แม่ วัย 70 เครียดใช้น้ำมันเบนซินราด-จุดไฟเผาลูกชาย เจ็บสาหัส เพื่อนบ้าน เข้ามาช่วยเหลือวิ่งหนีเข้าบ้านใช้น้ำมันราดตัวเองจุดไฟพึ่บต่อหน้าต่อตา เพื่อนบ้านที่รีบมาดับไฟแต่ก็อาการสาหัส เผยเหตุเครียดเรื่องถูกไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากบ้านดังกล่าวเป็นของน้องสามีให้อาศัยนานนับสิบปี จนเมื่อ 2 ปีก่อนสามีเสียชีวิต น้องสาวจึงขอบ้านคืน แต่ฝ่ายหญิงชราไม่ยอมจึงฟ้องร้องเรื่องอยู่ที่ศาล ขณะที่น้องสาวก็ประกาศขายบ้านราคาถึง 20 ล้านบาทไปแล้วด้วย ก่อนเกิดเหตุลูกชายกำลังจะไปขึ้นศาลกรณีพิพาทเรื่องบ้าน แต่แม่ก็ชิงก่อเหตุเสียก่อน หลังถึงมือหมอไม่นานแม่ก็สิ้นใจ ส่วนลูกชายยังโคม่า
เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 1 ธ.ค. ร.ต.ท.อนุชิต เหล่าแหลม ร้อยเวร สน.ท่าพระ ได้รับแจ้งเหตุคนจุดไฟเผาตัวที่บ้านเลขที่ 87 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอก ใหญ่ กทม. จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านทรงโบราณสองชั้นปลูกสร้างด้วยไม้ สักทองทั้งหลัง และด้านหลังบ้านยังมีบ้านไม้ชั้นเดียวอีกหลังปลูกติดกันบนเนื้อที่ 100 ตารางวา หน้าบ้านติดป้ายชื่อว่า 'บ้านสองพี่น้อง'
บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบร่างผู้บาดเจ็บถูกไฟไหม้ร่างกายเกรียมกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ นอนร้องครวญครางอย่างน่าเวทนาและได้กลิ่นน้ำมันเหม็นคลุ้ง ทราบชื่อภายหลังคือนายณัฐพล นรางกูล อายุ 39 ปี จึงรีบช่วยเหลือก่อนนำส่งโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากอาการสาหัส
จาก การตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มควันไฟอยู่บริเวณชั้นล่างและชั้นบน เจ้าหน้าที่จึงใช้ถังน้ำยาสารเคมีเข้าฉีดดับกลุ่มควันก่อนที่ไฟจะลุกลาม และบริเวณชั้นบนพบร่างหญิงชราทราบชื่อภายหลัง นางนงคราญ นรางกูล อายุ 70 ปี มารดานายณัฐพล สภาพตามร่างกายถูกไฟไหม้เกรียมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ตามร่างกายมีกลิ่นน้ำมันเหม็นเช่นกัน นั่งอยู่บนเก้าอี้ เจ้าหน้าที่จึงนำส่งโรงพยาบาลศิริราชอีกราย
นายมนูญ เสน่ห์ อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงลูกชายเจ้าของบ้านร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง โหยหวนมาจากในบ้านดังกล่าว และได้ยินเสียงลูกชายพูดด้วยว่า "แม่เอาน้ำมันมาราดผมทำไม ทำไมทำอย่างงี้ วันนี้ผมต้องไปขึ้นศาลรู้ไหม" และก็ได้กลิ่นน้ำมัน จึงปีนข้ามกำแพงบ้านมาดูที่หลังบ้านพร้อมกับถือถังดับเพลิงมาด้วย เมื่อเห็นสภาพภายในบ้านก็ต้องตกตะลึง พบร่างลูกชายเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้ร้องครวญคราง ดิ้นทุรนทุรายจึงใช้น้ำยาฉีดดับไฟ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว จากนั้นเข้ามาในบ้านก็พบนางนง คราญ นั่งอยู่ตรงบันได เมื่อเห็นตนก็ใช้น้ำมันเบนซินราดตัวเองพร้อมจุดไฟเผา ก่อนร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับวิ่งเตลิดขึ้นมาบนชั้น 2
"ผม ใช้ถังดับเพลิงไล่ฉีดดับไฟตามมาตลอดทาง จนดับไฟไว้ได้ก่อนที่นางนงคราญ จะหมดแรงนั่งบนเก้าอี้ ผมก็คอยดูแลอยู่แต่ไม่กล้าทำอะไรจนกระทั่งตำรวจมาช่วยเหลือ" นายมนูญ กล่าว
ต่อ มาพนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมกั้นบริเวณไว้ ชั้นล่างพบแกลลอนน้ำมัน 2 แกลลอน และใต้บันไดอีก 3 แกลลอน สภาพภายในบ้านไฟได้ลุกไหม้ที่ตู้เสื้อ ผ้าเสียหาย และชั้นบนไฟไหม้เครื่องเฟอร์นิเจอร์กับทีวีเสียหาย
ร.ต.ท.อนุชิต กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นชาวบ้านที่คุ้นเคยกับบ้านหลังที่เกิดเหตุพร้อมว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแก่ ก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนพักอยู่กับสามีชื่อนายฐานันท์ และนางเรไร คนรับใช้ รวม 4 คน ต่อมาประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา นายฐานันท์ สามีนางนงคราญ เสียชีวิตไป โดยบ้านหลังนี้มีชื่อของนางสุธีรา น้องสาวของนายฐานันท์ เป็นเจ้าของบ้าน โดยนางสุธีรา ให้พี่ชายอยู่อาศัยกับครอบครัว แต่หลังจากนายฐานันท์เสียชีวิตไป นางสุธีราก็ ขอบ้านคืนและประกาศขายราคา 20 ล้านบาท พร้อมทั้งฟ้องขับไล่สองแม่ลูกออกจากบ้าน จนเป็นกรณีพิพาทขึ้นศาล โดยในวันนี้ฝ่ายลูกชายจะต้องไปขึ้นศาลที่ศาลอาญาธนบุรี แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อนและก่อนหน้านี้นางสุธีรา ก็ได้มาที่บ้านเพื่อพูดคุยกับนางนงคราญ แต่ถูกปิดบ้านปิดประตูล็อกไม่ยอมให้นางสุธีราออก จนต้องร้อง ขอความช่วยเหลือจากคนภายนอก
ตำรวจสันนิษฐานว่านางนงคราญ คงคิดมากเรื่องถูกไล่ที่อยู่จนเกิดความเครียดตัดสินใจจะฆ่าตัวเองและลูกชาย จึงนำน้ำมันมาราดและจุดไฟเผาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม ต้องสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมานางนงคราญทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวต ส่วนนายณัฐพล อาการโคม่า