ก้อผม ชอบ นิ 5555+ ซาตาน
ลัทธิซาตาน
ศาสนาและคำสอนเท็จ
โดย อจ. ธวัช เย็นใจ
๑ ซาตานมีจริง
คนหลายปฏิเสธในเรื่องของผี วิญญาณชั่ว แต่บางคนคิดว่าเป็นเรื่องนิทานและนิยาย ในขณะที่หลายคนหลงคลั่งไคล้ว่า มารซาตานมีอิทธิพลมากและมันอยู่เบื้องหลังของทุกสิ่ง ทุกอย่าง ในพระคริสตธรรมคัมภีร์บอกอย่างชัดเจนว่า มารซาตานมีอยู่จริง แต่พระเยซูคริสต์มีฤทธิ์อำนาจเหนือกว่า
๒ ความเป็นมา
๑ ลูซีเฟอร์เป็นทูตสวรรค์
พระเจ้าทรงสร้างทูตสวรรค์จำนวนมากขึ้นมาเพื่อปรนนิบั ติรับใช้พระองค์ มีอยู่องค์หนึ่งชื่อ “ลูซีเฟอร์” ที่ได้รับตำแหน่งสูงสุด คอยดูแลพระบัลลังก์ของพระเจ้า แต่ในเวลาต่อมาได้คิดกบฏต่อพระองค์ จึงถูกขับไล่ลงจากสวรรค์
ข้อมูลเกี่ยวกับลูซีเฟอร์ อยู่ในพระธรรมเอเสเคียล ๒๘.๑๑-๑๙ กล่าวถึงเจ้าเมืองไทระว่า เป็นคนที่เย่อหยิ่ง ความมั่งคั่งของเขาทำให้คิดว่าตนเองเป็นพระเจ้า แต่เบื้องหลังของพระคัมภีร์ตอนนี้กล่าวเล็งถึงทูตสวร รค์ “เจ้าเป็นตราแห่งความสมบูรณ์แบบ เต็มด้วยสติปัญญา มีความงามอย่างพร้อมสรรพ เจ้าอยู่ในเอเดนพระอุทยานของพระเจ้า เพชรพลอยทุกอย่างเป็นเสื้อของเจ้า..ในวันที่สร้างเจ้ าขึ้นมา เราตั้งเจ้าให้อยู่กับเครูบ ผู้พิทักษ์ได้เจิมตั้งไว้ เจ้าอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของพระเจ้า และเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง เจ้าก็ปราศจากตำหนิในวิธีการทั้งหลายของเจ้า ตั้งแต่วันที่เจ้าถูกสร้างขึ้นมาจนพบความชั่วในตัวเจ ้า”
๒ ลูซีเฟอร์กบฏต่อพระเจ้า
อิสยาห์ ๑๔.๑๒-๑๔ กล่าวถึงการล้มลงในความผิดบาปของทูตสวรรค์ลูซีเฟอร์ “โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอ่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้ประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรไกล ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้า”
ปรากฎการณ์ของซาตาน หรือความผิดบาปของลูซีเฟอร์ คือ การกบฏ และทำตัวให้เหมือนหรือเท่าเทียมกับพระเจ้า ซึ่งมันใช้คำว่า “ข้า” ถึงห้าครั้งด้วยกัน
หลายคนมักจะถามว่า “เพราะเหตุใดพระเจ้าจึงทรงสร้างมารซาตานขึ้นมา? ” หรือเหมือนกับถามว่า ทำไมพระเจ้าจึงทรงสร้างสิ่งชั่วร้ายขึ้นมา (ขอดูเจตนารมย์ในการที่พระเจ้าทรงสร้างโลก จักรวาล ทูตสวรรค์ มนุษย์และสรรพสิ่งขึ้นมา ล้วนแต่เป็นสิ่งดีทั้งสิ้น ปฐก. ๑-๓)
๓ มารซาตานลอกลวงมนุษย์
ในปฐมกาลบทที่ ๓ บันทึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนเอเดน มารซาตานในร่างของงูเข้ามาล่อลวงเอวากับอาดัมให้กินผ ลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าทรงห้ามไว้นั้น โดยใช้คำถามทำให้สงสัยในความรักของพระองค์ ประการแรกมันถามว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า อย่ากินผลไม้ใดๆในสวนนี้” ประการที่สอง ซาตานมันบอกว่า “เจ้าจะไม่ตายจริงดอก เพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า ถ้าเจ้ากินผลม้นั้นวันใด ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้งเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า” (ปฐก. ๓.๑-๕)
