อีก ไม่กี่วันก็จะเห็นธงสามเหลี่ยมสีเหลืองปักอยู่ข้างร้านอาหารต่าง ๆ เต็มทั่วเมืองไปหมด เป็นสัญญาณให้รู้ว่า… เทศกาลกินเจ ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งแล้ว ในปีนี้ ใครที่ตั้งใจไว้ว่าจะ กินเจ มาเตรียมพร้อมการปรุงและการรับประทาน อาหารเจ ที่ถูกต้องกัน…
อาหารเจ เป็นอาหารที่ปรุงโดยปราศจากเนื้อสัตว์ รวมทั้งไม่มีส่วนประกอบอื่นใดที่ทำมาจากสัตว์ทุกประเภท ที่สำคัญ อาหารเจ จะงดเว้นการปรุงด้วยผักฉุน 5 ประเภท นั่นคือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ เพราะผักเหล่านี้ เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ อีกทั้งยังมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญ ภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ ซึ่งผู้ที่กินเจมีความเชื่อว่า
กระเทียม รวมไปถึง หัวกระเทียม ต้นกระเทียม จะไปทำลายการทำงานของหัวใจและกระทบกระเทือน ต่อธาตุไฟในกาย ถึงแม้ว่ากระเทียมจะมีสารที่สามารถละลายไขมันในเส้นเลือด (คอเลสเตอรอล) ได้ แต่กระเทียมก็มีความระคายเคืองสูง ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอาหารเป็นแผลและโรคตับ จึงไม่ควรรับประทานมาก
สำหรับ หัวหอม รวมไปถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ ตามหลักเวชศาสตร์และเภสัชศาสตร์โบราณของจีนถือว่า หัวหอมจะไปทำลายการทำงานของไต และกระทบกระเทือนต่อธาตุน้ำในกาย ถึงแม้ว่าหอมแดงจะช่วยขับพยาธิ ขับลม แก้ท้องอืดแน่น ปวดประจำเดือน และอาการบวมน้ำได้ แต่การบริโภคเป็นประจำหรือมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการหลงลืมง่าย ประสาทเสีย มีกลิ่นตัว ฟันเสีย เลือดน้อย และนัยน์ตาฝ้ามัว
มาที่ หลักเกียว คือ กระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่มีขนาดเล็กและยาวกว่า ในประเทศ ไทยไม่พบว่ามีการปลูกแพร่หลาย ซึ่ง หลักเกียวจะไปทำลายการ ทำงานของม้าม กระเทือนต่อธาตุดินในกาย
ส่วน กุยช่าย ทำลายการทำงานของตับ และกระทบกระเทือนต่อ ธาตุไม้ ในกาย
สุดท้าย ใบยาสูบ ซึ่งหมายถึง บุหรี่ ยาเส้น นั้น เป็นของเสพติดมึนเมา โดยใบยาสูบจะไปทำลายการทำงานของปอด และกระทบกระเทือนต่อ ธาตุโลหะ ในกาย
นอกจากผักต้องห้ามทั้ง 5 แล้ว สำหรับผักอื่น ๆ รวมทั้งถั่วและผักผลไม้ จะต้องกินในแต่ละวันให้ครบ 5 สี ตามสีของธาตุทั้ง 5 คือ
สีแดง สัญลักษณ์ธาตุไฟ ให้คุณต่อหัวใจ ได้จาก ถั่วแดง มะเขือเทศ พริกสุก แครอท มะละกอ ส้ม แตงโม นอกจากนี้ธัญพืชประเภทข้าวโอ๊ต ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสขม เพราะจะเป็นอันตรายต่อระบบการไหลเวียนโลหิตได
สีดำ สัญลักษณ์ธาตุน้ำ ให้คุณต่อไต ได้จากถั่วดำ เผือก มะเขือม่วง เห็ดหูหนู ลูกหว้า องุ่น ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต ก็คืออาหารรสเค็ม
สีเหลือง สัญลักษณ์ธาตุดิน ให้คุณต่อม้าม ได้จากถั่วเหลือง ฟัก ทอง ข้าวโพด พริกเหลือง มะม่วง กล้วย ทุเรียน ให้คุณประโยชน์ในการบำรุงม้ามอย่างมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน
สีขาว สัญลักษณ์ธาตุโลหะ ให้คุณต่อปอด ได้จากถั่วขาว ลูกเดือย ผักกาดขาว กะหล่ำดอก มะพร้าว น้อยหน่า รับประทานแล้วให้คุณค่าต่อปอด และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ด
สีเขียว สัญลักษณ์ธาตุไม้ ให้คุณต่อตับ ได้จากถั่วเขียว คะน้า ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ฝรั่ง ชมพู่ มะเฟือง การรับประทานผักสีเขียวมาก ๆ มีประโยชน์ในการบำรุงตับ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเปรี้ยว
บางวันอาจเปลี่ยนมาทานสาหร่ายทะเล มีทั้งสดและแห้งพร้อมกับใช้เกลือทะเลปรุงรสได้ รวมทั้งอาหารมีส่วนผสมของงาขาวและงาดำ ก็ได้ ผู้ที่ กินเจ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดอง อาทิ ผักดอง ผลไม้ดอง เครื่องกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ควรหันมารับประทานอาหาร สดที่ปรุงใหม่ ๆ จะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า
สำหรับเครื่องดื่ม คน กินเจ ควรดื่มน้ำผลไม้สด ๆ ตามธรรมชาติ เช่น น้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำสับปะรด น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก น้ำมะตูม เพราะน้ำผลไม้ดังกล่าวจะทำให้ร่างกายและผิวพรรณสดชื่นเปล่งปลั่ง ควรงดน้ำหวานที่ปรุงแต่งรสและเจือสีสังเคราะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงพิษภัยจากสิ่งปลอมปน นอกจากการดื่มน้ำผลไม้สด ๆ แล้ว ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว เป็นประจำ ทุกวันด้วย
การ กินเจ นั้น ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 สี ตามธาตุทั้ง 5 โดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน ไม่ควรเลือกทานอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะจะทำให้ไม่ได้คุณค่าอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่สำคัญ คือ การเลือกทานผักผลไม้ในช่วงเทศกาลเจนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพงหรือหายาก ควรเลือกทานผัก ผลไม้ ที่มีตามฤดูกาล
กินเจ ไม่ใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนกินเจจะต้องดำรงตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาดงดงามทั้งกาย วาจา และ ใจ ถือศีลบำเพ็ญธรรมไปพร้อม ๆ กันด้วย จึงเรียกว่า กินเจ ที่แท้จริง
----------------------------------------------------------------------------