เป็น ข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกสำหรับกรณีที่ประชาชนไปซากศพทารกจำนวน 2 พันกว่าศพจากการทำแท้ง ภายในวัดวัดไผ่เงินโชตนาราม ซอยตรอกจันทร์แยก 20 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. สร้างความหดหู่ และกลายเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่ประชาชนให้ความสนใจไม่แพ้เรื่องภัยพิบัติเรื่องน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดใน ประวัติศาสตร์เรื่องน้ำของประเทศไทย

แม้ว่าจำหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมนายสุเทพ ชะบางบอน กับนายสุชาติ ภูมี  2 สัปเหร่อ สุดแสบและสาวต่อไปจับกุมน.ส.ลัญฉกร หรือ “โก๊ะ” จันทมนัส ผู้จ้างวานได้ที่คลินิกทำแท้งเถื่อนย่านเพชรเกษมแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าปัญหาเด็กวัยรุ่นและหญิงสาวที่ตั้งท้องแบบไม่ผึงประสงค์และไม่ ว่าจะด้วยเหตุผลได้ก็ตาม ก็คงยังจะไม่หมดไปจากสังคมไทย ตรงกันข้ามกับมากขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาดังกล่าวนับเป็นปัญหาสังคมที่ร้ายแรงไม่แพ้กับปัญหายาเสพติดที่แพร่ ระบาดทั่วประเทศอยู่ในตอนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมในสังคม ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเรื่องเด็กทำแท้งไม่ใช่เป็นปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้าน เรา แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ไม่มีใครให้ความสนใจเท่าไรนัก และทางผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงนั้น ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเท่าที่ควร

ครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือถึงคราวซวยของ 2 สัปเหร่อ กับมือทำแท้ง ที่ดันมีชาวบ้านไปพบซากศพเด็กทารกเข้าเลยกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ร้อนถึงผู้ใหญ่ซึ่งต้องลงมากำกับดูด้วยตัวเอง พร้อมกับประกาศกฎเหล็กปราบปรามคลิกทำแท้งเถื่อนทั่วประเทศ ให้เช็คคลินิกที่เข้าข่ายที่จะมีการกระทำผิดทั้ง 4 ประเภท คือ คลินิกเสริมความงาม คลินิกรับทำศัลยกรรม คลินิกรับบำบัดยาเสพติด และคลินิกรับวางแผนครอบครัว

ถือว่าเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่ครั้งแรกที่ “วัวหายแล้วล้อมคอก” วิ่งไล่ตามแก้ไขปัญหา ซึ่งการไล่บี้ปิดคลินิกทำแท้งเถื่อนนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า แท้จริงแล้วเรื่องการมีเพศสัมพันธ์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็น อย่างมาก ต้องปลูกฝังมาจากครอบครัว ซึ่งหลายครอบครัวเองยังรับไม่ได้ที่ลูกสาวหรือลูกชายของตัวเองมีเพศสัมพันธ์ ก่อนวัยอันควร และไม่มีการพูดคุยกับลูกในเรื่องนี้เพราะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่น่า เอามาสนทนา

 แม้ว่าปัจจุบันทุกโรงเรียนจะบรรจุวิชาเพศศึกษาไว้ในตารางเรียนแล้วก็ตาม เชื่อว่าหากเด็กเกิดความสงสัยก็คงจะไม่กล้าถามในห้องเรียน เพราะกลัวจะถูกเพื่อนๆ มองว่าไม่ดี ฉะนั้นเมื่อลูกเกิดความสงสัยคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องตอบคำถามลูกเพื่อให้หาย สงสัยและไม่ควรตำหนิหรือว่าดุด่า หากคนในครอบครัวมีการพูดคุย และเปิดโอกาสให้เด็กพูดมากขึ้น บางทีปัญหาท้องก่อนวัยอันควรอาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ หากเกิดขึ้นก็คงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

เด็กสมัยนี้หรือไม่ว่าสมัยไหนๆ ก็ไม่ต่างกัน ยิ่งห้ามเหมือนกับยิ่งยุ ยิ่งปกปิดก็ยิ่งอยากรู้ สู้มานั่งจับเข่าคุยและหาแนวป้องกันจะดีกว่า ไหนๆ ก็ห้ามไม่ได้แล้ว หาวิธีป้องกันให้จะดีกว่า ซึ่งจะได้ไม่ต้องมีปัญหาท้องก่อนวัยอันควรและมาทำแท้งซึ่งกันภายหลังซึ่ง กลายเป็น “เชื้อโรคร้ายของสังคม” เป็นปัญหาสังคมที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น

 สำหรับสถิติใน 1 ปี มีหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ล้านคน มีทารกแท้งเองร้อยละ 6 ถูกทำแท้งอย่างถูกกฎหมายร้อยละ 8 คลอดออกมาแล้วเสียชีวิตร้อยละ 1 ที่เหลือจากนั้นปลอดภัยมีชีวิตอยู่ร้อยละ 85 สำหรับการทำแท้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นสามารถทำได้เพียง 2 กรณี คือ ทารกอยู่ต่อไปแล้วอาจเป็นอันตรายต่อแม่ และ กรณีแม่ถูกข่มขืน ซึ่งจะต้องผ่านการทำจากแพทย์และมีต้องมติของคณะแพทย์เป็นผู้พิจารณาสั่งการ โดยยึดหลักเกณฑ์ที่แพทย์สภาวางหลักไว้    

 สำหรับประชาชนท่านใดพบคลีนิคเข้าข่ายต้องสงสัยว่ารับทำงานผิดกฎหมายหรือทำ แท้งเถื่อนแจ้งที่ตู้ ปณ.9 กระทรวงสาธารณสุข รหัสไปรษณีย์ 11000 หรือโทรที่สายด่วน 1593

อดิศร กล่ำเชาว์ รายงาน