หลวงพ่อองค์ดำ แห่งนาลันทา

 หลวงพ่อองค์ดำ* 

เป็นหลวงพ่อที่ศักดิ์สิทธิ์  พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน ตามที่คนไทยนิยมเรียกว่า “ปางมารวิชัย”
เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลัก จากหินสีดำ  หน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้วฟุต สูงนับจากพระเพลาถึงยอดพระเกตุ ๖๙ นิ้วฟุต เป็นพระพุทธรูปที่มีความสมบูรณ์ที่สุด
พระนาสิกวิ่นและนิ้วพระหัตถ์บิ่นเล็กน้อย ซึ่งมีอายุ  ๑,๐๐๐  กว่าปี  ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมหาวิทยาลัยนาลันทา  สร้างในสมัยพระเจ้าเทวาปาล 
     ระหว่าง  พ.ศ. ๑๓๕๓ - ๑๓๙๓ โดยท่านธรรมปาล (ตามบันทึกของราม ปิล่า สิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยงานท่องเที่ยวอินเดีย)
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เหลืออยู่องค์เดียวในบริเวณมหาวิทยาลัยนาลันทานี้  ซึ่งเมื่อปี  พ.ศ. ๑๗๖๖  ได้ถูกพวกมุสลิมซึ่งมีโมฮัมหมัด อิคเทีย  ขิลจิ ลูกชายของภัคเทีย ขิลจิ เป็นหัวหน้า พาพวกมาทำลายสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งทุบทำลายพระพุทธรูป  และเอกสารตำราทางพระพุทธศาสนาทั้งหมด  ซึ่งได้ถูกเศษอิฐและหินทับถมจมลงใต้ดินเป็นเวลานานเกือบ ๗ ศตวรรต (๗๐๐ ปี) คงเหลือไว้แต่ซากปรักหักพักอย่างที่เราเห็น ได้ถูกค้นพบโดย ดร.สปูนเนอร์ ศิษย์ของท่านเซอร์ คันนิ่งแฮม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘

สาเหตุที่ท่านถูกฝังจมลงในแผ่นดินเกือบ ๗๐๐ ปี นั้นท่านตารนารถ และท่าน   ธรรมสวาทินพระ ธิเบต ผู้เห็นเหตุการณ์ได้บันทึกไว้ว่า
กองทัพมุสลิม หลังจากเข้าปกครองดินแดนชมพูทวีปฝ่ายเหนือ และแคว้นมคธเกือบทั้งหมดได้แล้ว ก็เริ่มทำลายวัดวาอาราม ตลอดทั้งปูชนียสถาน ทางพระพุทธศาสนาเกือบทั้งหมดแล้ว ในปี พ.ศ. ๑๗๖๖ กองทัพมุสลิมน้ำโดยโมฮัมหมัด อิคเทีย ขิลจิ พร้อมด้วยทหารประมาณ ๒๐๐ คน  ได้กรีฑาทัพเข้าไปในมหาวิทยาลัยนาลันทา ทำลายพระพุทธรูปและศิลปกรรมต่าง ๆ ที่ขวางหน้าอย่างมันมือและเมามัน โดยปราศจากผู้คน ที่จะมาต่อต้านเกือบทั้งสิ้น เท่านั้นมิหนำใจยังเอาเชื้อเพลิงมาสุมแล้วจุดไฟเผา จนทำให้คัมภีร์ตำราทางพระพุทธศาสนาทั้งเก่าและใหม่  ถูกไฟไหม้เกือบหมดสิ้น พอสาสมแก่ใจแล้ว อิคเทีย ซิลจิ ก็ยกทัพกลับไปยังภัคเทียปูร์

 