การทดลองไม่ใช่ความบาป แต่การยอมแพ้การทดลองเป็นความบาป มนุษย์คู่แรกยอมพ่ายแพ้ต่อการทดลอง นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา มารซาตานก็กระทำให้ตาใจของผู้คนมืดบอดไป มันพยายามดึงคนให้ห่างไกลจากทางของพระเจ้า “แต่ถ้ามีม่านบังข่าวประเสริฐไว้จากใคร ก็จากคนเหล่านั้นที่กำลังพินาศ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้ทำให้ตาใจของเขามืดไป เพื่อไม่ให้เห็นความสว่างของข่าปวระเสริฐของพระคริสต ์ ผู้เป็นพระฉายาของพระเจ้า” (๒ คร. ๔.๓-๔)
๓ ชื่อของมารซาตาน
พระคัมภีร์เรียกชื่อต่างๆของมารซาตานดังนี้
๑ มาร (ยน. ๘.๔๔) ในภาษากรีกหมายถึง “ผู้กล่าวโทษ” หรือผู้กล่าวร้าย มีจุดประสงค์เพื่อทำลาย
๒ ซาตาน (มธ. ๑๒.๒๖) ในภาษาฮีบรูมีความหมายว่า “ผู้ต่อต้าน ผู้ขัดขวาง” มันได้ทำการขัดขวางมนุษย์และพระเจ้าทุกวิถีทาง
๓ ผู้ทดลอง (มธ. ๔.๓) พระเจ้าทรงทดสอบมนุษย์เพื่อให้ชนะ แต่มารทดลองมนุษย์เพื่อให้พ่ายแพ้
๔ พ่อของการมุสา (ยน. ๘.๔๔)
๕ เจ้าแห่งความตาย (ฮน. ๒.๑๔) ซาตานมีอำนาจของความตาย มันสามารถกล่าวโทษมนุษย์ที่ทำบาป
๖ เบเอลซาบูล (มก. ๓.๒๒,๒๓) มีความหมายว่า เจ้าแห่งแมลงวัน, หรือเจ้าเหนือมูลสัตว์
๗ เบลีอัล (๒ คร. ๖.๑๕) เดิมชื่อนี้มีความหมายทั่วไปว่า “ไม่มีคุณค่า” ต่อมานำมาใช้กับพวกศัตรูที่ไม่มีคุณค่าเลย
๘ มารร้าย (๑ ยน. ๒.๑๓) พระคัมภีร์กล่าวถึงการกระทำของมารซาตานว่า “มีความชั่วร้ายอย่างสุดขีด”
๙ เจ้าแห่งโลกนี้ (ยน. ๑๔.๓๐) มารซาตานจะมีอำนาจเหนือโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความผิดบา ป
๑๐ เจ้าแห่งอากาศ (อฟ. ๒.๑-๒) พระคัมภีร์สอนว่า ในฟ้าอากาศเต็มไปด้วยวิญญาณที่ดีและวิญญาณชั่วต่างๆ ซึ่งเป็นเทพหรือผีตามลำดับชั้นของมัน
๔ การหลอกลวงของมารซาตาน
สิ่งที่มารซาตานได้พยายามหลอกลวงมนุษย์มีดังต่อไปนี้
หนึ่ง – ทำให้ผู้คนเชื่อว่ามันไม่มีตัวตนอยู่จริง ผีมารซาตานเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กเท่านั้น
สอง – ทำให้คนเห็นว่ามันเป็นตัวตลกโบราณ มีร่างกายสีเขียว หน้าตาน่าเกลียด มีสองเขาบนหัว มีหางเป็นลูกศร และมือถือสามง่าม
สาม – มันทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่ยังอยากรู้อยากเห็นเรื่องราว และชื่นชอบในฤทธิ์อำนาจ ของมัน ในรูปแบบของหนังสือหรือภาพยนตร์ เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ แดรกคิวล่า ดิเอกซ์ซอซิสท์ แม่นาค ตุ๊กแกผี ปอบผีฟ้า กระสือสวาท ฯลฯ
สี่ – มารซาตานมาในรูปแบบของสิ่งประดิษฐ์ที่เอื้ออำนวยความ สะดวกสบาย หรูหรา สนุกสนานและบันเทิง เช่น ทีวี อินเตอร์เนท วีดิโอ เสรีภาพทางเพศ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าแฟชั่น อาหาร เงินทองและความร่ำรวย บ้าน รถยนต์ และฯลฯ
ห้า – หลอกลวงทางศาสนา มารซาตานอาจจะมาในรูปแบบของนักศาสนาที่ทำตัวเคร่งครั ด เป็นคนดีมีศีลธรรม นักสังคมสงเคราะห์ โดยไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับการไถ่บาปด้วยพระโลหิตของพร ะเยซูคริสต์ เช่น พวกฟาริสีและศาสนาอื่นๆ
หก – มารซาตานจะหลอกลวงทางผู้สอนเท็จ เช่น พยานพระยะโฮวาห์ มอร์มอน ชิลเดรนออฟก็อด มูน คริสเตียนตกขอบ ฯลฯ
๕ วาระสุดท้ายของซาตาน
พระคัมภีร์ได้กล่าวอย่างชัดเจนถึงจุดจบของมารซาตาน
๑ คำตรัสของพระเยซูคริสต์
“พระองค์ตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ขอ งพระองค์ว่า ท่านทั้งหลายผู้ต้องถูกแช่งสาป จงถอยไปจากเรา เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมัน” (มธ. ๒๕.๔๑)
