สัปเหร่อ สารภาพทำกัน 2 คนฝากขอโทษสังคม เตรียมบวช ตำรวจคุมตัวฝากขังค้านประกัน

20 พย. รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ทั้ง บีบีซีของอังกฤษ ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ และเอเอฟพีของฝรั่งเศส รายงานข่าวการพบซากทารกจำนวนมากกว่า 2,000 ร่างในวัดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ โดยระบุว่า เป็นคดีประหลาดที่มีการพบศพทารกจำนวนมากพร้อมกันในคราวเดียวครั้งแรกๆของ โลก

ทั้งนี้ ทำให้ข่าวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก โดยรายงานข่าวระบุว่า ซากทารกทั้งหมดที่ถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกเหล่านี้ถูกนำมาจากสถานรับทำแท้ง เถื่อนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมีกระบวนการในการนำศพทารกจำนวนนี้มาซุกซ่อนไว้ ในที่สำหรับเก็บศพเพื่อรอการฌาปนกิจของวัดแห่งดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทราบจากกลิ่นของซากทารกจำนวนมากที่คละคลุ้งออกมา

สำหรับ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เป็นคนงานในวัดจำนวน 2 ราย และผู้หญิงวัย 33 ปีรายหนึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องสะเทือนขวัญนี้ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดได้ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางตำรวจออกมาระบุว่า พวกเขาเตรียมบุกเข้าตรวจค้นคลีนิกอีกกว่า 4,000 แห่งทั่วเขตกรุงเทพฯที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการทำแท้งเถื่อนเกิดขึ้น

ส่วน สำนักข่าวในไทยรายงานเพิ่มเติมว่า นายสุเทพ ชะบางบอน สัปเหร่อ และนายสุชาติ ภูมี เจ้าหน้าที่วัดไผ่เงิน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นศพ ทำลายพยานหลักฐาน ในการกระทำความผิด เพื่อช่วยให้ผู้อื่นไม่ต้องรับโทษ ตามที่พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รวบรวมพยานหลักฐานจนมัดแน่น โดยตำรวจได้คุมตัวทั้งคู่ฝากขังและยื่นคัดค้านการประกันตัวแล้ว

ด้าน น.ส.รัญฉกร ต้องหาอีกรายถูกพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม นำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชันฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีที่มีอัตราโทษสูง ถ้าได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจหลบหนีและเข้าไปทำลายวัตถุหลักฐาน

อย่าง ไรก็ดี นางสมบัติ รับสารภาพว่าร่วมกันกระทำความผิดกับ นายสุชาติ เพียงสองคน โดยมี น.ส.รัญฉกร เป็นคนนำศพทารกมาให้ ส่วนที่ไม่คิดเผาทำลายศพเพราะไม่อยากทำร้ายศพทารกซํ้าอีก ซึ่งพวกตนต้องขอโทษสังคมกับเรื่องดังกล่าว และอยากออกบวชเพื่อชดใช้กรรม

อนึ่ง การทำแท้งถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยมีข้อยกเว้น 2 กรณีคือ หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน หรือในกรณีที่สุขภาพของผู้เป็นแม่ตกอยู่ในภาวะอันตรายร้ายแรงเท่านั้น แพทย์จึงจะอนุญาตให้มีการทำแท้งได้