ปีใหม่นี้ไปเที่ยวไต้หวันด้วยกันป่ะ..!!

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลท่องเที่ยวไต้หวัน


 




ธงชาติประเทศไต้หวัน




ตราประเทศไต้หวัน

ข้อมูลทั่วไป ไต้หวัน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคำว่า “ เมดอินไต้หวัน” ที่ถูกประทับลงบนสินค้ามากมายนับถ้วนนั้นได้สร้างภาพลักษณ์ของประเทศในสายตา ของชาวโลกว่าเป็นเกาะแห่งการอุตสาหกรรม ไม่ใช่เกาะที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไต้หวันเป็นเกาะที่งดงามที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางด้านทัศนียภาพและ วัฒนธรรมไต้หวันเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะเดินทางไป ในประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยา พบว่าไต้หวันเป็นเกาะเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นจากการที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัวมาชนกัน เมื่อ 4 ล้านปีที่แล้ว เกาะไต้หวันนั้นทอดตัวยาวตามขอบตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มียอดเขาสูง หุบเขา หน้าผาสูงชัน กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทะเลสาบ ที่เงียบสงบ เกาะเล็กเกาะน้อยที่แสนจะงดงาม รวมทั้งทัศนียภาพชายฝั่งที่น่าตื่นตา ตื่นใจหลายๆแห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 36,000 ตร.กม.มีรูปร่างคล้ายใบยาสูบคือจะแคบในส่วนปลายทั้งสองข้าง เป็นชายฝั่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย ข้ามกับช่องแคบไต้หวัน จากจีนแผ่นดินใหญ่ แยกเป็นเกาะเดี่ยวๆทางด้านขอบทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ทางเหนือติดกับเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ทางใต้กับประเทศฟิลิปปินส์ มีประชากร 23 ล้านคน มีไทเป เป็นเมืองหลวง ประชาชนส่วนใหญ่เป็นตนจีน ภาษาที่ใช้ในการติดต่อทางราชการ มี 3 ภาษา คือ จีนกลาง ไต้หวัน และ ฮักกา ศาสนาที่ชาวไต้หวันนับถือ ได้แก่ พุทธ ลัทธิเต๋า คริสต์ อิสลาม และ คาทอลิก ไต้หวันมีสภาพอากาศ ค่อนแปรปรวน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส เนื่องจากภูมิประเทศ เป็นเกาะในเขตร้อน ทำให้ค่อนข้างร้อนแต่แดดจะไม่จัดมากนัก ประกอบกับการที่ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกทำให้มีอากาศแบบชื้น ช่วงฤดูใบผลิ และ หนาวอากาศแปรปรวนมาก อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในช่วง 12-17 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน เริ่มต้น เดือนมีนาคม จนถึง พฤษภาคม ฤดูมรสุมอยู่ในช่วงมิถุนายน ถึงสิงหาคม ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงกันยายน จนถึง ตุลาคม จะเข้าฤดูหนาวในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง เดือน กุมภาพันธ์ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาสีสันของต้นเมเปิ้ลและมีฤดูใบไม้ผลิในช่วงเวลา สั้นๆ ประวัติศาสตร์ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์และโบราณคดีเกี่ยวกับไต้หวันมีอยู่ไม่มากนัก เดิมทีไต้หวันเป็นเกาะที่มีชาวพื้นเมืองซึ่งเป็นชาวหมู่เกาะในมหาสมุทร แปซิฟิกอาศัยอยู่มาก่อนสันนิษฐานว่าพวกชาวเกาะมาตั้งถิ่นฐานอยู่ตั้งแต่หมื่นปีมาแล้วในขณะที่ชาวจีนเพิ่งอพยพมาจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาอยู่ที่ไต้หวันในช่วงศตวรรษ ที่ 15 ปี พ.ศ. 2060 (ค.ศ. 1517) นักเดินเรือชาวโปรตุเกสแล่นเรือมาถึงเกาะไต้หวันและได้ตั้งชื่อเกาะนี้ว่า เกาะฟอร์โมซา (Formosa; Ilha Formosa) เป็นภาษาโปรตุเกสแปลว่า "เกาะที่สวยงาม (Beautiful Island)" ในปี พ.ศ. 2167 (ค.ศ. 1624) ชาวดัตช์เข้ามารุกรานและยึดครองเกาะฟอร์โมซา แล้วตั้งบ้านเมืองขึ้นที่ไถหนาน (Tainan) อีก 2 ปีต่อมา กองเรือสเปนยกกำลังเข้ามาบุกรุกแย่งเกาะฟอร์โมซาไปครอง แต่ชาวดัตช์ได้ต่อสู้แย่งชิงเอาเกาะกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2184 (ค.ศ. 1641) ในช่วงปี พ.ศ. 2203 (ค.ศ. 1660) กษัตริย์จีนแห่งราชวงศ์หมิงและแมนจู เริ่มเข้ามามีบทบาทในการครอบครองเกาะฟอร์โมซา ในที่สุดชาวจีนก็ได้ขับไล่ชาวดัตช์ออกไปจนได้ ชาวแมนจูได้ชัยชนะ และผนวกเอาเกาะฟอร์โมซาเข้าไปเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งพักพิงให้ผู้อยู่อพยพจากจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเวลาต่อมา ญี่ปุ่นใช้กำลังแย่งเกาะฟอร์โมซาไปจากจีนในปี พ.ศ. 2438(ค.ศ. 1895) และได้ยึดครองจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2ยุติลง ญี่ปุ่นแพ้สงครามและถูกฝ่ายสัมพันธมิตรบังคับให้ยกเกาะฟอร์โมซาคืนให้กับจีน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้ามามีอำนาจในจีนในปี พ.ศ.2492 (ค.