การได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง
ความสุขที่แท้จริง จะแตกต่างจากสิ่งที่เราเคยสัมผัสผ่านมา
เมื่อเปรียบเทียบแล้วเราจะพบว่า สิ่งที่เราเคยรู้สึกว่าเป็นความสุขนั้น เป็นเพียงความสนุก ความเพลินชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าจะเป็นความสุข ก็เป็นสุขแค่เพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ความสุขที่ยิ่งใหญ่ หรือสุขแท้จริงที่เราปรารถนา
เมื่อลองสังเกตดูเราจะพบว่า เราเบื่อง่าย ไม่ว่าจะได้ของถูกใจ คนถูกใจ หรืออะไรๆ ที่ถูกใจ มันถูกใจประเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวเราก็เบื่อแล้ว
พอเบื่อหน่ายก็เปลี่ยนแปลงแสวงหาสิ่งที่อยู่ในอุดมคต ิของเราต่อไป คนสัตว์สิ่งของที่อยู่ในอุดมคติ แสวงหาสิ่งที่ดีกว่า ประณีตกว่า ประเสริฐกว่า ที่คิดว่าเป็นความสุขที่แท้จริง คิดว่าได้มาแล้วจะไม่ต้องไปแสวงหาอีก
แต่หาเท่าไรก็ไม่พบความสุขที่แท้จริง หรือมีอุดมคติว่า คนลักษณะเช่นนี้จะให้ความสุข ครั้นพบเข้าจริงๆ ก็สุขนิดเดียวแต่ทุกข์มากกว่า ต้องแก้ปัญหาสารพัด ต้องเปลี่ยนคนใหม่ มีของสิ่งนี้พอจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุข ความบันเทิงใจ ได้เดี๋ยวเดียวก็หายเห่อ เปลี่ยนของใหม่อีกแล้ว เปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
การเปลี่ยนแปลง คือ การแสวงหา นั่นคือ สัญญาณบอกให้เรารู้ว่า เรายังไม่พบของที่ดีจริง จึงเบื่อหน่ายเร็ว หายเห่อเร็ว เมื่อเบื่อก็เปลี่ยนแปลง แสวงหากันต่อๆ ไปอย่างนั้น การแสวงหาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้แหละ ที่เรียกว่าไม่สันโดษ
หากเรานำใจกลับมาหยุดนิ่งอยู่ในที่ตั้งดั้งเดิม ใจ จะมีความสบาย มีความสุข เป็นความสุขอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ยอมรับว่า นี่คือ สิ่งที่เราแสวงหา เป็นอารมณ์ที่มีความสุขจนกระทั่งไม่อยากได้อะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ อะไรต่างๆ เหล่านั้น อยากจะหยุดนิ่งอยู่กับอารมณ์ชนิดนี้เพียงอย่างเดียว
เมื่อมีความรู้สึกอย่างนี้เกิดขึ้น ใจก็เคลื่อนเข้าไปข้างใน ในที่สุดก็เข้าถึงกายต่างๆ พบกายภายใน กายในกาย เวทนาในเวทนา สุขจังเลย สุขขึ้นไปเรื่อยๆ จิตในจิตก็สุกใสสว่าง ธรรมในธรรมก็ละเอียดเข้าไปเรื่อยๆ อาศัยการหยุดการนิ่งนี่แหละเป็นตัวสำเร็จ
เมื่อเราเข้ามาสู่แหล่งของความสุขภายในที่แท้จริงบ่อ ยๆ อยู่กับสิ่งนี้บ่อยๆ ไม่ว่าจะทำกิจกรรม ในอิริยาบถต่างๆ จะนั่ง นอน ยืน เดิน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด หยุดนิ่ง ลิ้มรส เหยียดแขน คู้แขน หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะมีแต่ความสุข เพราะใจเป็นสุข...
อ่านต่อ http://www.dmc.tv/pages/dhamma_for_p...gkol04-58.html