10 สุดยอด นักกีฬาไทย กวางโจวเกมส์  (ไอเอ็นเอ็น)

             ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ และใหญ่ยิ่งของเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 กวางโจเกมส์ ที่ทัพนักกีฬาจีน ยังคงแสดงให้เห็นว่ายังคงเป็นพี่ใหญ่ ของทวีปนี้อย่างสิ้นเชิง และต้องรอไปพบกันใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ สำหรับทัพนักกีฬาไทย ที่ขนกันไป ไล่ล่าเหรียญทองกว่า 800 ชีวิต ก็มีเรื่องราวมากมายให้จดจำ ซึ่งพอสรุปคร่าว ๆ เป็นที่สุดของทัพไทย ในกวางโจวเกมส์ที่ผ่านมา ดังนี้

  1.ประสบความสำเร็จที่สุด : ทีมตะกร้อ และเรือใบ โดยทีมนักหวดลูกพลาสติกไทยทั้งชาย-หญิง ยังคงเป็นจ้าวของกีฬาประเภทนี้ แม้ว่าหลายคนจะมองว่า ยังไม่ใช่กีฬาสากลที่แข่งขันในโอลิมปิก แต่ก็ต้องยกนิ้วให้กับสมาคมนี้ เพราะว่า ผลงานยังแจ่มแจ๋ว และแสดงให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ว่า ไทยคือเจ้าของต้นตำรับกีฬาประเภทนี้อย่างแท้จริง ด้วยผลงาน 4 เหรียญทอง เป็นเครื่องการันตี ส่วนเรือใบก็นับว่าสุดยอด กับการคว้า 3 ทองนอกบ้าน จากคู่พี่น้อง "ดำรงศักดิ์-กฤษฏา" วงทิม, กิรติ บัวลง และนพเก้า พูนพัฒน์

  2. ล้มเหลวที่สุด : สมาคมฟุตบอลฯ ทีมฟุตบอลชายชาติไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ถือว่าล้มเหลวที่สุด หรือจะบอกว่า "ท่าดีทีเหลวที่สุด" ก็ว่าได้ เพราะลงสนาม 5 นัด สรุปผลคือ นัดแรกชนะปากีสถาน, นัดสองเสมอ มัลดีฟ, นัดที่สามเสมอโอมาน, นัดที่สี่ชนะเติร์ก และนัดที่ห้าแพ้ญี่ปุ่น

  3. ประทับใจที่สุด : สมาคมเทควันโด กับผลงาน 2 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง และนับว่า เป็นผลงานที่สม่ำเสมอที่สุด ในทุก ๆ ครั้งของการแข่งขัน และยิ่งไปกว่านั้น เหรียญทองของ "น้องหยิน" สริตา ผ่องศรี ยังเป็นการประเดิมเบิกร่อง ก่อนที่เหรียญอื่น ๆ ของทัพไทยจะตามมาด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ต้องบอกว่าทุกเหรียญของเทควันโด แลกมาด้วยความทรหด อดทน และฝีมือล้วน ๆ ของนักกีฬา ส่งผลให้ โค้ช เช ยอง ซุก กลายเป็นบุคคลที่ฟีเวอร์ไปด้วยอีกคน

 น้องหยิน สริตา ผ่องศรี คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ เอเชียนเกมส์ 2010 กวางโจวเกมส์

  4. เซอร์ไพรส์ที่สุด : กาบัดดี กับการช็อกทุกวงการ คว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ เพราะก่อนไป คงไม่มีใครคิดว่า ทีมนี้จะมาไกลถึงขนาดเข้าชิงชนะเลิศได้ และยังสู้กับอินเดีย ที่เป็นเจ้าของกีฬาตี๋จับนี้ได้อย่างสูสีด้วย

                                        กาบัดดี้ สาวไทย

 
  5. ระทึกใจที่สุด : ทีมวิ่งผลัด 4x100 เมตร หญิง ที่สามารถคว้าเหรียญทองกลับมาเชยชมได้ โดยเฉพาะช่วงที่ นงนุช แสนราช รับไม้สุดท้ายเป็นรองสาวจีน ก่อนที่จะสปีดแซงไปแบบหน้าตาเฉย ในช่วง 30 เมตรสุดท้าย เชื่อว่าทำเอาแฟน ๆ กีฬาชาวไทยได้เฮกันทั้งประเทศ