ศ.1949) พรรคก๊กมินตั๋ง พรรคการเมืองเมืองชาตินิยมของจีนที่เป็นฝ่ายแพ้ก็พาผู้คนอพยพหนีออกจากแผ่นดินใหญ่มาตั้งหลักที่ไต้หวัน เพื่อวางแผนกลับไปครองอำนาจในจีนต่อไป ชาวจีนมากกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน อพยพตามมาอยู่ที่เกาะไต้หวันในยุคที่เหมา เจ๋อตุง มีอำนาจเต็มที่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้นำของประเทศทั้งสองจีนคือผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์กับผู้นำสาธารณรัฐจีนบนเกาะไต้หวัน แย่งกันเป็นกระบอกเสียงของประชาชนจีนในเวทีโลก แต่เสียงของนานาประเทศส่วนใหญ่เกรงอิทธิพลของจีนแผ่นดินใหญ่ จึงให้การยอมรับจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า ในปี พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) ก่อนที่นายพล เจียง ไคเช็ก (General Chiang Kaishek) จะถึงอสัญกรรมไม่กี่ปี ไต้หวันซึ่งเป็นประเทศที่ร่วมก่อตั้งองค์การสหประชาชาติได้สูญเสียสมาชิกภาพ ในฐานะประเทศตัวแทนจีนให้กับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978) สหประชาชาติก็ประกาศรับรองจีนเดียวคือจีนแผ่นดินใหญ่และตัดสัมพันธ์ทางการเมืองกับไต้หวันทั้งสหรัฐอเมริกาก็ได้ถอนการรับรองว่าไต้หวันมีฐานะเป็นรัฐ ไต้หวันจึงกลายเป็นแค่ดินแดนที่จีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเจียง ไคเช็ก ถึงแก่อสัญกรรมในปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) ลูกชายของเจียงชื่อ เจียง จิ้งกวั๊ะ (Chiang Chingkuo) ได้เป็นผู้สืบทอดการปกครองไต้หวันต่อ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนบิดา ในที่สุดอำนาจการปกครองก็ถูกถ่ายโอนไปให้พรรคการเมืองตรงกันข้าม นั่นก็คือพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หลังจากไคเช็กตายไปเพียง 2 ปีเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งเกิดในไต้หวัน ชื่อ หลี่ เติงฮุย (Lee Tenghui) ขึ้นบริหารประเทศ ปักกิ่งตั้งฉายาประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ว่า "จิ้งจกปากหวาน" (A sweet-Talking Chameleon) ช่วงเวลาที่นายหลี่ เติงฮุย เป็นประธานาธิบดี การเมืองของไต้หวันเกิดการแตกแยกออกเป็น 3 ฝ่ายคือ 1) พวกก๊กมินตั๋ง ที่ต้องการกลับไปรวมประเทศกับจีนแผ่นดินใหญ่ 2) พวกที่ต้องการให้ไต้หวันเป็นประเทศอิสระไม่เกี่ยวข้องกับจีนแผ่นดินใหญ่ และ 3) พวกอนุรักษ์นิยมต้องการดำรงฐานะของประเทศไว้ดังเดิมต่อไป ไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่นัดเจรจาหาทางออกของข้อขัดแย้งทางการเมืองครั้งแรก ที่สิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) แต่ปรากฏว่าจีนแผ่นดินใหญ่ประวิงเวลาการลงนามในสัญญาหลายฉบับที่เป็นข้อตกลง ร่วมกัน ทำให้ผลของการเจรจาคราวนั้นไม่ก้าวหน้าไปถึงไหน ความสัมพันธ์ระหว่างสองจีนเลวร้ายลงทุกที เมื่อประธานาธิบดีหลี่ เติงฮุย เดินทางไปเยือนอเมริกาและได้รับการยอมรับอย่างเอิกเกริก ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงกระทำการข่มขวัญไต้หวันกับประเทศที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ด้วยการทำการซ้อมรบขึ้นใกล้ ๆ เกาะไต้หวัน สหรัฐอเมริกาออกมาแสดงอาการปกป้องคุ้มครองไต้หวันด้วยการส่งกำลังกองเรือรบของสหรัฐฯ มาป้วนเปี้ยนอยู่ในน่านน้ำที่จีนซ้อมรบ ขณะที่โลกกำลังล่อแหลมกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในน่านน้ำจีนมากขึ้นทุกที นั้น ไต้หวันก็จัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ และในการเลือกตั้งครั้งใหม่นั้นเอง ไต้หวันก็ได้นายหลี่ เติ้งฮุย เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ไต้หวันเข้าสู่สภาวะวิกฤต เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) ทำให้มีประชากรส่วนมากเป็นชาวพื้นเมืองเสียชีวิตไป 2,000 คน ทั้งเมืองมีแต่เศษซากสิ่งปรักหักพังที่เกิดจากภัยธรรมชาติ และช่วงนี้ไต้หวันต้องเผชิญความยากลำบากจากภัยธรรมชาติร้ายแรง จีนแผ่นดินใหญ่ก็เพิ่มความกดดันไม่ให้นานาชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวกับไต้หวัน แม้ในยามคับขันเช่นนี้ โดยออกมาประกาศว่า หากมีประเทศใดจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือไต้หวัน จะต้องได้รับอนุญาตจากจีนก่อนคำประกาศของจีนแผ่นดินใหญ่สวนทางกับเมตตาธรรมของประเทศทั่วโลกที่ต้องการให้ความช่วยเหลือไต้หวัน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) มีการเลือกตั้งใหม่ในไต้หวัน ชาวไต้หวันเลือกผู้แทนจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คือ นายเฉิน ฉุย เปี่ยน (Chen Shui-bian) เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน ผู้ประกาศนโยบายการเมืองแข็งกร้าวว่าไต้หวันต้องการแยกตัวเป็นอิสระจากจีน แผ่นดินใหญ่ ยุติยุคของพรรคชาตินิยมที่ยังฝักใฝ่แผ่นดินใหญ่อยู่ จีนแผ่นดินใหญ่จึงถือว่าเป็นกบฏต่อการปกครองของจีน เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ไต้หวันไม่เคยกล้าประกาศอย่างเป็นทางการว่าไต้หวันเป็นอิสระจากจีน และจีนพูดอยู่เสมอว่าไต้หวันเป็นเด็กในปกครองที่ค่อนข้างจะหัวดื้อและเกเร หากไต้หวันประกาศว่าเป็นอิสระจากจีนเมื่อใด จีนก็จะยกกำลังจัดการกับไต้หวันทันที ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองจีนในสายตาชาวโลกเลวร้ายลง จีนทั้งสองกลับมีการติดต่อทางการค้ากันมากขึ้น มีการผ่อนปรนอนุญาตให้ชาวไต้หวันเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อเยี่ยมญาติได้ เกิดปรากฏการสำคัญคือนักธุรกิจไต้หวันหอบเงินทุนมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปลงทุนดำเนินธุรกิจทางตอนไต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ จนกระทั่งขณะนี้ชาวไต้หวันกลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่เป็นลำดับ 2 ของจีน
วัฒนธรรมและประชากร

