10 อันดับวัดที่สวยงามที่สุดในโลก

วัดที่สวยงามเป็นอันดับที่1.ได้แก่ วัดTiger Nest Monnastery Phutan ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด ของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง
 700 เมตร  จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava - Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดขึ้น

 
 
 
 

2. Wat Rong Khun in Chiang Rai
 วัดร่องขุ่น(Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2540จากเดิมมีเนื้อที่3ไร่ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือคุณวันชัย วิชญชาครจนปัจจุบันมีเนื้อที่9ไร่

 
 

3. Prambanan : Hindu temple, Indonesia
วัดฮินดูพรัมบานัน:Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดู
ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมือ! งพรัมบานันตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากยอกยากาตาร์มากนักวัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่

 
 

4. The Shwedagon Paya (or Pagoda), Myanmar
 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ
พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน
 เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเม ื่อง 2,500 ปีที่แล้ว
แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่ามีสองพี่น้อง
พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามาพระองค์จึงประทาน
พระเกศามา8 เส้นพระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษ
ที่14รัชสมัยพระเจ้าพินยาอูได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตรพระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา
จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบันบนยอดสุดของพระเจดีย์
 มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ดโดยเฉพ! าะชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ด
ใหญ่อยู่ 72 กะรัตและทับทิม 2,317 เม็ด

 

5.Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing
 หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีนประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยนตําหนักหวงฉงอี่และลานหยวนชิวเป็นต้นเทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด๒๗๓เฮกต้าร์เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดาในระยะย่าง
เข้าฤดูหนาวถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปีพระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบพระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม

 
 
6. Chion-in Temple: Kyoto , Japan
วัดจิออนอิน(Chion-in temple)พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ
แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมากวัดนี้สร้างในปี
 ค.ศ.1234เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen
 
 

7. Borobudur, Indonesia
บุโรพุทโธ(Borobudur)พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทรตั้ง
อยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลางห่างจากเมืองยอกยากาตาร์(Yogyakata)ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ40กิโลเมตรถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซียและชาวพุทธทุกคนซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต

เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวาหรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและอินโดนีเซียได้อย่างกลมกลืนที่สุดบุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

 
 

8.The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab
 วิหารฮัรมันดิรซาฮิบหรือวิหารทองคำเป็นวิหารที่สำคัญที่สุดในศาสนาซิกตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์เมืองหลวงของแคว้นปัญจาบทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

 
 

9.The Temple of Srirangam
( Sri Ranganathaswamy Temple )
วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดียเมือง Tiruchirapalliหรือ Trichy
 เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 
 
10. Ankor Wat: the largest temple in history
ปราสาทนครวัด(Angkor Wat)เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกายที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุดสร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12เพื่ออุทิศถวายแด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่าเป็นร่างของพระองค์เองในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้วศาสนสถานแห่ง
นี้ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ ......
 
 

มาชมภาพผลงานวัดร่องขุ่น ที่สร้างโดยฝีมือคนไทยกันแบบชัดๆกันดีกว่านะคะ

วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือคุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่ และมีพระกิตติพงษ์ กัลยาโณ รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

ประวัติ

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างวัดมาจาก 3 สิ่งต่อไปนี้คือ

ชาติ : ด้วยความรักบ้านเมือง รักงานศิลป์ จึงหวังสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ศาสนา : ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ : จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน ความหมายของอุโบสถ สีขาว : พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า สะพาน : การเดินข้ามจากวัฎสงสารสู่พุทธภูมิ เขี้ยว หรือ ปากพญามาร : กิเลสในใจ สันของสะพาน : มีอสูรอมกัน ข้างละ 8 ตัว 2 ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส 16 กึ่งกลางของสะพาน : เขาพระสุเมรุ ดอกบัวทิพย์ : มี 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างอุโบสถแทนซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ บันไดทางขึ้น : มี 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
Credit: http://board.postjung.com/514988.html
5 ธ.ค. 53 เวลา 16:37 17,144 44 476
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...