การสร้างสรรผลงานศิลปะมีอยู่หลายวิธี ศิลปินบางคนถนัดวาดซึ่งการวาดก็มีหลายประเภท เช่น วาดด้วยดินสอดำ ดินสอสี สีน สีน้ำมัน บางคนก็ชอบแกะสลักไม้หรือหินอ่อน บางคนชอบปั้น ศิลปะสมัยใหม่เพิ่มรูปแบบในการสร้างสรรงานผลงานเข้าไปอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นที่ทำจาก fiberglass การสร้างสรรผลงานศิลปะด้วยการแสดงหรือการสร้างสรรผลงานศิลปะด้วยการสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาคือ installaton art หรือการเล่นกับธรรมชาคิที่เรียกกันว่า land art มีศิลปินคู่หนึ่งและน่าจะเป็นเพียงคู่เดียวในโลกที่ชื่นชอบกับการสร้างสรรผลงานศิลปะในรูปแบบของinstallation art และ land art ศิลปินคู่นี้คือ Christo และ Jeanne Claude
Christo เป็นชายและ Jeanne Claude เป็นหญิง ทั้งคู่เกิดวัน เดือน และปีเดียวกัน คือวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1935 ชอบงานศิลปะเหมือนกันและเป็นสามีภรรยากัน ทั้งคู่อาศัยอยู่ในกรุง New York แต่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อสร้างสรรผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือการห่อและการปัก Christo และ Jeanne Claude เริ่มต้นทำงานในปี ค.ศ.1958 ด้วยการห่อของเล็กๆเช่นถังน้ำมันลูกกลมๆหลายใบก่อน ต่อมาในปี ค.ศ. 1961 จึงเริ่มห่อสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น ห่อต้นไม้ ห่อสะพาน ห่อตึก นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังชอบปักและคลุม เช่น ปักประตูผ้าในสวนสาธารณะ คลุมชายหาดรอบเกาะ รวมถึงการเล่นสนุกกับธรรมชาติ เช่นการสร้างเขื่อนที่ทำด้วยผ้า พวกเขาไม่สามารถขายและไม่สามารถเก็บผลงานของตัวเองเอาไว้ได้ เมื่อแสดงผลงานเสร็จแล้วก็ต้องรื้อออก เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำที่สวยงามเท่านั้น
Christo สามีเกิดที่ประเทศบุลกาเรีย เรียนศิลปะที่มหาวิทยาลัย Sofia ย้ายไปอยู่ Prague,Vienna และ Paris ส่วนภรรยา Jeanne Claude เกิดที่ประเทศโมรอคโค เรียนปรัชญาที่มหาวิทยาลัยในประเทศ Tunisia ทั้งคู่เดินทางมาที่กรุง Paris พบกันและแต่งงานกันในปี ค.ศ. 1958 แรกเริ่มของการสร้างสรรผลงาน ทั้งคู่ใช้ชื่อ Christo แต่ต่อมาจึงใช้ชื่อร่วมกันคือ Christo and Jeanne Claude แม้จะต้องเดินทางบ่อย แต่สามีภรรยาคู่นี้ไม่ยอมเดินทางโดยเครื่องบินลำเดียวกันเพราะคิดว่าหากเครื่องบินตก ก็ยังมีอีกคนอยู่ทำงานต่อไป
เหตุผลในการสร้างงานศิลปะในแบบของ Christo และ Jeanne Claude ก็คือต้องการให้ผู้คนเห็นสิ่งที่เห็นอยู่เป็นปกติประจำในอีกรูปแบบหนึ่ง จึงนำเสนอมุมมองใหม่ในของสิ่งเดียวกัน ผลงานที่น่าสนใจมีอยู่มาก ค.ศ. 1970 โครงการ Valley Curtain เป็นการขึงผ้าระหว่างภูเขา ใช้ผ้าสีส้มยาว 400 เมตร คิดเป็นเนื้อที่จำนวน 14,000 ตารางเมตร ขึงด้วยสายเคเบิลไว้ที่หุบเขา Rocky Mountain ในเมือง Colorado สหรัฐอเมริกา
ค.ศ. 1983 โครงการ Surrounded Islands
ใช้ผ้าสีชมพูสดคลุมชายฝั่งรอบเกาะเล็กๆจำนวน 11 เกาะ
ในอ่าว Biscayne เมือง Miami สหรัฐอเมริกา
งานนี้ใช้ผ้าถึง 600,000 ตารางเมตร
มองจากบนท้องฟ้าลงมาสวยมาก
น้ำทะเลสีครามตัดกับผ้าสีชมพูสด
ค.ศ. 1984 โครงการ Pont Neuf ประเทศฝรั่งเศส ใช้เวลา 9 ปีกว่าเทศบาลเมือง Paris จะยอมอนุญาต แต่มีเวลาเพียง 2 สัปดาห์ที่แสดงผลงาน ใช้ผ้า 40,000 ตารางเมตรห่อสะพานทั้งสะพานลงไปจนถึงส่วนที่จรดน้ำ รวมทั้งเสาไฟบนสะพานด้วย มีคนกว่า 3 ล้านคนเดินทางมาจากทุกมุมโลกเพื่อมาชม "สะพานของ Christo"
ค.ศ. 1995 โครงการใหญ่ที่สุดของ Christo และ Jeanne Claude ทั้งคู่ห่ออาคารรัฐสภา Rechstag ในประเทศเยอรมัน ใช้เวลาในการขออนุญาตนานถึง 23 ปี ผ้ากว่า 100,000 ตารางเมตรถูกนำมาใช้ห่ออาคารให้ชมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีคนมาชม 5 ล้านคน
ค.ศ. 1998 โครงการห่อต้นไม้ 178 ต้น ใน Berower Park
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองBasel ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ งานนี้ใช้ผ้าสีเงิน 55,000 ตารางเมตร
ห่อต้นไม้ที่แต่ละต้นขนาดและรูปทรงไม่เท่ากัน
ค.ศ. 2005 โครงการ The Gates จัดที่ Central Park กรุง New York เริ่มขออนุญาตในปี ค. ศ. 1979 งานนี้เป็นงานปัก Christo ทำประตูผ้าสีส้มสดสูง 5 เมตรจำนวน 7,503 ประตู ปักเรียงรายตามทางเดินในCentral Park ยาว 37 กิโลเมตร งานนี้ใช้เงินมากถึง 21 ล้านเหรียญ
แม้จะมีอายุ 75 ปี แล้วก็ตามแต่ Christo ก็ยังคงทำงานอยู่ โครงการ Over The River เป็นโครงการที่เตรียมจัดแสดงในหน้าร้อนของปี ค.ศ. 2013 โดยจะใช้ผ้าคลุมช่วงหนึ่งของแม่น้ำ Arkansas ใน Coloradoเป็นระยะทาง 10.8 กิโลเมตร มีเสียงคัดค้านมากเนื่องจากเกรงว่าธรรมชาติอันสวยงามจะถูกทำลาย จริงๆแล้วChristo และ Jeanne Claude คิดโครงการนี้มาตั้งแต่ตอนไปห่อสะพาน Pont Neuf แล้ว แต่กว่าจะพบแม่น้ำที่ถูกใจก็ต้องใช้เวลาร่วม 3 ปี คัดเลือกแม่น้ำ 89 สายให้เหลือสายเดียว ขณะนี้ Christo ใช้เงินส่วนตัวไปแล้วกว่า 6 ล้านเหรียญเพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ออกแบบและเตรียมการอื่นๆ