  6. เครียดที่สุด : มวยสากลสมัครเล่น ที่บอกว่าเครียด เพราะในรอบแรกๆ นักชกไทย ชกเท่าไหร่แต้มไม่ขึ้น คนแล้วคนเล่า จนทยอยกันตกรอบไปหมด แทบจะหมดกำลังใจเชียร์ แต่ท้ายที่สุดความมุ่งมั่นของทัพกำปั้นไทยก็ได้ผล เมื่อ วรพจน์ เพชรขุ้ม พี่ใหญ่สุดของทีม กลับมาสวมวิญาณพระเอก คว้าทองให้กับทีม และนับเป็นการ "รีเทิร์น ออฟ วรพจน์" หลังจากเคยคว้าเหรียญเงินเอเธนส์เกมส์ และก็เงียบไปก่อน จะกลายมาเป็นฮีโร่ของทีมอีกครั้ง

  7. มีอนาคตที่สุด : ทีมแบดมินตันสาว กับ วอลเลย์บอลชาย เริ่มที่ทีมนักตบลูกขนไก่สาวไทย ผลงานสุดยอด ทะลุเข้าชิง ก่อนพ่ายจีนมือระดับโลกไปแบบขาดลอย แต่ก็ขอปรบมือให้เพราะทีมสาวไทย ถือเป็นเลือดใหม่ และยังมีอนาคตอีกหลายปี ทั้ง "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์,นิชชาอร จินดาพล, ทรัพย์สิรีย์ แต้รัตนชัย เช่นเดียวกับ วอลเลย์บอลชาย ที่ผงาดพ้นร่มเงาของทีมหญิงได้เป็นครั้งแรก แม้ไม่ได้เหรียญติดมือกลับมา แต่ก็นับว่า เป็นทีมที่มีอนาคต จากการทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้าร่วมเอเชียนเกมส์มากว่า 40 ปี

  8. โชคดีที่สุด : เจนจิรา ศรีสงคราม แม่ปืนสาวไทย ที่ต้องร้องให้เสียน้ำตาไปก่อน จากการชวดเหรียญในประเภทบุคคล จากการยิงแพ้สาวจีน แต่ก็ได้เฮดั ง ๆ เพราะตามกฎห้ามนักกีฬาจากชาติเดียวกัน ขึ้นแท่นรับเหรียญรางวัล "น้องเจน" จึงรับส้มหล่นไปเข่งใหญ่ทีเดียว

  9. น่าเสียดายที่สุด : เป็นเอก การะเกด นักเทควันโด เจ้าของเหรียญเงิน ซึ่งพ่ายให้กับคู่ต่อสู้จากไทเปแบบสูสี ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ชนิดต้องนับคะแนนดิบ ทำให้ได้เป็นแค่พระรอง ทั้ง ๆ ที่ชื่อ "เป็นเอก"

               
  10. น่าเห็นใจที่สุด : บุตรี เผือดผ่อง กับ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล 2 ฮีโร่โอลิมปิก แต่กลับมาเสียท่าในเอเชียนเกมส์ โดยน้องสอง จอมเตะสาวของไทยไม่ได้เหรียญใดๆ เลย จากกวางโจวเกมส์ ในขณะที่ "น้องเก๋" ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นัก ทำได้ดีที่สุด ด้วยการประคองตัวคว้าเหรียญทองแดงกลับมาได้

 แต่เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากที่สุด ที่ทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น ได้สรุปไปนี้แล้ว คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และฝ่ายเตรียมนักกีฬาไทย น่าจะต้องมีการประเมินกันใหม่ว่า ต่อไปนี้ การจะส่งนักกีฬาไปแข่งขัน ในเวทีเอเชียนเกมส์ หรือรายการอื่น ๆ นั้น จะส่งไปแบบเน้นปริมาณ เพื่อได้กลับมาแค่คำว่าประสบการณ์ หรือเน้นไปที่คุณภาพมากกว่ากัน