นแต่ประการใด
       
        ส่วนใหญ่ หรือ ถ้าไม่รวมฮิตก็เป็นงานรวมเพลงตามคอนเซ็ปท์ ทางที่เลือกใช้กันมากหน่อยสำหรับกลุ่มศิลปินก็คือ การหาคนมา Featuring ด้วย เป็นการผสมข้ามแนว ข้ามเผ่าพันธุ์ทางดนตรี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาตันกันเหมือนกัน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงแนวดนตรีของตัวเองอย่างวงสเลอ เป็นต้น...ซึ่งก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไปว่าแนวทางใหม่นั้นจะดีกว่าเดิมหรือ เปล่า
       
        แต่โดยรวมต้องบอกว่าเป็นปีที่ศิลปินไทยเองน่าจะหันมาทบทวนว่า จะทำอะไรให้มันแปลกใหม่ดีให้สู้กับพายุดนตรีจากแดนกิมจิที่เข้ามาแย่งตลาดจน กระทั่งตอนนี้ทั้งตัวค่ายเอง ทั้งโปรโมเตอร์เองต่างก็โหมโปรโมตและจัดงานเปิดตัวกันอยู่เนืองๆ แถมยังได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มคนฟังเดียวกันเสียด้วย
       
        เรื่องน่าคิดก็คือ ในเวลาสั้นๆ งานเพลงจากเกาหลีเหล่านี้สามารถสร้างให้เกิดความจงรักภักดี ในกลุ่มคนฟังคนไทยได้อย่างไร จะว่าเขาสร้างภาพ แต่ของเราก็ถนัดในการสร้างภาพเช่นกันไม่ใช่หรือ ด้วยวิธีการคล้ายๆ กัน (อัดมิวสิกวิดิโอ+เล่นละคร+อัดเพลงในวิทยุซึ่งค่ายเป็นเจ้าของ) ทำไมถึงได้ทำไม่ได้
       
        โชคดีที่ความซบเซาในปีนี้ของวงการเพลงมามีแรงกระเพื่อมขึ้น จากข่าวของอัลบั้มเล็กๆ ที่ชื่อ “ความรัก ปากกา กีตาร์โปร่ง” และหนึ่งในนักร้องที่ชื่อ “นิว” ปทิตตา อัธยาตมวิทยาในเพลง “ถามซักคำ” และได้โพสต์ไว้ในยูทูบ http://www.youtube.com/watch?v=94KUHRT5XHw&translated=1 จนมีคนดูเข้าไปคลิกดูมากกว่า 1 ล้านคลิกอาจจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็เป็นได้
       
        เพลงนี้เขียนและแต่งโดยนาย แจ็ค รัสเซล ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นฝรั่งหรือไทย แต่ที่แน่ๆ มันเบา มันบาง และฟังสบายๆ โดยตัวเพลงนั้น ผมฟังแล้วนึกถึงเสียงร้องของบรรดานักร้องใน “โดโจ มิวสิค” ของคุณ Z สมเกียรติสมัยก่อน คือ เสียงแง้วๆ แบบนั้นนะครับ แต่โครงสร้างของเพลงดีและผ่อนคลายเหลือใจ ผลจากมิวสิกฯ และความแง้วของน้องเขาทำให้เพลงนี้ไปขึ้นอันดับ 1 ของมิวสิกฯ ที่มีคนอยากฟังและดูมากที่สุดในไต้หวัน
       
        เมื่อบวกกับมิวสิกวิดิโอที่เค้นความน่ารักในทุกๆ วินาทีของน้องนิวเขา...ปรากฏการณ์ล้านคลิกจึงเกิดขึ้น!! (โอเค ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะว่า หน้าตาน้องเขาเหมือนนักร้องไต้หวันคนหนึ่งก็เป็นไปได้) ส่วนเมื่อได้ล้านคลิกแล้ว มันจะส่งผลให้งานนี้ส่งออกไปขายยังไต้หวันหรือฮ่องกงได้หรือไม่นั้นเป็นอีก กรณีหนึ่ง เพราะในไทยเองก็คงขายได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
       
