"Facebook"ขึ้นแท่นเว็บยอดฮิตอันดับหนึ่งโลก
Facebook เผยมีจำนวนผู้สนใจลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้นกว่า4เท่าช่วงปีที่ผ่านมา เหตุนักการตลาดหวังให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองอยู่ในสายตาผู้บริโภค
Facebook Inc.ผู้ให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมรายใหญ่สุดของโลก แถลงวานนี้ (2 มิ.ย.) ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2552 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนผู้ลงโฆษณาผ่านทางหน้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า และในปีที่แล้ว ยังมีการเพิ่มจำนวนพนักงานขายโฆษณาเพิ่มขึ้นจากระดับเมื่อปี 2551 ถึง 2 เท่า
อย่างไรก็ดี Facebook ซึ่งมีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วโลก เพื่อให้บริการลูกค้าที่ต้องการลงโฆษณา ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขลูกค้า หรือพนักงานขายแต่อย่างใด
นายไมค์ เมอร์ฟี รองประธานบริหารฝ่ายขายทั่วโลก เผยว่า บริษัทอยู่ในสถานะที่ดีมาก เพราะมีโฆษณาเข้ามาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในสถานะไม่ดีนัก ซึ่งส่งผลให้เฟซบุ๊คกลายเป็นตัวเลือกหลักอย่างชัดเจนในด้านการทำตลาด
พื้นที่โฆษณาที่ Facebook ขายนั้น จะอยู่ในหน้าโฮมเพจของผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นสถานที่แสดงความเห็น รูปภาพ และการเชื่อมต่อล่าสุดจากเพื่อนๆ ของผู้ใช้ที่มีการโพสต์ไว้ และโฆษณานี้ ยังไปแสดงอยู่บนหน้าประวัติด้วย โดยหน้านี้ อาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของผู้ใช้บริการ เช่น เพศ หรือวันเดือนปีเกิด
การเปิดเผยข้างต้นมีขึ้นในช่วงเวลาที่บรรดาบริษัทต่างๆ พากันเพิ่มการใช้จ่ายด้านโฆษณา หลังเศรษฐกิจเริ่มหลุดพ้นจากภาวะซบเซา ในความพยายามที่จะเข้าถึงผู้บริโภค ที่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจออินเตอร์เน็ตนานขึ้น
ลูกค้าโฆษณาของFacebook ที่มีสมาชิกสมัครใช้บริการอยู่มากกว่า 500 ล้านราย รวมถึง พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล โค (พีแอนด์จี) ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ทอยส์ อาร์ อัส อิงค์ บริษัทของเล่นชั้นนำ และ เวอร์จิน อเมริกา อิงค์ สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติสหรัฐ
ทางด้านนายคริส บาร์เบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัล บริษัทสปอร์ต สไตล์ ในเครืออาดิดาส ผู้ผลิตสินค้ากีฬารายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ระบุว่า บริษัทใช้Facebookสำหรับการโฆษณาสินค้ายี่ห้อออริจินัลส์ ซึ่งมุ่งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าอายุน้อย
"ไม่ว่าลูกค้าเราจะไปอยู่ที่ไหน เราก็จะใช้Facebookเป็นสถานที่ที่จะพูดคุยกับพวกเขา" นายบาร์เบอร์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ คอมสกอร์ อิงค์ บริษัทด้านการวิจัย ระบุว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2553 Facebookครองแชมป์ผู้ให้บริการโฆษณาออนไลน์ ด้วยจำนวนโฆษณาที่นำเสนอต่อผู้ใช้บริการในสหรัฐ 176,300 ล้านดิสเพลย์ เพิ่มขึ้นจาก 70,700 ล้านดิสเพลย์เมื่อปีก่อน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 16.2% เพิ่มเป็น 2 เท่าจากส่วนแบ่งตลาด 7.5% ตลอดทั้งปี 2552
ขณะที่แชมป์เก่า ที่ครองตำแหน่งมายาวนานอย่างยาฮู อิงค์ ตกไปอยู่อันดับสอง โดยไตรมาสแรกมีดิสเพลย์โฆษณาทั้งหมด 131,500 ล้านดิสเพลย์ หรือ 12.1% ในตลาด ตามมาด้วยไมโครซอฟท์ 60,200 ล้านดิสเพลย์ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 5.5%
ส่วนข้อมูลจากเอ็กซ์พีเรียน ฮิทไวซ์ บริษัทวิจัยในรัฐนิวยอร์ก แสดงให้เห็นว่า ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา Facebookขึ้นแท่นเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุด แซงหน้า กูเกิล อิงค์ ที่อยู่ในตำแหน่งนี้มานาน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ 3 มิ.ย.53