จองเวร
ผู้ป่วยรายนี้ชื่อบุญมา ครั้งแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็เพื่อมาทำแผลที่นิ้วก้อยที่ถูกตะพาบน้ำกัด หมอให้ยาไปกินและทาแล้วก็ให้กลับบ้าน ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอีก ครึ่งเดือนต่อมาบุญมากลับมาอีกครั้ง แผลเก่าอักเสบรุนแรงบวมใหญ่ หมอตรวจพบว่าเชื้อโรคกินเข้ากระดูก จะต้องตัดนิ้วเพื่อไม่ให้เน่าลุกลาม
หลังจากนั้นครึ่งปี บุญมาไปเที่ยวชายทะเล เขาถูกตะพาบน้ำกัดที่นิ้วเท้าอีกครั้ง แล้วก็เกิดอาการอักเสบบวมใหญ่ขึ้นอีกภายในเวลาสองวัน เมื่อมาฉายเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลก็ได้พบอีกว่า เชื้อโรคกินเข้าไปถึงกระดูกหมดจึงต้องตัดนิ้วเท้าของเขาไปอีกหนึ่งนิ้ว
เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปีบุญมาก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีก ครั้งนี้แผลเก่าทั้งสองแห่งเกิดอักเสบบวมใหญ่ขึ้นพร้อมกัน พอเอ็กซเรย์ก็พบว่าแย่แล้ว! เชื้อโรคแพร่เข้าไปกินกระดูกอย่างรุนแรง และกำลังกลายเป็นมะเร็ง จะต้องผ่าตัดฝ่ามือฝ่าเท้าออกให้หมดก่อนที่จะลุกลามขึ้นไปอีก บุญมาต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงยี่สิบกว่าวันด้วยสภาพของผู้ป่วยด้วน วันหนึ่งบุญมาไปช่วยงานอุปสมบทของญาติ คืนนั้นผู้ร่วมงานนอนค้างที่วัดกันสี่ห้าสิบคน เคราะห์หามยามร้ายของบุญมายังไม่จบสิ้น หนูตัวหนึ่งเจาะจงมากัดตรงขาด้วนของบุญมาคนเดียว แล้วก็หนีไป เขาสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวด คนที่นอนอยู่ด้วยกันตกใจกับเสียงร้องพากันตื่นหมด แผลที่หนูกัดไม่กว้างไม่ลึกนักมีเลือดซึมออกมาแต่ทุกคนพากันตกใจที่อยู่ดีๆ ทำไมจึงมีหนูมากัดคนนอนหลับเพราะหนูจะกัดกินก็เฉพาะศพเท่านั้น บุญมาขวัญเสียถูกเคราะห์กรรมซ้ำเติมจนคิดว่าตนคงจะต้องตายในไม่ช้า มันทารุณจิตใจมากไม่นานต่อมาเกิดอาการเจ็บคันบริเวณแผลเก่าที่มือที่เท้าอีก บุญมารีบมาหาหมอที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ผลการฉายเอกซเรย์ปรากฏว่าเชื้อมะเร็งกินลึกเข้าไปมาก หมอจำเป็นต้องจัดการตัดแขนขาทั้งท่อนของบุญมาทิ้งไป
หมอที่เป็นเจ้าของคนไข้แปลกใจในชะตากรรมของบุญมานัก จึงสอบถามประวัติอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้ความว่า...
บุญมาชายอายุยี่สิบสามปี อาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างก่อสร้าง ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำชอบแกล้มเหล้าด้วยปลาน้ำจืด โดยเฉพาะเต่ากับตะพาบ เพราะเขาเคยได้ยินมาว่าใครกินตะพาบน้ำได้สิบถึงยี่สิบตัว จะไม่เป็นโรคไขข้ออักเสบ อีกทั้งยังช่วยบำรุงไต เขาจึงเพียรหาตะพาบน้ำมาผัดเผ็ดแกล้มเหล้าขาว บุญมากินตะพาบน้ำมาเกือบยี่สิบปี นับไม่ได้แล้วว่ากินเข้าไปได้กี่ตัว