32 กำลังใจ..น่าคิด

 
 
1.  การไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ความล้มเหลว 
ความล้มเหลวคือความคิดที่ว่าตนเองไม่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต
หากไม่ได้ เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย 
 
 
2. โลกนี้ไม่มีงานสกปรก งานสกปรกคืองานของคนใจสกปรกเท่านั้น 
โลกนี้ไม่มีงานต่ำต้อย งานต่ำต้อยคืองานของคนที่คิดว่าตนเองไม่มีค่าเท่านั้น 
 
 
3.การศึกษาไม่ใช่โรงเรียน ไม่ใช่ตำรา ไม่ใช่มหาวิทยาลัย 
ไม่ใช่ประกาศนียบัตร ไม่ใช่ปริญญาบัตร 
หากคือความสามารถที่ยกระดับของปัญญา และปัญญานั้นไม่ใช่เป็นเพียงความคิดเท่านั้น 
หากคือความเมตตาด้วย ดังนั้น การศึกษา จึงไม่ใช่การพัฒนาสมองส่วนเดียว
หาก เป็นการยกระดับจิตใจและวิถีชีวิต ด้วย 
 
 
4.การใช้ชีวิตก็เหมือนการชักว่าวกลางสายลมแรง 
คุณไม่มีเวลามาเปิดตำราว่าต้องทำอย่างไร 
 
 
5.หากมีคนเคยพิชิตยอดเขาสูงมาแล้วสักครั้งหนึ่ง 
หากมีคนเคยร่ำรวยมาแล้วสักครั้งหนึ่ง 
หากมีคนเคยสร้างสรรค์งานชั้นเยี่ยมมาแล้วสักครั้งหนึ่ง 
หากมีคนเคยใช้กำลังใจฝ่าอุปสรรคใหญ่หลวงมาแล้วสักครั้งหนึ่ง 
หากมีคนเคยทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้มาแล้วสักครั้งหนึ่ง 
ย่อมพิสูจน์ว่าเราก็ทำได้เช่นกัน 
 
 
6.ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จากโชค
ไม่น่าภูมิใจเท่า ความสำเร็จเล็กน้อยด้วยมือของเราเอง 
 
 
7.สรรพชีวิตล้วนมีหน้าที่ของมัน เมฆให้ฝน ต้นไม้ให้อากาศเราหายใจ 
แมลงผสมเกสร ฯลฯ  ทำงานของท่านให้ดีที่สุด 
ฟันเฟืองตัวเล็กที่สุดก็มีส่วนในการขับเคลื่อนโลก 
 
 
8.มดหนึ่งตัวขนของที่หนักกว่ามันหลายสิบเท่า 
น่าขันที่เราซึ่งอวดตัวว่าฉลาดกว่ามัน กลับทำงานได้น้อยกว่ามัน 
 
 
9. อย่าอ้างว่าเวลาน้อยทำงานอะไรไม่ได้ 
เวลาหนึ่งนาทีของผึ้งสามารถดูดน้ำหวานจากดอกไม้กลับบ้าน 
หนึ่งนาทีของมดสามารถขนเมล็ดข้าวที่หนักกว่าตัวมันไปไกลโข 
หนึ่งนาทีของปลวกสามารถสร้างรังของมันให้สูงขึ้น 
 
 
10.ใบไม้เก่าร่วงหล่นจากต้นลงสู่โคนเพื่อเป็นปุ๋ยให้ตัวมันเอง 
ประสบการณ์ที่เลวร้ายในชีวิตเป็นอาหารวิเศษให้เราเจริญเติบโตขึ้น 
 
 
11.เคยเห็นผึ้งฆ่าตัวตายไหม 
 
 
12.เคยได้ยินมดบ่นไหม 
 
 
13.เคยได้ยินแมงมุมนินทาชาวบ้านไหม 
 
 
14. หรือว่าพวกมันรู้ว่ามีเวลาเหลือบนโลกนี้เพียงเล็กน้อย 
จึงไม่ยอมเสียเวลาทำเรื่องที่ไร้ความหมาย 
 
 
15.บาง ครั้งเราต้องกล้าเผชิญชีวิตในโลกอย่างหนอนที่ไชผลแอ๊ปเปิ้ลจากจุดหนึ่ง 
โดยไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ตรงไหน นั่นทำให้การเดินทางนั้น พิเศษ
 
 
16.คลื่น ลูกใหม่ทุกลูกล้วนต่อยอดมาจากซากของคลื่นลูกเก่า 
ประวัติศาสตร์มีไว้ศึกษาประสบการณ์ของคนอื่น 
จงเรียนรู้จากบทเรียนชีวิตของคนอื่น  ใช้ประโยชน์จากมันเฉกเช่นว่ามันเป็นของเรา 
 
 
17. ความรักธรรมชาติมิได้หมายถึงการเดินทางไกลไปชมสวนใหญ่โต 
มิใช่การเกลือกกลิ้งบนผืนทรายขาวริมทะเล หรือการเดินทางขึ้นยอดภูเพื่อชมโลก 
ความรักธรรมชาติอาจเป็นเพียงการดูเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นตามทาง 
การดูซากร่วงโรยของสรรพสิ่ง และสามารถ พิศวงถึงความงามของความจริง
 
 
18. ผ่านสี่ห้าปีในมหาวิทยาลัยโดยไม่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม 
ก็เหมือนการเรียนทฤษฎีที่ไม่เคยมีภาคปฏิบัติ 
 
 
19. สังคมของเราตอนนี้เต็มไปด้วยคนที่เป็นทุกข์ 
สังเกตจากคนที่ต้องพูดโทรศัพท์ในโรงหนัง
โดยไม่สามารถมีความสุขง่าย ๆ สักชั่วยามเดียว 
 