ประชากร 22.605 ล้านคน (ปี 2546) เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ร้อยละ 3.7 ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น โดยมีชาวเขาพื้นเมืองที่สำคัญ 9 เผ่า ได้แก่ Ami, Atayal, Paiwan, Bunun, Puyuma, Rukai, Tsou, Saisiyat และ Yami


สภาพภูมิอากาศ
ร้อนชื้นแบบใกล้เขตร้อน ฤดูร้อน (พ.ค.-ก.ย.) 
อุณหภูมิเฉลี่ย 27 - 35 C ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) อุณหภูมิเฉลี่ย 10 C
ภาษา
จีนกลาง (Mandarin) เป็นภาษาราชการ ฮกเกี้ยน (หมิ่นหนาน) เป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้ทั่วไปคู่กับจีนกลาง ข้าราชการระดับสูงทั่วไปสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
สกุลเงิน

เหรียญไต้หวัน (New Taiwan Dollar : NT$)
35.06 NT$ = $1 US หรือ 1 เหรียญไต้หวัน = 1.34 บาท 
GDP 275,789 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2545)
GNP 287,800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2545)


แนะนำเมืองน่าเที่ยวพอสังเขป จากการที่ไต้หวันมี ภูมิประเทศหลากหลายดังกล่าวข้างต้นทำให้แต่ละเมืองของไต้หวันมีแหล่งท่อง เที่ยวหลากหลายแบ่งออกเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งละภูมิภาคต่างก็เป็นที่ตั้งเมืองหลักๆ ดังข้อมูลต่อไปนี้




กรุงไทเป
ภาคเหนือ 
ที่ตั้งของ กรุงไทเป เมืองหลวง ,เถาหยวน,จีหลง , จิวเฟิ่น,ซินจู่ และ เหมี่ยวลี่




19 ธ.ค. 53 เวลา 10:33 7,561 33 306
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...