โดย อายตนะ
 

p { margin: 0px; }

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

" Art  never  comes  from   happiness " เป็นคำกล่าวที่สามารถนำมาใช้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยมกับผลงานของ HALIM AL-KARIM ศิลปินชาวอิรักที่นำเสนอความน่าสะพรึงกลัวของสงครามผ่านผลงานของเขา

 

 

 

ก่อนจะไปดูผลงาน ลองมาดูประวัติของเขากันก่อน HALIM AL-KARIM เกิดที่เมือง Najaf ประเทศอิรัก เมื่อปี ค.ศ. 1968 เขาเรียนที่ Baghdad Academy of Fine Arts ระหว่างปี ค.ศ.1983-1988 จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้าน Ceramics เมื่อเรียนจบ HALIM AL-KARIM สมัครไปเป็นทหารเพราะอยากร่วมรบเพื่อชาติ แต่เป็นทหารอยู่ได้ไม่นานก็ค้นพบตัวเองและมองเห็นว่าสงครามไม่สามารถแก้ ปัญหาได้ เขาจึงตัดสินใจหนีทหารโดยอาศัยความช่วยเหลือจากหญิง Bedouin ซึ่งเป็นพวกเร่ร่อนในทะเลทราย

 

 

 

 

 

ในช่วงปี ค.ศ. 1990-1991 เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียทำให้ HALIM AL-KARIM ต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในทะเลทรายเกือบ 3 ปีในระหว่างปี ค.ศ. 1989-1991 ช่วงเวลา 3 ปีนี้เองที่เขาต้องใช้ชีวิตแบบเร่ร่อน ไม่สามารถปักหลักอยู่ที่หนึ่งที่ใดได้ ตัองคอยหลบหนีจากกองกำลังทหารของทุกฝ่าย ในบางครั้งต้องนอนหลบอยู่ในโพรงกลางทะเลทรายเป็นเวลาหลายวัน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเลวร้ายไปเสียหมด HALIM AL-KARIM ได้เรียนรู้ศิลปะวิทยาการต่างๆ รวมทั้งบรรดาเวทย์มนต์ คาถาและแนวคิดเกี่ยวกับจิตวิญญาณจากพวก Bedouin ผลของสงครามทำให้ HALIM AL-KARIM ต้องสูญเสียพี่น้องชายไป 4 คนและหญิงอีก 1 คน

 

 

 

สงครามสงบได้สักพัก HALIM AL-KARIM ก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกตามปกติเช่นเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ เขาเลือกที่จะไปอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และเริ่มทำงานศิลปะในแบบที่ตัวเอง ชอบ นั่นก็คือการเล่นกับภาพถ่าย HALIM AL-KARIM นำเอาประสบการณ์และความรู้สึกในช่วงหนีทหารและต้องเร่ร่อนอยู่กลางทะเลทราย มาเป็นฐานของการสร้างผลงาน โดยเขาเริ่มสร้างสรรผลงานศิลปะในแบบของตัวเองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 แล้ว ด้วยความที่เป็นคนสนใจภาพถ่าย

 

 

 

 

 

 

งานของ HALIM AL-KARIM เป็นการสร้างศิลปะบนภาพถ่าย เขาใช้เทคนิคการถ่ายภาพใบหน้าคนที่เลือนลาง ไม่ชัดเจน บางภาพดูแทบไม่ออกว่าคนเหล่านั้นมีสีหน้าอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร คนที่อยู่ในภาพไม่ได้เป็นตัวแทนของคนจริงๆ แต่มาจากจินตนาการของเขาเอง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าคนที่ปรากฎในภาพเหล่านั้นแสดงถึงความไม่แน่นอนของการมี ชีวิตอยู่ แต่ที่เป็นจุดเด่นของภาพถ่ายส่วนใหญ่ก็คือดวงตาในภาพมีความชัดเจน ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ HALIM AL-KARIM ต้องการให้เป็นดวงตาที่แสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตอยู่

 

 

 

 

 

 

 

เขาพัฒนาความรู้สึกที่ได้รับมาในอดีตออกมาเป็นผลงาน ภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายขณะซ่อนตัวอยู่ในโพรงกลาง ทะเลทราย HALIM AL-KARIM ได้ถ่ายภาพโดยใช้เทคนิคที่ทำให้ภาพถ่ายดูมีเงื่อนงำ น่ากลัว แต่ดวงตาเป็นของจริงที่บอกว่าแม้คนเหล่านั้นจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็มีชีวิต อยู่อย่างตื่นตระหนกหวาดกลัวสงคราม ต้องคอยเฝ้าระวังสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว HALIM AL-KARIM ตั้งชื่อให้กับภาพถ่ายที่ฟังดูแล้วสื่อความหมายสงคราม เชื่อมโยงกับความโหดร้ายของสงคราม การเมือง สันติภาพ เช่น Hidden War, Hidden Face, Hidden Prisoner, Hidden Theme, Hidden Victims, Hidden Witnesses, Hidden Doll, และ Prisoner Goddess เป็นต้น

 

 

 

 

 

ผลงานของ HALIM AL-KARIM เกือบทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของสงคราม การหลบหนี การเอาชีวิตรอดด้วยการหลบซ่อน เป็นประสบการณ์ของการหลบหนีออกจากบ้านเกิดเมืองนอน ความมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันที่ไม่มีอนาคต งานของเขาไม่ได้นำเสนอเพียงตัวอย่างของความโหดร้ายที่เขารอดมาได้แต่ยังนำ เสนอสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของความฝันในตัวเขาเองมากกว่า นั่นก็คือการเป็นศิลปินที่สามารถนำเสนอประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับ มนุษยชาติออกมาให้ชาวโลกได้รับทราบ

 

 

 

 

 

 

 

ในระหว่างปี ค.ศ.1996-2000 HALIM AL-KARIM เข้าเรียนศิลปะที่ Gerrit Reitveld Academy ในกรุง Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์  HALIM AL-KARIM แสดงผลงานของตัวเองหลายครั้งในหลายประเทศ เช่น ในประเทศ Lebanon, Jordan, UAE, Holland, France, และในสหรัฐอเมริกาอันเป็นที่ที่ปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง Denver ในมลรัฐ Colorado  เรื่องความนิยม ไม่ต้องพูดถึง ปัจจุบัน ภาพถ่ายขนาด 150 x 300 เซนติเมตร ของ HALIM AL-KARIM ขายได้ในราคาไม่ต่ำกว่าภาพละ 50,000 เหรียญสหรัฐ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อายตนะ
ayatana2010@live.com
12 ธันวาคม 2553