ปีใหม่นี้จะไปเที่ยวไหนกันดีๆๆๆๆ

ล่องเมืองแม่ฮ่องสอน..ปาย
          ปาย...อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย

ความเงียบสงบ ลำน้ำปายสายน้อยที่ไหลเอื่อยผ่านกระต๊อบเล็ก ๆ อันเป็นที่พำนักของนักท่องเที่ยว ภูเขาที่ใหญ่น้อยที่โอบล้อม เป็นสเน่ห์ที่ประทับใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้เลือน

ในฤดูฝน ริมลำน้ำปายจะดารดาษไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี และเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ทุ่งนาข้าวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไร่กระเทียมที่ทอดตัวยาวไปจรดเชิงเขา ท่ามกลางสายหมอกเย็นระรื่น

รุ่งเช้า ไอหมอกจากแม่น้ำปาย ค่อย ๆ สะสมปกคลุมไปทั้งตัวเมือง ให้ทุกสิ่งของเมืองปายดูเลือนราง แต่กลับเต็มไปด้วยสเน่ห์

 

 

ภูชี้ฟ้า     ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย   อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย – ลาว   ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวเลาไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ    เป็นที่มาของชื่อ “ ภูชี้ฟ้า “ จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง ๑,๖๒๘   เมตร   เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง   แขวงไชยบุรี   ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ภูชี้ฟ้า   เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย   และเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่ชอบความสวยงามของธรรมชาติและยังพอเรี่ยวแรงที่ฝันอยากจะมาสัมผัสกับความงามของสถานที่แห่งนี้สักครั้งในชีวิต   ภูชี้ฟ้า   ถ้าพูดถึงความหนาวเย็นก็คงจะไม่แตกตางอะไรมากหนักกับหลาย ๆ ดอยสูงทางภาคเหนือของไทย   แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับยอดภูแห่งนี้มาตลอดและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาพบเห็น   ก็คือ   ความสวยงามแปลกตาของหน้าผาสูงที่ยื่นเด่นลอยออกไปในอากาศ   สายลมหนาวที่วูบผ่านมาแล้วเลยผ่านไป   ทิวทัศน์เบื้องล่างคือ ภาพทะเลหมอกและภาพของดวงอาทิตย์สีแดง ที่กำลังเบียดเสียดแทรกตัวออกมาท่ามกลางทะเลหมอกหนา และหุบเขาน้อยใหญ่   ภาพความสวยงามต่าง ๆ เหล่านี้   ได้กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้หลั่งไหลมาที่นี่   ในแต่ละปีเมื่อลมหนาวมาเยือนจะมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกสารทิศ   เดินทางมาสัมผัสกับอากาศหนาวและชมความงามของทะเลหมอกยามเช้าที่ภูชี้ฟ้า   อย่างไม่ขาดสาย   โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว   บนยอดดอยสูงแห่งนี้แทบไม่มีที่ยืนถ่ายรูป   ทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่ภูชี้ฟ้า   ได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามกว่าที่ใด ๆ ในประเทศ   บริเวณทางเดินขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้า   เป็นทุ่งหญ้ากว้าง   มีทุ่งดอกโคลงเคลงขึ้นแซมเป็นระยะ   ออกดอกสีชมพูอมม่วงในช่วงเดือนกรกฎาคม – มกราคม    ช่วงเพิ่มความสวยงามให้กับยอดภูแห่งนี้ได้อีกไม่ใช่น้อย   ระหว่างทางขึ้นมายังภูชี้ฟ้ายังต้องผ่านภูเขาที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม หากมาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะได้ชมความงามของดงดอกเสี้ยวที่ออกดอกสีขาวอมชมพูบานสะพรั่งระหว่างทางขึ้นสู่ภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้า

 

การเดินทาง

ภูชี้ฟ้า อยู่ห่างจากเชียงราย ๑๑๑ กิโลเมตร ปัจจุบันการมาเที่ยวภูชี้ฟ้าสะดวกสบาย   สามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์ จนถึงลานจอดรถบนภู จากนั้น เดินเท้าขึ้นขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้าเพียงแค่ ๗๐๐ เมตร ภูชี้ฟ้า การเดินทาง  อ่านต่อ >> 


