เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คนงานในฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งหนึ่งในรัสเซีย จำใจฆ่าลูกเจี๊ยบกว่า 400,000 ตัว ด้วยการเอามันไปปล่อยลงในน้ำที่แสนจะเย็นยะเยือก จนพวกมันหนาวตาย หลังจากที่ฟาร์มถูกสั่งให้ล้มละลายเพราะติดหนี้ค้างชำระภาษี
รายงานระบุว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้ ติดหนี้ค้างชำระภาษีเป็นจำนวนเงินประมาณ 6 ล้านบาท ทำให้ทางฟาร์มไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารมาเลี้ยงไก่นับล้านตัวในฟาร์ม และไม่มีเงินจ้างพนักงานอีกต่อไป ดังนั้น เพื่อเป็นการยุติปัญหาทุกอย่าง ทางฟาร์มไก่แห่งนี้จึงได้ปลดพนักงานออกทั้งหมด และนำไก่ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มกว่าล้านตัว ไปฆ่าทิ้ง โดยการนำพวกมันไปปล่อยลงในน้ำ แล้วปล่อยให้พวกมันแข็งตายจากสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก ซึ่งพนักงานที่จัดการเรื่องนี้ ต่างจำใจที่จะต้องนำมันไปฆ่า เพราะหมดหนทางที่จะจัดการกับพวกมันจริง ๆ บางคนถึงกับร่ำไห้ขณะนำพวกมันไปทิ้งเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ ทางฟาร์มไก่ได้ขอความช่วยเหลือไปยังนายกรัฐมนตรีวลาดิเมีย ปูติน แห่งรัสเซีย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ และดูเหมือนรัฐบาลจะเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงแก้ปัญหาด้วยการนำพวกมันไปฆ่าทิ้งโดยปล่อยให้หนาวตายแล้วกว่าล้านตัว เป็นลูกเจี๊ยบกว่า 400,000 ตัว และขณะนี้ก็ยังมีไก่อยู่อีกกว่า 3 ล้านตัวที่กำลังจะถูกกำจัดด้วยวิธีการเดียวกันนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากสื่อมวลชนได้เผยแพร่เรื่องราวสุดสลดนี้ ก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนมากมายว่า เหตุใดทางฟาร์มจึงไม่ขายไก่ที่มีอยู่ให้กับฟาร์มไก่ฟาร์มอื่นเพื่อนำไปเลี้ยงต่อไป ขณะเดียวกันที่บรรดาคนงานที่นำไก่ไปทิ้งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเธอจำใจนำมันไปทิ้ง และมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า รู้สึกไม่ต่างจากแม่ที่กำลังจะฆ่าลูกตัวเองเลย นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองเลือดเย็นที่ต้องทำกับพวกมันแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเธอมีหน้าที่ดูแลพวกมันให้มีสุขภาพดี แต่ตอนนี้พวกเธอจำเป็นต้องฆ่ามันด้วยน้ำมือของพวกเธอเอง แต่พวกเธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ เพราะไม่อาจจะเลี้ยงดูไก่จำนวนมหาศาลนี้ได้