  ท่านราม ปิล่า สิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยงานท่องเที่ยวอินเดีย  ได้กล่าวไว้ว่า... ขณะนี้ชาวบ้านละแวกนั้นได้เคารพกราบไหว้ หลวงพ่อองค์ดำ  นับถือเป็นที่พึ่งดุจเทพเจ้าประจำหมู่บ้าน รัฐบาลพยายามจะนำไปเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ยอม เพราะหลวงพ่อได้กลายเป็นหมอที่ศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาเด็ก ๆ  ที่เกิดมารูปร่างผอมแกร็นให้กลับอ้วนท้วนสมบูรณ์ และแข็งแรงได้  โดยที่บิดา-มารดานำบุตรที่เจ็บป่วยหรือผอมแห้งแรงน้อยนั้นพร้อมด้วยน้ำมันเนยไปวางไว้  ใกล้องค์หลวงพ่อ อธิษฐานจิตแล้วนำน้ำมันเนยนั้นลูบทาและชโลมให้ทั่วองค์ จากนั้นเอามือไปลูบไล้เพื่อให้น้ำมันเนยที่องค์หลวงพ่อมาลูบไล้ทั่วตัวเด็ก  ตั้งแต่นั้นมาเด็กคนนั้นก็เริ่มแข็งแรง และอ้วนทัวนขึ้นทุกวันเหมือนรูปกลวงพ่อ ประชาชนเห็นเป็นอัศจรรย์ จึงถวายพระนามท่านว่า “หลวงพ่อน้ำมัน” (เตลิยะ บาบา)   บ้าง หลวงพ่ออ้วน (โมต้า บาบา) บ้าง ที่ถวายพระนามท่านเช่นนั้น เพราะหลังจากได้เอาน้ำมันไปทาที่องค์หลวงพ่อแล้ว เอากลับมาทาที่ตัวเด็กอีกที เด็กก็หายจากโรคผอมแห้งแรงน้อยและอ้วนเหมือนหลวงพ่อ แต่คนไทยได้ถวายพระนามท่านใหม่ว่า “หลวงพ่อองค์ดำ” อาจเป็นเพราะองค์ท่านถูกสร้างห้วยหินดำกระมัง   พวกเราจึงถวายพระนามท่านว่า “หลวงพ่อองค์ดำ”

เนื่องจากหลวงพ่อน้ำมัน หลวงพ่ออ้วนหรือหลวงพ่อองค์ดำ มีความศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมาต่อๆกันมา และร่ำลือกันไปปากต่อปาก  จนเข้าหูฝูงประชาชนที่มาอาบน้ำบูชาพระอาทิตย์ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใกล้มหาวิทยาลัยนาลันทา ต่างก็ได้พากันมากราบไว้บูชาและตั้งจิตอธิษฐานและปรารถนา  สิ่งที่ตนต้องการ ครั้นสมหวังดังที่คิด เมื่อมาบูชาพระอาทิตย์ในครั้งต่อไป ก็จะน้ำเอารูปเทียน ดอกไม้ น้ำมันเนย นม และหม้อที่เต็มด้วยข้าวสาร  และเมล็ดถั่วมากชนิด เท่าที่ตนจะหาได้ นำมาถวายเพื่อแก้บน

ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้ไปนมัสการ และอธิษฐานสิ่งที่ตนปรารถนาและทราบว่าสมดังเจตนาที่คิด หลวงพ่อองค์ดำจึงเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์   ทั้งชาวไทยและชาวอินเดียมาเคารพกราบไหว้จำนวนมาก และมีพระภิกษุชาวไทยพร้อมพุทธศาสนิกชนได้สร้างทางเดินเข้าถึงหลวงพ่อองค์ดำแล้ว

 

 

 

 

 

 


                                                   คำบูชาหลวงพ่อองค์ดำ นาลันทา อินเดีย

                                                                    (ตั้งนะโม ๓ จบ)

                                        นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะฯ

                                                                               ***

อิติปิโส ภะคะวา กาฬะวัณณะพุทธะปฏิมัง อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมาสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง  พุทโธ ภะคะวาติฯ

      ขอพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ พุทธบารมี หลวงพ่อองค์ดำ ที่ข้าพเจ้าได้บูชาแล้ว จงมีอานุภาพ พลานุภาพ บุญญฤทธิ์อันยิ่งใหญ่  จงบันดาลส่งผลให้ข้าพเจ้า  มีอุดมมงคลสูงสุดในตัวข้าพเจ้า และครอบครัว ธุรกิจการงานของข้าพเจ้า จงชนะตลอด  ปลอดภัยตลอด  เจริญรุ่งเรื่องตลอด  ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดชีวิต  มีพลานามัยที่สมบูรณ์ยิ่งตลอดไปฯ

                                          ตั้งจิตอธิษฐานสงบนิ่ง ๑ นาที ทุกอย่างจะโล่งสว่าง บริสุทธิ์

 

18 ธ.ค. 53 เวลา 16:31 5,954 2 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...