 

 
 

 

 

 

ดอยตุง พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง

ดอยตุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นของเชียงราย อยู่เหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาวอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย แต่เดิมเป็นเทือกเขาหัวโล้นที่ถูกชาวเขาตัดทำลายเพื่อใช้พื้นที่ทำการเกษตร  จนกระทั่งสมเด็จย่าได้เสด็จมายังดอยตุงและทรงมีพระราชดำรัสว่า ฉันจะปลูกป่าดอยตุง  หลังจากนั้นในปี 2530  รัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นโดยปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ ได้ดึงชาวเขาเข้ามาทำงานในโครงการปลูกป่าดอยตุง  แต่ก่อนนั้นเส้นทางขึ้นดอยตุงเป็นเส้นทางลอยฟ้า คือเมื่อนั่งรถบนถนนดอยตุงแล้วมองลงมาก็จะเห็นวิวโล่งๆ ไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ แต่ในปัจจุบันนี้ดอยตุงกลับคืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งเมื่อนั่งรถไปตามเส้นทางขึ้นดอยตุงจะเห็นแต่ต้นไม้แน่นขนัดนั่นล้วนเป็นป่าปลูกทั้งสิ้น  หลังจากโครงการปลูกป่าแล้วเสร็จจึงได้มีการสร้างพระตำหนักดอยตุง และมีโครงการอีกหลายๆ โครงการตามมาเพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น 

จากเทือกเขาหัวโล้นกลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวดอยตุงเป็นจำนวนมาก  แหล่งท่องเที่ยวบนดอยตุงที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมได้แก่  สวนแม่ฟ้าหลวง  พระตำหนักดอยตุง  พระธาตุดอยตุง  สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ 

ไร่แม่ฟ้าหลวง  หรือสวนดอยตุง  เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก  สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี  กลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว งานประติมากรรมนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า " ความต่อเนื่อง "  นอกจากแปลงไม้ประทับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่ม จุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่างๆ ที่มีดอกสวยงามมาก  ความภาพความสวยงามของสวนแม่ฟ้าหลวง คลิกที่นี่


งานประติกรรมกลางสวน

<-- เสาตุง สัญลักษณ์ดอยตุง

สวนดอกไม้ภายในสวนแม่ฟ้าหลวง

พระตำหนักดอยตุง 


ภาพถ่ายด้านหน้าพระตำหนัก

เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ปลูกแบบง่ายๆ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์  พระตำหนักสร้างด้วยไม้ทั้งหลังโดยมีโครงเหล็กอยู่ภายใน ไม้ในการสร้างเป็นไม้ลังใส่สินค้าที่การท่าเรือฯ คลองเตย ทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จย่า  เมื่อสร้างออกมาแล้วสวยงามยิ่งนัก รูปแบบการสร้างเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์  ที่เพดานห้องโถงทำเป็นเพดานดาว  บริเวณด้านหลังพระตำหนักมีระเบียงยืนออกไป เมื่อยืนที่ระเบียงจะเห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่สวยงาม บริเวณขอบระเบียงมีกระบะปลูกไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม  พระตำหนักเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม  โดยจะต้องมีมัคคุเทศก์ของพระตำหนักเป็นผู้นำเยี่ยมชม


ภาพซ้าย อีกมุมหนึ่งของพระตำหนัก                  ภาพขวา บริเวณระเบียงด้านหลังพระตำหนัก

 

 

 

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 
แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา

ดอยอินทนนท์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่ สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

 การเดินทาง ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 106 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ทางค่อนข้างสูงชัน รถที่นำขึ้นไปจะต้องมีสภาพดี ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่-จอมทองบริเวณประตูเชียงใหม่ จากนั้นขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯตรงหลักกิโลเมตรที่ 31 และหมู่บ้านใกล้เคียง แต่หากต้องการจะไปยังจุดต่าง ๆ  ต้องเหมาไปคันละประมาณ 800 บาท 

ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 9 ของเส้นทางหมายเลข 1009 มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และอื่น ๆ 


 

ของจริงสวยกว่านี้ต้องไปดูเองครับ

17 ธ.ค. 53 เวลา 14:02 4,982 10 68
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...