๒ สิ่งที่ยอห์นเห็นในนิมิตซึ่งเป็นอนาคตของมารซาตาน
“ส่วนพญามารที่ล่อลวงเขาเหล่านั้น ก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน ที่สัตว์ร้ายและคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะตกอยู่ ในนั้น และมันต้องทุกข์ทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไปเป็ นนิตย์” (วว. ๒๐.๑๐)
๓ พระเยซูชนะมารซาตาน
พระเจ้าจะทรงพิพากษาทุกสิ่งที่มีชีวิต รวมไปถึงทูตสวรรค์และมารซาตาน (ยน. ๕.๒๒) พระเยซูทรงชนะมารซาตานโดยสั่งขับไล่ผีที่เข้าสิงในผู ้คน (มธ. ๑๒.๒๘-๒๙) พวกสาวกของพระเยซูกลับมารายงานต่อพระองค์ด้วยความตื่ นเต้นว่า พวกผีทั้งหลายต่างก็ยอมอยู่ใต้อำนาจของพวกเขา ( มธ. ๑๐.๑, ๑๗-๒๐) การเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ ได้ประกาศชัยชนะต่ออำนาจของมารซาตาน (๑ ปต. ๓.๑๘)
๖ ลัทธิซาตาน
๑ มนต์ดำและไสยศาสตร์
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับลัทธิซาตานคือ ไสยศาสตร์ มนต์ดำ การใช้ยาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ การบูชายัญด้วยเลือด
โรเบอร์ต้า แบลนเคนชิพได้เล่าประสบการณ์ว่า “เธอต้องไปที่หลุมฝังศพในเวลาที่มืดสนิทและน่าก ลัว ต้องเดินข้ามไม้กางเขนขนาดใหญ่เท่ากับตัวคน และกล่าวปฏิเสธความเชื่อทุกอย่างในพระคริสต์ หลังจากนั้นก็จะเริ่มประกอบพิธี ต้องดื่มเลือดสดๆที่เชือดจากสัตว์เป็นๆ...”
ลีน แมคมิลลอนกล่าวว่า “รูปแบบหนึ่งของลัทธิบูชาซาตาน เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ มีการร่วมประเวณีในพิธีกรรมเพื่อบูชาซาตาน และอีกรูปแบบหนึ่งของลัทธิอันชั่วร้ายนี้คือ การใช้ยาเสพติด”
๒ การต่อต้านเรื่องพระเจ้า
แต่เดิมลัทธิซาตานเป็นขบวนการลับ แต่ปัจจุบันเปิดเผยตัวออกมาแล้ว มีลักษณะเป็นการต่อต้านศาสนาหรือต่อสู้กับเรื่องของพ ระเจ้า มีการนมัสการบุคคลที่ชื่อลูซีเฟอร์ (ซาตาน) ผู้ที่เข้าร่วมประชุมต้องปฏิเสธการเป็นคริสเตียน และยอมให้ลูซีเฟอร์เป็นพระเจ้าของพวกของเขา พบว่ากลุ่มพวกแม่แม่มดได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิซา ตานอย่างมาก
๓ โบสต์ของซาตาน
โบสถ์ของซาตานตั้งขึ้นในปี คศ. ๑๙๖๖ ที่ซานฟรานซิสโก โดยแอนตัน แซนเดอร์ ลา เวย์ มีสมาชิกจำนวนหลายพันคน และต่อมาโบสถ์ได้แพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริกา คำสอนของเขาเน้นในเรื่องวัตถุนิยมและความสุขนิยม เลเวย์มักจะแต่งกายด้วยสีดำทั้งชุด และใช้รถยนต์สีดำด้วย
ลาเวย์เป็นคนเชื้อสายรัสเซีย ฝรั่งเศสผสมโรมาเนีย เคยทำงานในโรงละครสัตว์ เคยเป็นตำรวจถ่ายภาพ เป็นนักออร์แกนในไนท์คลับ และชอบศึกษาในเรื่องศาสตร์ที่ลึกลับ เขากล่าวถึงโบสถ์ของตนเองว่า “มีการปล่อยตัวตามราคะตัณหาที่น่าสนุก จุดประสงค์เพื่อรวบรวมบุคคลที่มีความคิดเห็นอย่างเดี ยวกันเข้าด้วยกัน เพื่อใช้พลังอำนาจแห่งความมืด ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติมา นั่นคือซาตาน”
สมาชิกทุกคนต้องยอมรับว่าซาตานเป็นตัวแทนของ หนึ่ง การปล่อยตัวตามราคะตัณหา สอง การมีชีวิตตื่นเต้นสนุกสนาน สาม การแก้แค้น สี่ ยอมรับว่ามนุษย์มีธรรมชาติของสัตว์ ห้า ซาตานเป็นตัวแทนของทุกสิ่งที่เรียกว่าความผิดบาป และหก ต่อต้านคริสเตียนอย่างรุนแรง