        ถามผมว่าผมชอบมิวสิกฯ และเพลงนี้ไหม ก็ต้องตอบว่าชอบครับ แม้จะรู้สึกว่าน้องนิวในมิวสิกฯ นี้จะเค้นความน่ารักจนทะลุปรอท เพราะทุกอิริยาบทของน้องเขา...ง่า เรียกว่าทุกวินาทีบนมิวสิกฯ ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม การเล่นหูเล่นตา การยักคิ้ว (โดยเฉพาะนาทีที่ 2.27) การพลิกใบหน้าไปตามมุมกล้องต่างๆ อิริยาบทที่นั่งอยู่ชายหาด หรือแม้กระทั่งไปเล่นนิ้วบนราวบันได...แหมมันคือการจัดแจงและจัดการให้เกิด ความน่ารักชนิดพุ่งพรวด ผู้หญิงด้วยกันเห็นอาจจะสวดว่า ดัดเกิน หรือ ใส่จริตมากเกิน หรือ มันเค้นเกิน...แต่สำหรับผู้ชายดูแล้วก็ต้องบอกว่า...น่ารักจนลืมฟังเพลง!!
       
        แต่จะน่ารักเกินธรรมชาติหรือเปล่านั้นผมตอบไม่ได้ถนัด แต่ที่แน่ๆ มันคือความแตกต่างที่มีอยู่ในสังคมมิวสิกวิดิโอไทยและกระแสมิวสิกวิดิโอยอด ฮิตจากเกาหลีทั้งมวล
       
        เพลงนี้ไม่มีกางเกงสั้นจู๋ เพลงนี้ไม่มีหน้าท้องบ๊ะๆ ไม่มีการโพสต์ท่าลูบไล้ตัวแล้วร้องอ๊ะๆๆ เพลงนี้ไม่มีผู้ชายมาร่วมทำท่าเหมือนอยากจะร่วมเพศโชว์ เพลงนี้ไม่มีการทำปากจู๋เหมือนอมพริกชี้ฟ้าเล่น เพลงนี้ไม่มีแม้กระทั่งร่องอก เพลงไม่มีแม้กระทั่งความแข็งแรงของการเต้น บอดี้ที่จะต้องโยกไปตามจังหวะเร้าอารมณ์...จะมีอยู่ก็แค่ศัลยกรรมจิ๊ดๆ ที่จมูกหรือที่ใดที่หนึ่งบนใบหน้า เพราะผมเคยเห็นน้องเขาตอนประกวดดัชชี่ก็เห็นว่าแตกต่างไปนิดหน่อย
       
        สำหรับคนที่ต้องดูมิวสิกฯ หนักๆ หรือดูบ่อยๆ บอกได้คำเดียวว่า...นี่คือทางเลือกที่แตกต่างกับมิวสิกฯ ในตลาดอย่างแน่นอนที่สุด ความเรียบง่ายของมันทำให้ดูดี ดูสบาย..ส่วนจะฟังสบายหรือไม่นั้น คุณต้องฝ่าด่านความน่ารักของน้องเขาไปให้ได้ก่อน 555555
       
        ที่ผมคิดก็คือ มันแสดงให้เห็นเหมือนกันว่า ถ้าคนไทยอีกส่วนของสังคมคนฟังเพลงตอบรับกับมิวสิกฯ แนวนี้และความดูมีสกุลของน้องเขา ค่ายเพลงใหญ่ๆอาจจะต้องมาคิดใหม่เหมือนกันว่า คนไทยไม่ได้เห็นความเซ็กซี่แล้วก็วิ่งเข้าโม้ะกันอย่างเดียว ไอ้ที่เบื่อและอยากจะหาอะไรสบายๆ ฟังกันบ้างมันก็มี
       
        และนั่นอาจจะช่วยให้คนไทยมีทางเลือกมากขึ้นในการฟังเพลงในปีหน้าก็เป็นได้ครับ