 
20. หากไม่มีกลางคืน หิ่งห้อยคงไม่สามารถเปล่งแสงแสนสวยออกมาให้เราชม 
หากไม่มีอุปสรรค เราก็คงไม่มีวันใช้ขีดความสามารถของเราถึงที่สุด 
 
 
21. ทุก ๆ นาทีมีตัวตนของมันเพียงแวบเดียวและไม่หวนกลับมาอีก 
น่าเสียดายหากต้องเสียมันไปกับการบ่น การก่นด่าโชคชะตา การคร่ำครวญ การนินทา 
 
 
22. อกหักก็เหมือนเป็นหวัด  ติดง่าย หายง่าย
ยังไม่เห็นมีใครตายเพราะโรคนี้สักคน 
 
 
23. ภาพถ่ายที่รีบร้อนล้างมักมืดไป ข้าวที่รีบร้อนหุงมักสุกไม่ทั่ว 
อาหารที่รีบร้อนปรุงมักไม่อร่อย  ทำไมต้องรีบร้อนหาแฟน?
 
 
24. การรีบร้อนหาแฟนก็เหมือนการเดินทางไกลโดยไม่ตรวจสภาพรถก่อน 
 
 
25. หนังสือก็เหมือนวิตามิน กินชนิดเดียวตลอดเวลาไม่ได้ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น 
 
 
26. คบเพื่อนไม่ดีก็เหมือนพบหนังสือที่ทุกหน้าว่างเปล่าและยังอ่านต่อไป 
 
27. น่าตลกไหมที่บางคนมือหนึ่งถือปริญญาบัตรแนบแน่น 
อีกมือหนึ่งทิ้งขยะตามที่สาธารณะ ‘ ปริญญาบัตรไม่มีความหมายอะไรเลย 
หากเรายังไม่สามารถปลดปล่อยตนเองจากความคิดที่ว่าปริญญาบัตรยังคือทุกสิ่ง 
‘ จงใช้เพื่อนเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่ให้นำทาง ‘ 
ความสนุกของการเรียนรู้คือการลุ้นค้นพบความรู้ใหม่ ๆ ที่เรายังไม่ได้เรียนรู้ 
 
 
28. ระบบ ที่เลิกยากที่สุดในสังคมคือระบบทาส 
ไม่ว่ามองไปในทิศทางไหน ก็เห็นแต่ทาสวัตถุ ทาสเงินตรา ทาสมือถือ 
ทาสรถยนต์ ทาสยี่ห้อสินค้า ทาสชื่อเสียง น่าขันที่บางคนเห็นโซ่ตรวนเป็นเครื่องประดับ 
 
 
29. โลก คือแม่ของเรา แม่ผู้เจ็บปวดทุกครั้งที่เราตอบแทนแม่ด้วยการทิ้งขยะ 
รมแม่ด้วยควันบุหรี่และควันพิษ สาดกายแม่ด้วยสารเคมี ทำลายปอดของแม่ด้วยการลิดรอนต้นไม้ 
แม่ร้องไห้ด้วยน้ำท่วม หยาดน้ำตาคือฝนที่ตกลงมาผิดเวลา 
สะอื้นแรงจนแผ่นดินแตกระแหง 
แต่เพราะแม่ให้อภัยเราเสมอ อาจยังไม่สายเกินไปที่จะทดแทนคุณแม่อีกครั้ง 
 
 
30. จงผัดวันประกันพรุ่งต่ออบายมุขทุกชนิด 
 
 
31. คำ ว่า แม่ ในความรู้สึกของเราเป็นมากกว่าความรัก 
เป็นการเรียนรู้ชีวิตอย่างหนึ่ง บางสิ่งฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเรามาตลอด 
บางสิ่งที่ขาดหายไป นั่นคือผมไม่เคยบอกว่ารักแม่เลยในชีวิต 
ไม่เคยกอดแม่ เมื่อแม่จากไปอย่างถาวร เราเกิดความรู้สึกว่าได้สูญเสีย
โอกาสที่งดงามที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตไปตลอด กาล 
เราไม่ใช่คนเดียวที่ประสพกับธรรมเนียมของครอบครัวจีนแบบเก่า
ที่เห็นว่า การบอกรักคนที่เรารักเป็นเรื่องแปลก เพื่อนชาวไต้หวันคนหนึ่งเคยเล่าว่า 
เมื่อเธอกลับจากการเรียนต่อที่อเมริกากลับบ้าน แม่ไปรับที่สนามบิน 
เธอโผเข้ากอดแม่ทั้งที่ตลอดชีวิตไม่เคยทำอย่างนั้น 
แม่ของเธอมีสีหน้าตกใจอย่างใหญ่หลวง! เราเรียนรู้ออกจะช้าไปหน่อยว่า 
เมื่อรักใครก็ควรแสดงออกมาให้เขารู้ แต่ไม่ช้าเกินไปที่จะบอกคนอื่น ๆ ว่า 
ไปเยี่ยมแม่ของคุณวันนี้ บอกรักแม่ของคุณเสียก่อนที่แม่ของคุณ
จะไม่ได้ยินคำบอกรักนั้น หากเป็นเช่นนั้นคงน่าเสียดายมากไม่ใช่หรือ 
 
32. ไม่จำเป็นต้องเป็นไก่เท่านั้นถึงจะมี อารมณ์ขัน
#32 #กำลังใจ..น่าคิด
yayeenob
นักแสดงรับเชิญ
28 พ.ย. 53 เวลา 04:59 1,117 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...