ทึ่ง! ฝาแฝดศีรษะติดกัน รับรู้สิ่งเดียวกัน
33Share
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Barcroft Media, funnywebpark
เมื่อ วันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ของอังกฤษ ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดทึ่ง ของเด็กหญิงฝาแฝดวัย 4 ขวบจากบริทิชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ที่มีศีรษะติดกัน แต่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้และมีสุขภาพแข็งแรงดี
โดยเด็กหญิงฝาแฝดคู่นี้ ได้แก่ คริสตา และ ทาเทียน่า เป็นเด็กแฝดที่เกิดมามีลักษณะผิดปกติ คือ มี ศีรษะติดกัน และมีสมองส่วนทาลามัสเชื่อมต่อกัน ซึ่งสมองส่วนนี้ ทำหน้าที่ถ่ายทอดกระแสประสาทเพื่อส่งไปยังจุดต่าง ๆ ในสมอง รับรู้และตอบสนองความรู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น การมีสมองส่วนนี้เชื่อมต่อกัน จึงทำให้คริสตา และ ทาเทียน่า สามารถรับรู้ความคิดของกันและกันได้ และมองเห็นในสิ่งที่อีกคนหนึ่งเห็นได้อีกด้วย
เฟลิเซีย ซิมมส์ แม่ของเด็กหญิงฝาแฝด ได้เปิดเผยว่า เธอ รู้ว่าลูกสาวฝาแฝดของเธอมีศีรษะติดกัน ขณะที่เธอตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ซึ่งตอนนั้นแพทย์ได้อัลตราซาวด์และพบความผิดปกติดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นเธอรู้สึกตกใจมาก มันไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ แต่เมื่อได้มองเห็นพวกเธอตอนที่อัลตร้าซาวด์ เธอก็บอกตัวเองว่าไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะต้องดูแลลูกสาวที่จะเกิดมาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ และหลังจากที่เธอคลอดลูกสาวแล้ว เธอก็พบเรื่องน่าทึ่งอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอสามารถรู้เห็นในสิ่งเดียวกันได้ อย่างเวลาที่ลูกสาวทั้งสองคนของเธอเล่นด้วยกัน พวกเธอจะสามารถเอื้อมมือไปรับลูกบอลจากอีกด้านหนึ่งที่ตัวเองหันหลังให้ได้ โดยที่ไม่ต้องหันหน้าไปเลย เรียกว่าใช้ดวงตาเดียวกันในการมองเห็นเลยทีเดียว และมันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก
นอกจาก สามารถรู้เห็นในสิ่งเดียวกันได้แล้ว คริสตา และ ทาเทียน่า ยังรับรู้ความคิดของกันและกันโดยไม่ต้องพูดจากันเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกัน เวลาที่ใครคนใดคนหนึ่งมีแผลหรือเดินชนอะไรเข้า อีกคนก็จะเจ็บปวดและร้องไห้ไปพร้อม ๆ กัน
ด้าน นายแพทย์ดั๊ก โคเครน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองที่เฝ้าดูอาการของ คริสตา และ ทาเทียน่า มาตั้งแต่เกิด ได้ยืนยันว่า คริสตา และ ทาเทียน่า สามารถรู้เห็นในสิ่งเดียวกัน และรับรู้ความคิดของกันและกันได้ อีกทั้งที่ผ่านมามีเด็กที่เกิดโดยมีศีรษะติดกันกว่า 8 รายแล้ว แต่มีเพียงแค่ 3 รายเท่านั้นที่รอดชีวิต คริสตา และ ทาเทียน่า จึงเป็นคู่ฝาแฝดที่โชคดีมาก ๆ แต่อย่างไรก็ตาม กรณีของ คริสตา และ ทาเทียน่า ก็ยังเป็นกรณีที่ต้องเฝ้าติดตามต่อไป
ส่งเรื่องนี้ให้เพื่อน
ส่งกระทู้นี้ไปให้เพื่อน
เมล์คุณ:
เมล์เพื่อน: